Announcement

Collapse
No announcement yet.

สอบถาม Crossover Network หน่อยครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • สอบถาม Crossover Network หน่อยครับ




    ผมตั้งใจจะเปลี่ยนสายภายในใหม่และไม่รู้จะทำอะไรต่อดีอ่าครับ ขอคำแนะนำหน่อยนะครับ หรือเดิมๆดีครับ

    - ขดลวด 0.39mH
    - C 1.2uF

  • #2
    ครอส ของลำโพงอะไรหรอครับ เท่าที่ดูน่าจะ 1 ออเดอร์ ขอเดานะครับ

    ขดลวด น่าจะของดอกวูฟเฟอร์
    ส่วน C น่าจะของเสียงแหลม ค่าน้อยๆแหลมใสละเอียด น้อยมากๆระวังบาดล่ะกัน

    Comment


    • #3
      ลองเปลี่ยนเป็นพวก C film ก็ได้

      Comment


      • #4
        Originally posted by carbon_za View Post
        ครอส ของลำโพงอะไรหรอครับ เท่าที่ดูน่าจะ 1 ออเดอร์ ขอเดานะครับ

        ขดลวด น่าจะของดอกวูฟเฟอร์
        ส่วน C น่าจะของเสียงแหลม ค่าน้อยๆแหลมใสละเอียด น้อยมากๆระวังบาดล่ะกัน
        ของ Kenwood ls-uda77-m ครับ เดี่ยวคงต้องได้เพิ่มค่าแน่ๆเลยครับ ^^

        Originally posted by tiger X-fi View Post
        ลองเปลี่ยนเป็นพวก C film ก็ได้
        ขอบคุณมากครับ เดี่ยวพรุ่งนี้จะลองหาซื้อดูนะครับ

        Comment


        • #5
          ขอตอบตรงนี้เลยนะครับคุณตูน

          ถ้าจะปรับ Cross Over ต้องศึกษาเรื่องการคำนาณความถี่ Resonance (RLC) ครับ เราอยากได้ความถี่เท่าไร ออกที่ลำโพงใหน ขึ้นอยู่กับค่า R, L, C ครับ

          ส่วนเรื่องที่คุณตูนถามทาง PM มันเป็นเรื่องของ Hi-End ซึ่งส่วนใหญ่มันอยู่ที่ความชอบส่วนตัวครับ สิ่งที่เหลืออยู่กับผมในตอนที่เล่นเครื่องเสียงคือสายลำโพงตามรูปครับ



          ทุกวันนี้ผมทำงานเกี่ยวกับระบบภาพ+เสียงในห้องประชุม+สัมมนา+ห้องเรียนตามมหาลัย

          สิ่งที่ผมใช้สายเสียง คือ
          - Hosiwell ที่ Cost ค่อนข้างต่ำ
          - Neutrik ที่ Cost กลางๆ
          - Amphenol ที่ Cost ถึง

          สายที่ใช้ Wiring ใน System คือ Canare L2B2AT, Kelsey Uni-1 เสียงที่ได้มันก็ดีอยู่ แต่ในสภาวะโดยรวมมันยังมีตัวแปรอีกเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็น DSP, ลำโพงที่ใช้, ต้นกำเนิดเสียง ฯลฯ

          แต่ที่ผมใช้ฟังอยู่ทุกๆวันนี้คือ Sound Card Asus Xonar STX รวมกับ Opamp คู่หน้า OPA2107AP สลับกับ OPA627 ส่วนภาค Headphone ผมใช้ LME49720HA 2 ตัวครับ

          สายที่ใช้คือ Canare L2B2AT คอนเน็คเตอร์ที่ใช้คือ Amphenol ครับ

          Comment


          • #6
            Originally posted by Ch@KuZaa View Post
            ขอตอบตรงนี้เลยนะครับคุณตูน

            ถ้าจะปรับ Cross Over ต้องศึกษาเรื่องการคำนาณความถี่ Resonance (RLC) ครับ เราอยากได้ความถี่เท่าไร ออกที่ลำโพงใหน ขึ้นอยู่กับค่า R, L, C ครับ

            ส่วนเรื่องที่คุณตูนถามทาง PM มันเป็นเรื่องของ Hi-End ซึ่งส่วนใหญ่มันอยู่ที่ความชอบส่วนตัวครับ สิ่งที่เหลืออยู่กับผมในตอนที่เล่นเครื่องเสียงคือสายลำโพงตามรูปครับ



            ทุกวันนี้ผมทำงานเกี่ยวกับระบบภาพ+เสียงในห้องประชุม+สัมมนา+ห้องเรียนตามมหาลัย

            สิ่งที่ผมใช้สายเสียง คือ
            - Hosiwell ที่ Cost ค่อนข้างต่ำ
            - Neutrik ที่ Cost กลางๆ
            - Amphenol ที่ Cost ถึง

            สายที่ใช้ Wiring ใน System คือ Canare L2B2AT, Kelsey Uni-1 เสียงที่ได้มันก็ดีอยู่ แต่ในสภาวะโดยรวมมันยังมีตัวแปรอีกเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็น DSP, ลำโพงที่ใช้, ต้นกำเนิดเสียง ฯลฯ

            แต่ที่ผมใช้ฟังอยู่ทุกๆวันนี้คือ Sound Card Asus Xonar STX รวมกับ Opamp คู่หน้า OPA2107AP สลับกับ OPA627 ส่วนภาค Headphone ผมใช้ LME49720HA 2 ตัวครับ

            สายที่ใช้คือ Canare L2B2AT คอนเน็คเตอร์ที่ใช้คือ Amphenol ครับ
            ขอบคุณมากๆเลยครับ เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ คุณชา แบบนี้ต้องค่อยๆลองด้วยตัวเองซ่ะแล้วครับ
            แล้วต้องศึกษาหาข้อเพิ่มเติมอีกเยอะเลยครับ

            Comment


            • #7


              ลำโพงสวยดี พอร์ทเบสหน้าด้วย แอมป์เบสไม่ดีจริง คงมีแป้ก

              เป็นผมคงหา 2.2uF มาลองใส่เทียบกับของเดิมดูก่อน ส่วน L ก็ใช้ของเดิมไปนั่นแหละ เพราะเล่นกับ L มันหลายตัง

              ถ้าคิดจะทำจริงจัง ซื้อซี Bennic มาเก็บไว้ไล่ค่าให้ครบไปเลยเฉพาะเสียงแหลมก็คง 1uF 2.2uF 3.3uF 4.7uF พอเลือกได้แล้ว อยากอัพอีก ค่อยหาของไฮโซมาใส่ทีหลัง

              ส่วนสายลำโพง เอาถูกๆก็ canare อ่ะแหละ คุ้มตังดี เลือกรุ่นไหนก็ตามใจเลย เน้นเบสก็เบอร์ใหญ่หน่อย

              Comment


              • #8
                Originally posted by tumd View Post


                ลำโพงสวยดี พอร์ทเบสหน้าด้วย แอมป์เบสไม่ดีจริง คงมีแป้ก

                เป็นผมคงหา 2.2uF มาลองใส่เทียบกับของเดิมดูก่อน ส่วน L ก็ใช้ของเดิมไปนั่นแหละ เพราะเล่นกับ L มันหลายตัง

                ถ้าคิดจะทำจริงจัง ซื้อซี Bennic มาเก็บไว้ไล่ค่าให้ครบไปเลยเฉพาะเสียงแหลมก็คง 1uF 2.2uF 3.3uF 4.7uF พอเลือกได้แล้ว อยากอัพอีก ค่อยหาของไฮโซมาใส่ทีหลัง

                ส่วนสายลำโพง เอาถูกๆก็ canare อ่ะแหละ คุ้มตังดี เลือกรุ่นไหนก็ตามใจเลย เน้นเบสก็เบอร์ใหญ่หน่อย
                ขอบคุณมากครับ เดี่ยวจะหาแหล่งสั่งมาเปลี่ยนลองดูครับ ^_^

                Comment


                • #9
                  เดิมๆเสียงเป็นยังไงบ้างครับตัวนี้ รูปร่างหน้าตาสวยเชียว

                  สำหรับผม ถ้าจะโมเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องเสียงผมจะมองอย่างนี้ครับ มองว่ามันมีอะไรที่เราพอใจแล้วบ้าง ข้อดีหรือจุดเด่นของมันมีอะไร แล้วก็สิ่งที่ขาดว่ามันยังขาดอะไร เยอะไหม จากนั้นก็ค่อยๆลงมือไปทีละจุด อย่างแรกก็คือสายภายในแบบที่คุณว่าละครับ เพียงแต่อย่าให้มันใหญ่เกินความจำเป็น เพราะเสียงที่มันดีอยู่แล้วอาจจะเปลี่ยนไปครับ จากนั้นก็ฟังเสียงลองเสียงว่ามันแตกต่างจากเดิมและมีดีมีด้อยตรงไหน เฉพาะสายตรงนี้ก็ลองกันเป็นอาทิตย์ละครับ ฮ่าๆๆ

                  ส่วนเรื่อง capacitor ลองเอาค่าเดิมๆแต่เปลี่ยนเป็นแบบชนิดฟิล์มมาลองแบบที่เพื่อนๆแนะนำละครับ แต่ต้องเก็บตัวเก่าไว้ก่อนนะ อย่างเพิ่งทิ้ง ถึงแม้มันจะเป็นอิเล็คโทรไลต์แต่มันก็มีเนื้อเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของมันครับ ...เก็บไว้ก่อน

                  เห็นค่า c 1.2uf กับค่า L 0.39mh แสดงว่าตัวลำโพงมีจุดตัดความถี่ที่สูงเอาการครับ ซึ่งอาจจะมีจุดตัดสูงถึง 4-6Khz เลยนะครับ ถ้าใช้ C ค่าสูงกว่านี้ เช่น 3.3uf 4.7uf 6.8uf จุดตัดมันจะต่ำลงมาครับ ซึ่งเสียงกลางแหลมมันจะดังมากกว่าเสียงทุ้มพอสมควร ครั้นจะไปแก้ที่ค่า L อีก ความดังของเสียงทุ้ม/กลาง/แหลม อาจจะไม่บาลานซ์กันก็ได้ พอเสียงกลางแหลมมันดังกว่าเสียงทุ้มก็ต้องใช้วิธีเอา R มากั้นที่เสียงแหลมเพื่อลดระดับความดังให้พอดีกัน ซึ่งจริงๆไม่ควรเอา R มากั้นสัญญาณเพราะเสียงแหลมมันจะขุ่น ...เสียงไม่ใสว่างั้นหละ

                  ...ผมอาจคิดไปไกลก็เป็นได้นะครับ จริงๆมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่ว่าก็ได้ ต้องลองอย่างเดียวครับ ...อิอิ ...วงการนี้ลองได้หลงเข้ามาแล้ว มีอาการคันทุกราย

                  Comment


                  • #10
                    Originally posted by Nukie View Post
                    เดิมๆเสียงเป็นยังไงบ้างครับตัวนี้ รูปร่างหน้าตาสวยเชียว

                    สำหรับผม ถ้าจะโมเกี่ยวกับอุปกรณ์เครื่องเสียงผมจะมองอย่างนี้ครับ มองว่ามันมีอะไรที่เราพอใจแล้วบ้าง ข้อดีหรือจุดเด่นของมันมีอะไร แล้วก็สิ่งที่ขาดว่ามันยังขาดอะไร เยอะไหม จากนั้นก็ค่อยๆลงมือไปทีละจุด อย่างแรกก็คือสายภายในแบบที่คุณว่าละครับ เพียงแต่อย่าให้มันใหญ่เกินความจำเป็น เพราะเสียงที่มันดีอยู่แล้วอาจจะเปลี่ยนไปครับ จากนั้นก็ฟังเสียงลองเสียงว่ามันแตกต่างจากเดิมและมีดีมีด้อยตรงไหน เฉพาะสายตรงนี้ก็ลองกันเป็นอาทิตย์ละครับ ฮ่าๆๆ

                    ส่วนเรื่อง capacitor ลองเอาค่าเดิมๆแต่เปลี่ยนเป็นแบบชนิดฟิล์มมาลองแบบที่เพื่อนๆแนะนำละครับ แต่ต้องเก็บตัวเก่าไว้ก่อนนะ อย่างเพิ่งทิ้ง ถึงแม้มันจะเป็นอิเล็คโทรไลต์แต่มันก็มีเนื้อเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของมันครับ ...เก็บไว้ก่อน

                    เห็นค่า c 1.2uf กับค่า L 0.39mh แสดงว่าตัวลำโพงมีจุดตัดความถี่ที่สูงเอาการครับ ซึ่งอาจจะมีจุดตัดสูงถึง 4-6Khz เลยนะครับ ถ้าใช้ C ค่าสูงกว่านี้ เช่น 3.3uf 4.7uf 6.8uf จุดตัดมันจะต่ำลงมาครับ ซึ่งเสียงกลางแหลมมันจะดังมากกว่าเสียงทุ้มพอสมควร ครั้นจะไปแก้ที่ค่า L อีก ความดังของเสียงทุ้ม/กลาง/แหลม อาจจะไม่บาลานซ์กันก็ได้ พอเสียงกลางแหลมมันดังกว่าเสียงทุ้มก็ต้องใช้วิธีเอา R มากั้นที่เสียงแหลมเพื่อลดระดับความดังให้พอดีกัน ซึ่งจริงๆไม่ควรเอา R มากั้นสัญญาณเพราะเสียงแหลมมันจะขุ่น ...เสียงไม่ใสว่างั้นหละ

                    ...ผมอาจคิดไปไกลก็เป็นได้นะครับ จริงๆมันอาจจะไม่เป็นอย่างที่ว่าก็ได้ ต้องลองอย่างเดียวครับ ...อิอิ ...วงการนี้ลองได้หลงเข้ามาแล้ว มีอาการคันทุกราย
                    ตัวนี้เดิมๆ รายละเอียดปลายแหลมจะออกจัดจ้านไปหน่อยครับ คงเป็นเพราะค่า C แน่ๆเลยครับ แต่ผมเอามาใช้กับ marantz sr1000 รุ่นเก่าๆ เสียงกำลัง OK ครับ มีรวนๆบ้างเป็นบางเวลา แต่ผมฟังไปนานๆ รู้สึกเสียงแหลมจะฟังสบายขึ้น เสียงกลางพอประมาณครับ ไม่ค่อยเด่นมาก จุดเด่นจะอยู่ที่เบสเลย ดอก 4 นิ้ว ปนหนักแน่นและนุ่มนวลดีครับ

                    ค่าเดิมผมไม่ทิ้งแน่นอนครับ เดี่ยวอีก 1-2 วันก็จะได้มานั่งลองแล้วครับ ผมเห็นวิธีจะทำให้เสียงนั้นลงตัวนั้นยากเอาการเลยครับ กว่าเสียงนั้นจะลงตัว ยิ่ง L นี้ก็หลายตังด้วยอ่าครับ
                    คงปรับเปลี่ยนแต่ C ลองไปก่อนครับ

                    อย่างที่ว่าเลยครับ เข้ามาเล่นแล้วเลิกยากจริงๆครับ ผมยิ่งกำลังเริ่มเล่นซ่ะด้วย อนาคตบานแน่ๆเลย

                    Comment


                    • #11
                      บางทีคอสดีดีมันก็อยู่ที่ประสิทธิภาพของดอกลำโพงด้วยนะอย่าลืมข้อนี่ละเดียวจะได้ไม่คุ้มเสีย

                      Comment


                      • #12
                        Originally posted by wutnaja View Post
                        บางทีคอสดีดีมันก็อยู่ที่ประสิทธิภาพของดอกลำโพงด้วยนะอย่าลืมข้อนี่ละเดียวจะได้ไม่คุ้มเสีย
                        ใช่เลยครับ ผมเลยใช้ตัวละ 20-40 บาท เอามาลองก่อนครับ ประหยัดไว้ก่อนครับ

                        Comment

                        Working...
                        X