D.I.Y.ตอน เครื่องขยายเสียง

[keang]

ไฟเท่ากันหรือไม่เท่ากันไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ ขอให้ไฟมันอยู่ในช่วงจุดไส้หลอดให้ติดได้ก็พอ ไฟต่ำก็จะสว่างริบหรี่แค่นั้นเอง
ผมว่า เอามิเตอร์วัดไส้หลอดว่าขาดหรือไม่ขาด เร็วแล้วก็ง่ายกว่านะ

โอกาสที่ไส้หลอดขาดนั้นต่ำมากๆ แต่ก็ใช่ว่า แม้หลอดใหม่ๆมันจะขาดไม่ได้ ถ้าเป็นหลอดมือสองก็มีโอกาสเพิ่มอีกนิดนึง

[tiger X-fi]

ไฟเท่ากันหรือไม่เท่ากันไม่ใช่ประเด็นสำคัญครับ ขอให้ไฟมันอยู่ในช่วงจุดไส้หลอดให้ติดได้ก็พอ ไฟต่ำก็จะสว่างริบหรี่แค่นั้นเอง
ผมว่า เอามิเตอร์วัดไส้หลอดว่าขาดหรือไม่ขาด เร็วแล้วก็ง่ายกว่านะ

โอกาสที่ไส้หลอดขาดนั้นต่ำมากๆ แต่ก็ใช่ว่า แม้หลอดใหม่ๆมันจะขาดไม่ได้ ถ้าเป็นหลอดมือสองก็มีโอกาสเพิ่มอีกนิดนึง

ถ้าขาด ..ไม่ขาดชัวร์ ครับพี่
ใช้ไฟ AC 9v จดไส้หลอด มา2ขั้วครับ
ออก2 ข้างครับพี่
แต่ชุด DC (ของเก่า) ต่อยังไงก็มาข้างเดียวครับ

[LoveHifi]

ไส้หลอดผมก็ว่าน่าจะถอดมาวัดดูนะครับ ถ้ามันติดข้างเดียว ชัวร์กว่า และก็จะได้ดูว่าความต้านทานมันใกล้เคียงกันไหมเพราะอาจจะความต้านทานไม่เท่ากันอันนึงดึงไฟไปเยอาะกว่าก็ได้แล้วยิ่งใช้ไฟต่ำ 9V
----------------------------------

แล้วพี่เสือต่อไฟ 9v เข้าขาไหนของหลอดครับ

-----------------------------------

เรื่องปุ๊กนี่เป็นธรรมดาของแอมป์ IC มีหลายทางแก้อยู่นา จะใส่ Softstart หรือ ป้องกันลำโพง และใส่ c ค่าชัก 0.022 คร่อมสวิทซ์ ก็ช่วยได้. ของผมถ้า เปิด ปิด ปกติจะไม่มีเสียง คือเปิด ปิดพร้อมกันทุกอย่างจะเงียบ แต่ถ้า เปิดปรีเปิดคอมก่อน แล้วมาเปิดแอมป์จะมีเสียง ปุ๊ หรือถ้า เปิดเครื่องทุกอย่างไว้แล้วปิดเฉพาะแอมป์ถึงจะมีเสียง ปุ๊

[tiger X-fi]

ไส้หลอดผมก็ว่าน่าจะถอดมาวัดดูนะครับ ถ้ามันติดข้างเดียว ชัวร์กว่า และก็จะได้ดูว่าความต้านทานมันใกล้เคียงกันไหมเพราะอาจจะความต้านทานไม่เท่ากันอันนึงดึงไฟไปเยอาะกว่าก็ได้แล้วยิ่งใช้ไฟต่ำ 9V
----------------------------------

แล้วพี่เสืดต่อไฟ 9v เข้าขาไหนของหลอดครับ

-----------------------------------

เรื่องปุ๊กนี่เป็นธรรมดาของแอมป์ IC มีหลายทางแก้อยู่นา จะใส่ Softstart หรือ ป้องกันลำโพง และใส่ c ค่าชัก 0.022 คร่อมสวิทซ์ ก็ช่วยได้. ของผมถ้า เปิด ปิด ปกติจะไม่มีเสียง คือเปิด ปิดพร้อมกันทุกอย่างจะเงียบ แต่ถ้า เปิดปรีเปิดคอมก่อน แล้วมาเปิดแอมป์จะมีเสียง ปุ๊ หรือถ้า เปิดเครื่องทุกอย่างไว้แล้วปิดเฉพาะแอมป์ถึงจะมีเสียง ปุ๊

9 AC ต่อขา 4-5 ครับ

[ManiacMaew]

เล่าการทดลองให้ฟังต่อ

lm1875ลองต่อแบบt-networkดู กวาดต้อนrเหลือๆมาใส่ ลองคำนวณgainได้ประมาณ16ได้
เบิรน์สักแปปแล้วก็ลองเสียง(outputต่อแบบinvert จังหวะเบสมาลองเอานิ้วแตะconeดอก รู้สึกว่าconeเด้งออกมา)
เวทีคล้ายๆinvert หางเสียงยาวกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แต่imageเสียงแปลกๆ เหมือนจะได้รายละเอียดในเนื้่อเสียงมากขึ้น แต่หาขอบimageไม่เจอ
ช่วงหางเสียงลง แบบเสียงร้อง เหมือนคนร้องกระดกลิ้นตอนจบคำ

ฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ สรุปกลับมาต่อแบบnon-invert

---------

รอดูของคุณเสือ ลุ้นกันต่อ

-----------

ลองทำ jfet bufferมาต่อคั่นระหว่างvolumeกับc input
ทำแบบมั่วๆ กวาดต้อนอะไหล่เหลือๆตามเคย เพราะเหลือ 2sk117 2ตัว มันmatch Idssกันไม่ได้ เลยต่อVRไว้ปรับbiasแทน

ทำเสร็จต่อไฟเข้า แล้วปรับvr จนสัญญาณขาออกjfet Vdcใกล้0mV

กำลังเบิร์น เสียงใสขึ้น ไม่บาดหู เบิร์นดูอาการเรื่อยๆต่อ
ปัญหาเสียงซ่าที่ช่วงกลางๆโวลุ่มหายไป แต่ดันจี่ช่วงบิดvolumeลง0แทน + sinkของLm1875ร้อนขึ้น(ไม่รู้เพราะอะไร?? จะว่าไฟdcหลุดไปก็มีc couplingคั่นอยู่น่ะ)

[ManiacMaew]

ต่อกับjfetbuffer
แล้วได้มาหน้าตาประมาณนี้

[tiger X-fi]

เจอปัญหาจี่-ฮัม แบบสะอื้น
ไฟรั่วจากคอม เช็คกราวน์ใช้ไขควงวัดไฟ มีไฟรั่ว
พอต่อแอมป์ เช็คกราวน์มีไฟรั่วมา ทั้งจี่ ทั้งฮัมเลย
ลองเอามือถือต่อ ไม่มีไฟรั่วลงกราวน์ ไม่มีจี่-ฮัมเลย
เจอแบบนี้...แก้ไม่ตกเลย ....ที่บ้านไม่ได้ลงกราวน์ด้วยครับ

[wutnaja]

เจอปัญหาจี่-ฮัม แบบสะอื้น
ไฟรั่วจากคอม เช็คกราวน์ใช้ไขควงวัดไฟ มีไฟรั่ว
พอต่อแอมป์ เช็คกราวน์มีไฟรั่วมา ทั้งจี่ ทั้งฮัมเลย
ลองเอามือถือต่อ ไม่มีไฟรั่วลงกราวน์ ไม่มีจี่-ฮัมเลย
เจอแบบนี้...แก้ไม่ตกเลย ....ที่บ้านไม่ได้ลงกราวน์ด้วยครับ

เอาใจช่วยครับพี่
........
บ้านผมก็ไม่ได้เดินระบบกราว์ไว้ด้วยถ้าเจอปัญหาคงต้องหาเหล็กมาทิ่มลงดินเองแล้วลากสายไฟเอา55555
...................
ตอนนี้เหมือนจะเจอปัญหาอะไหล่ตัวใหญ่ๆ PCBเล็กนิดเดียว

[dracoV]

เจอปัญหาจี่-ฮัม แบบสะอื้น
ไฟรั่วจากคอม เช็คกราวน์ใช้ไขควงวัดไฟ มีไฟรั่ว
พอต่อแอมป์ เช็คกราวน์มีไฟรั่วมา ทั้งจี่ ทั้งฮัมเลย
ลองเอามือถือต่อ ไม่มีไฟรั่วลงกราวน์ ไม่มีจี่-ฮัมเลย
เจอแบบนี้...แก้ไม่ตกเลย ....ที่บ้านไม่ได้ลงกราวน์ด้วยครับ

แนะนำให้ isolate signal ground ครับ
ไม่ได้เอา signal ground ต่อลง system ground ..โดยตรง ให้ใช้ R 10ohm 3-5W (แนะนำให้ใช้แบบ wire-wound) ขนานกับ C แบบ X2(AC suppressor) 0.1uF/250VAC
มาต่อเชื่อมระหว่า signal ground กับ system ground แทนครับ

[tiger X-fi]

^
ขอบคุณมากครับพี่

-------
isolate resistor
คิดการทำงานง่ายๆคือเอา R มาตัดไฟใช่มั๊ยครับ
เช่น มีไฟรั่วลงกราวน์ เราก็เอา R มาตัดทิ้งไปซะ
ส่วน C ที่คล่่อมR ก็ทำหน้าที่ บล็อคไฟ DC ซะ
ผมเข้าใจแบบนี้...ถกต้องหรือป่าวครับ

[berryzlove]

หาแบบ X2 ไม่ได้ ใช้ 0.1uF 250V พวก MKP4 MKS4 MKP10 แทนได้ไหมครับ

[wutnaja]

หาแบบ X2 ไม่ได้ ใช้ 0.1uF 250V พวก MKP4 MKS4 MKP10 แทนได้ไหมครับ

x2x3ลองดู
http://www.digitclass.net/smf/index.php?topic=112.0
ถูกดีครับ

[keang]

ใครจะเอาCไปใส่คร่อมขาสวิทช์ปิดเปิดเครื่อง ก็ใช้ตัวนี้

Capacitor MKP X1 ยี่ห้อ VISHAY ค่า 0.47 uF (470nF) 440 V ระยะขา 27.5 มม.
ราคาตัวละ 5 บาท



ปล. ปัจจุบันCสำหรับไลน์ไฟACในซีรี่ย์X มีผลิตแค่ชนิดX1กับX2เท่านั้น ยังไม่มีการผลิตชนิดX3นะครับ

[ManiacMaew]

แนะนำให้ isolate signal ground ครับ
ไม่ได้เอา signal ground ต่อลง system ground ..โดยตรง ให้ใช้ R 10ohm 3-5W (แนะนำให้ใช้แบบ wire-wound) ขนานกับ C แบบ X2(AC suppressor) 0.1uF/250VAC
มาต่อเชื่อมระหว่า signal ground กับ system ground แทนครับ

สงสัยครับ
-ทำไมต้องใช้Rแบบวัตต์มากกับcแบบx2ที่โวลท์สูง ตำแหน่งนั้น
-system ground นี้หมายถึงpower groundใช้มั้ยครับ

[dracoV]

ตอบรวมๆเลยละกันคร่าวๆนะ คงไม่ต้องทฤษฎี สูตรคำนวณอะไรมากมายเปลืองสมองป่าวๆ 555+

กรณีนี้ก็คือปัญหา Ground loop มีความต้านทาน/ความต่างศักย์ในส่วน ground ต่างๆ
ก็ใช้ R มายกให้ ground ออกจากกัน(ตัด loop) C ที่คร่อม R ก็ทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งเป็น Filter, คุมแรงดัน2ฝั่งกันไฟไหลไปมา, Noise(AC) Suppressor, de-coupler

R มายกให้ ground ออกจากกัน(ตัด loop) ก็นึกคล้ายๆยกขั้นบันไดสูงขึ้นไฟในกราวด์แรงมันน้อย(กระแสต่ำ)ปีนไม่ไหว ก็ไม่วิ่งวนเป็น loop
อธิบายให้พอนึกออกแบคร่าวๆน่ะ
แต่ศักย์ของไฟ/สัญญาณ ก็ต้องเทียบกับกราวด์ ศักย์ของกราวด์2ฝั่งของ R ก็ไม่ได้ต่างกันมากนักยังใกล้ๆ0volt อยู่ การทำงาน(swing) ของสัญญาณ
ก็ยังถูกต้อง

เพิ่มเติมไว้นิด ก็คือถ้าในกระดาษตามทฤษฎี ground คือ 0 volt
แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้ 0 volt สนิท มันก็มี volt/current ไหลอยู่ (ก็ไหลกันไปจนลง power grid ของการไฟฟ้านั่นล่ะ)
สัญญาณ/ไฟ อะไรต่อมิอะไรก็ต้องไหลมาลงground นี่ละ เพียงแต่ ground จะมี impedance ต่ำมาก level มันก็เลยจะใกล้ๆ 0 V

กรณีมีไฟไหลจากกราวด์ที่มีศักย์ต่างกันเช่น จากเครื่องคอมฯกราวด์ หรือ ground ที่มาจาก AC ไฟบ้าน ผ่าน transformer แปลงมาหรืออื่นๆ
ศักย์จะค่อนข้างสูงแต่กระแสต่ำหน่อยโดยปกติเมื่อมาลงกราวด์ระบบก็จะหายไปใกล้ๆ 0 ก็จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร
แต่ถ้ากราวด์ระบบมัน sink ไม่ได้มาก/ไม่ทัน ก็เกิด ground loopได้

- ทำไมต้องใช้ R watt สูง ก็เพราะไฟมันสูงน่ะครับ คงจะเคยแตะเคสคอมแล้วโดนช๊อตแปร๊บๆพอเจ็บๆกันมาบ้าง
ลองเอามิเตอร์ตั้งวัด AC จิ้มเคสคอมฯแล้ววัดเทียบกับ earth ground จิ้มกับพื้นปูนดูก็ได้

- ทำไมต้องใช้ C X2 ก็เพราะการทำงานที่เหมาะสมกับ C ประเภทนี้ครับ ไฟAC, AC suppressor และไฟสูงอยู่พอสมควรนะ
ใช้แบบอื่นได้ไหม ก็พอใช้ได้แต่ไม่ค่อยเหมาะสมกับงานสักเท่าไหร่น่ะครับ
- System ground, Signal ground ก็แล้วแต่จุด/ระบบที่ดู เอากรณีนี้ก็คือ Signal ground ก็คือกราวด์ที่มากับสัญญาณ(สาย RCA)
ส่วน system ground ก็คือกราวด์ต่างของเครื่อง Amplifier น่ะครับ