Announcement

Collapse
No announcement yet.

D.I.Y.ตอน เครื่องขยายเสียง

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • เห็นวงจรคนอื่นเขาใช้R input กับ feedback แค่22kน่ะครับ
    Rที่ต่อขาinputลบลงกราวน์ดก็ใช้ค่า 680-1kกัน

    ถ้าใช้R input20k นี้ควรใช้ volume เท่าไรเหรอครับ (คือมันมีRnc 10kเหลือจากทำdacน่ะ อาจจะประหยัดงบ เอามาอนุกรมกันให้ได้20k)

    Comment


    • ^^
      R FB to GND และ R FB ส่วนนั้นก็แล้วแต่คนออกแบบ/ทดลองวงจรจะเลือกใช้น่ะครับ
      สำหรับผมตามประสพการณ์(เดา? ) ก็เลือก R FB to GND 4.32k น่ะครับ ส่วน R FB ก็คำนวณ gain เอา

      หลักการก็ตามที่อธิบายคร่าวๆน่ะครับ ถ้าจะเลือก R FB to GND ค่าไหนก็ต้องคำนวณ C ที่ต่อด้วย(C13) ใหม่หน่อย
      ลืมๆไปแล้วว่าคำนวณยังไง กว่าปีแล่ว 555+ ก็ประมาณถ้า R ค่าน้อย ก็เพิ่มค่า C หรือ Rมากก็ลดค่า C ลง เพราะจะมีผลกับความถี่ของสัญญาณ FB

      ไหนๆแล้วก็พิมพ์ต่อไว้ซะเลย ยาวหน่อย

      C13 FB to GND แนะนำ C แบบ BP(elec.) ทนvolt 1-2เท่าของ V+ หรือ NP ถ้าใช้ C film ก็ใช้ค่าน้อยหน่อยได้ ~4.7-6.8uF

      R input ถ้าใช้ค่าน้อยลงก็จะไปโหลด source มากขึ้นนิดหน่อย และก็จะไปมีผลกับ input impedance ของ IC amp (มีผลกับความถี่สัญญาณ input)
      แต่ก็ใช้ได้น่ะครับ 20k ก็ต้องเพิ่มค่า C input ขึ้น(จะแพงก็ตรงนี้ละ ) และถ้าจะใส่ C bypass ก็ต้องเพิ่มค่าขึ้นหน่อย (ที่ผมใช้ 220pF)
      ถ้าจะให้เป๊ะก็ต้องคำนวณค่าใหม่อีกหน่อย(ลืมๆไปแล้วอีกเหมือนกันว่าคำนวณยังไง 555+) เพราะมีผลกับจุดตัดความถี่ LPF

      สำหรับ Volume ขนาดค่าก็ใช้ได้ 20k-100k ก็ใช้ได้ ก็ให้ใส่ R 1M เป็น impedance transfer ช่วยถ้า volume ค่าน้อย(มีผลกับ source)
      หรือ ค่าไม่ใกล้เคียงกับ R input to gnd

      แต่ก็คือเพิ่มอุปกรณ์ก็(น่า)จะเพิ่มแหล่ง noise มากขึ้น + กระทบกับสัญญาณมากขึ้น (frequency, phase, level, ...)
      โดยเฉพาะในส่วนที่สัมผัส/แนว ของสัญญาณต่างๆ
      หรืออย่างเช่น ในบางวงจรจะเห็นเขาใส่ C ค่าน้อยๆคร่อมกับ R FB ก็แล้วแต่น่ะ ถ้าเป็นผม ดู/ทำ/ลอง แล้วถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรก็จะไม่ใส่แบบนี้
      เพราะจะมีผลกับความถี่และphase ของสัญญาณ FB
      หรือ C de/coupling ในแนวสัญญาณต่างๆ ถ้าไม่ใช้เลยได้ก็จะพยายามไม่ใช้เป็นต้น

      เช่น อันนี้ ออกแบบทำแบบ capacitor-less signal path ทั้งนี้เวลาใช้ก็ต้องมั่นใจพอสมควรว่าแหล่งสัญญาณ(source) ไม่มี DC component หลุดมาด้วย
      [u]LM1875 Capacitor-less signal path /W J-Fet input[/u]
      ห้าตาประมาณนี้ 555+ แน่น(รก)ดีมะ

      Comment


      • ขอบคุณครับ

        Comment


        • งานงอก..ออกมาเรื่อยๆอีกแล้ว ใต้ dac ทั้งสายไฟ
          ทั้งหม้อแปลงที่อยู่ด้านบน ....สงสัยต้องหา
          สร้างกำแพงกันสนามแม่เหล็กหน่อยแล้ว
          คร่าว ๆพอนึกออกแล้ว ....สงสัยจะฝอยห่อปลาอีกแล้ว

          Comment


          • Originally posted by tiger X-fi
            คร่าว ๆพอนึกออกแล้ว ....สงสัยจะฝอยห่อปลาอีกแล้ว
            ขอแบบกรอบนอกนุ่มในนะ

            Comment


            • Originally posted by dracoV View Post
              ^^
              แต่ก็คือเพิ่มอุปกรณ์ก็(น่า)จะเพิ่มแหล่ง noise มากขึ้น + กระทบกับสัญญาณมากขึ้น (frequency, phase, level, ...)
              โดยเฉพาะในส่วนที่สัมผัส/แนว ของสัญญาณต่างๆ
              หรืออย่างเช่น ในบางวงจรจะเห็นเขาใส่ C ค่าน้อยๆคร่อมกับ R FB ก็แล้วแต่น่ะ ถ้าเป็นผม ดู/ทำ/ลอง แล้วถ้าไม่ได้มีปัญหาอะไรก็จะไม่ใส่แบบนี้
              เพราะจะมีผลกับความถี่และphase ของสัญญาณ FB
              หรือ C de/coupling ในแนวสัญญาณต่างๆ ถ้าไม่ใช้เลยได้ก็จะพยายามไม่ใช้เป็นต้น

              เช่น อันนี้ ออกแบบทำแบบ capacitor-less signal path ทั้งนี้เวลาใช้ก็ต้องมั่นใจพอสมควรว่าแหล่งสัญญาณ(source) ไม่มี DC component หลุดมาด้วย
              พี่ครับรบกวนถามนิด
              เราควรจะดูยังไงว่าตอนนี้เรามีปัญหาแล้วต้องใส้ C คร่อม Rf หรือว่าตอนนี้เราไม่มีปัญหาไม่ต้องใส่
              ......
              เห็นพี่เสือเค้าแนะนำให้ผมเอา 47pf คร่อม Rf แต่ผมอยากรู้ว่ามันต้องดูยังไงว่าตอนนี้เรามีปัญหาแล้วที่จะต้องใส่มันอะครับ

              ขอบคุณครับ
              Last edited by wutnaja; 19 Aug 2013, 22:32:05.

              Comment


              • Originally posted by keang View Post
                ขอแบบกรอบนอกนุ่มในนะ
                จะกรอบ หรือ จะเกรียม ยังไม่รู้เลยพี่
                คร่าวๆที่น่าจะเวิค คือ รอง Pcb แบบยังไม่กัด ก่อน1ชั้น
                (จะเสริม ทากาว แล้วเอาฟอล์ย ทับอีกชั้นก็ได้)
                แล้วใช้ตัวต่อ แล้วค่อยวาง dac ตามตำแหน่งเดิม
                ------------------
                ของผม pcb แบบยังไม่กัดหมด
                คงเอา PCB ที่กัดเสีย ทากาวติดฟอล์ยเอาครับ

                Comment


                • Originally posted by wutnaja View Post
                  พี่ครับรบกวนถามนิด
                  เราควรจะดูยังไงว่าตอนนี้เรามีปัญหาแล้วต้องใส้ C คร่อม Rf หรือว่าตอนนี้เราไม่มีปัญหาไม่ต้องใส่
                  ......
                  เห็นพี่เสือเค้าแนะนำให้ผมเอา 47pf คร่อม Rf แต่ผมอยากรู้ว่ามันต้องดูยังไงว่าตอนนี้เรามีปัญหาแล้วที่จะต้องใส่มันอะครับ

                  ขอบคุณครับ
                  แล้วแต่กรณีน่ะครับมีได้หลายอาการ
                  - เกิดเสียงฮัมหรือหึ่งเบาๆ โดยปกติจะเกิดการกราวด์ต่างๆไม่ดี/ไม่ถูกต้อง ถ้าแก้จุดอื่นๆแล้วยังไม่หายก็สงสัยได้ว่าอาจเกิดจากส่วน FB ได้
                  - IC เกิด oscillated ทำงานผิดปกติ/เสียงจี่ ปกติจะเกิดจากส่วนไฟ ถ้าแก้จุดอื่นๆแล้วไม่หายก็ลองดูจุดนี้ได้
                  - กรณีของเสียงและการผิดปกติของ ความถี่, gain ขยาย, phase
                  ลักษณะนี้ ต้องอาศัยประสพการณ์การฟัง/สังเกตุมากหน่อย และต้องมีความคุ้นเคยกับสัญญาณเสียงต้นทางเป็นอย่างดี
                  สามารถจับ/บอกความแตกต่าง/ผิดปกติได้
                  เช่น อาการระดับเสียงแกว่ง, มีลักษณะความถี่แทรกซ้อน, echo, การเลื่อนของ phase ความถี่ต่ำบางส่วนสูญเสียไป,
                  ความผิดปกติของมิติ/focus ของเสียง ก็ลองมาดูจุดนี้ได้

                  การแก้ไขถ้ามีความผิดปกติจริงๆ (ถ้าทำดีๆ วงจรออกแบบมาดี มีการทดสอบแล้วอะไรแล้ว อาการผิดปกติต่างๆก็ไม่ได้เกิดกันบ่อยๆหรอก)
                  การใช้ C มาคร่อม R ก็เป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขได้ ส่วนจะใช้ค่าเท่าไหร่ยังไงก็แล้วแต่อาการ/การทดลอง
                  และก็ไม่ได้แค่ใส่ C คร่อม R แล้วหายทุกอย่าง ก็ยังต้องดูส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย

                  อ้อ มีอีกกรณีนึงของการใส่ C คร่อม R จุดนี้ก็ รสนิยมทางเสียงของคนออกแบบ/ทดลองก็ได้ เพราะมันมีผลกับความถี่/phase/gain ต่างๆด้วย
                  เขาใส่เพราะชอบแนวเสียงก็เป็นได้ อย่างนี้ก็หูใครก็หูใครล่ะ สูตรใครก็สูตรใคร ปรุงรสเอาตามชอบ 555+

                  แนะนำไว้คร่าวๆ ถ้ายังไม่มีประสพการณ์/ความรู้/ทดลอง/ทดสอบมากนัก ยังไม่รู้แน่ชัดว่าแก้วงจรเปลี่ยนค่าอะไรแล้ว เกิดอะไร ได้อะไร เสียอะไร
                  ก็ทำตามวงจรที่เอามา ก่อนนั่นละครับ เขาน่าจะทดสอบแล้วอะไรแล้วมาบ้างพอสมควรน่ะ
                  จุดไหนถ้าอยากรู้จริงๆว่าอะไรเป็นอะไร ให้ถูกต้องแน่ชัด ก็ เอาวงจรมาจากไหนก็ไปถามไถ่จากเจ้าของวงจรก็น่าจะได้คำตอบ(ถ้าเขาตอบมา)ที่ถูกต้องน่ะ

                  ส่วนคนที่ดูวงจรไม่ได้ออกแบบ บางทีบางจุดก็พอจะคาด(เดา)ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง อะไรก็แล้วแต่น่ะ 555+

                  Comment


                  • ^
                    ขอบคุณมากครับพี่
                    ยังไม่ค่อยเข้าใจคำว่า เฟสเลื่อน เท่าไหร่
                    นึกถึงกีต้าร์ ถ้าเลื่อนเฟส หมายถึง เพิ่มลด คีย์เสียง (เปลี่ยนโทนเสียง)
                    เฟสเลื่อน ในพวกแอมปืหมายถึงแบบนี้เหมือนกันหรือป่าวครับ

                    Comment


                    • หยิบรูปจากที่นี่ Wikipadia

                      - In-phase waves


                      - phase shift (เฟสเลื่อน) : The horizontal axis represents an angle (phase) that is increasing with time


                      - Out-of-phase waves


                      ถ้ามีการใช้คำว่าเฟส จะหมายถึง เฟสของสัญญาณที่อ้างอิงกับเวลา(ที่จุดเริ่มต้นของสัญญาณ)

                      เปรียบเทียบแบบหยาบๆ เฟสเลื่อนก็คือเฟสที่มีการดีเลย์หน่วงเวลา
                      เหมือนนักวิ่ง2คนในลู่วิ่งสนามแข่ง : กรรมกรยิงปืนปล่อยสตาร์ท นักวิ่งทั้งสองคน ออกสตาร์ทด้วยเวลาที่ต่างกัน

                      เฟสเลื่อนนิดหน่อยฟังยาก
                      ถ้าเอาแบบสังเกตุง่ายๆก็เป็น out-of-phase ที่เลื่อนไป360องศา (รูปOut-of-phase waves ดูที่รูปสัญญาณอันที่2กับ3) จากเฟส+กลายเป็นเฟส-
                      กรวยดอกลำโพงจากเด้งมาข้างหน้า(เฟส+) ก็กลายเป้น เด้งหุบเข้าไปข้างใน(เฟส-)


                      เอฟเฟคของกีตาร์ ไม่ใช่เฉพาะเรื่องเฟสอย่างเดียว มันเอาหลายอย่างมายำผสมรวมกัน
                      Last edited by keang; 20 Aug 2013, 13:15:27.

                      Comment


                      • ^
                        ขอบคุณมากครับพี่
                        -------------
                        มาแล้วครับ กำแพงกันสนามแม่เหล็ก
                        ลงฟอล์ย ไว้2ชั้น
                        Last edited by tiger X-fi; 20 Aug 2013, 23:50:25.

                        Comment


                        • ผมไปขุดเจอวัตถุโบราณมา
                          http://www.headphoneguru.com/forum/i...hp?topic=193.0

                          Comment


                          • ไกล้เสร็จได้ลองเสียงแล้ว...ว่าจะร้องเพลงได้ป่าว
                            ------------------
                            เป็นคนขายสาย...พอเดินเครื่อง...กลับไม่รู้จะใช้สายไรดี
                            สงสัยคงไม่พ้นเขียวเหลืองอีกตามสูตร
                            ----------------
                            เสร็จแล้วเสียบลอง ไม่มีเสียง
                            เดี๋ยวต้องรื้อมาลองไล่ทีละตัว ว่ามีปัญหาที่ตัวไหน
                            ------------
                            เย้....ร้องเพลง ได้แล้ว ...โง่เอง ลืมสับสวิทโคแอค
                            --------
                            กำดังข้างเดียว นึกว่ารอดต้องรื้ออยู่ดี
                            Last edited by tiger X-fi; 22 Aug 2013, 13:44:26.

                            Comment


                            • DIY มันสนุกตรงนี้แหล่ะ ก่อนทำเสร็จก็มีลุ้นรอดไม่รอด พอทำเสร็จก็มีลุ้นถูกใจไม่ถูกใจ

                              Comment


                              • เบืองต้น แอมป์ ไม่มีปัญหา สลับ อินพุทแล้ว เสียงก็ออกอีกข้าง
                                ตอนนีเสียงออก2 ข้าง แต่อีกข้างเบามาก

                                Comment

                                Working...
                                X