มาพบกันช่วงตรุษจีนกันหน่อยครับ
เนื่องในโอกาสวันตรุษจีนผมก็เลยขอนำเสนอลำโพงจากแดนมังกร
นั่นก็คือเจ้าหงษ์น้อยนี่เองครับ

ผมเคยเล่าเกี่ยวกับลำโพวยี่ห้อนี้ไปแล้วตัวนึง
นั่นคือ M20W ซึ่งเป็นรุ่นน้องของรุ่นที่ดังมากๆ
อย่างเจ้า M50W ครับ ผมว่านี่ห้อนี้มันต้องเล่นของแน่ๆ เพราะมันคุ้มเกินคุ้มจริงๆ
แม้จะขาดฟังก์ชั่นรีโมทไป แต่เสียงที่ได้นั่นเรียกว่าไม่เคยทำให้ผมผิดหวังจริงๆครับ
ซึ่งตัวที่จะนำมาเล่านี้ คือรุ่น D1010MKIV ครับ
ซึ่งได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันเป็น MKIV แล้ว
เป็ฯการปรับปรุงทั้งหน้าตาและคุณภาพเสียง เรียกได้ว่าไว้วางใจได้แน่นอน
ขอเริ่มจากตัวกล่องก่อนเลย
โดยที่ตัวกล่องกล่องสองชั้นนะครับ ถ้าเป็นกล่องชั้นเดียว นั้นแปลว่าไม่ใช่ Swan แน่นอนครับ


ถ้ากลอ่งชั้นเดียวมันคือ Hivi ส่วน Hivi จะแตกต่างกับ Swan ยังไงลองติดตามท้ายเรื่องเล่าได้เลยครับ
ตัวกล่องแถมแปะหราเลยว่า World-Class Loudspeakers ก็สงสัยจะจริงนะครับ เพราะส่งขายทั่วโลก
อ๊ะ ไม่ใช่ครับ หมายถึงว่าคุณภาพเสียงนั้นเข้าขั่นระดับโลกจ้า
อุปกรณ์แถมอย่างเดิมจ้า


สายสัญญาณ (mini to RCA) สายไฟ และสายลำโพงอีก1เส้น
โดยในหนังสือแคตตาลอคพอเปิดมาจะเจออยู่รูปนึง นั่นคือรูปนี้ครับ

ในรูปนี้คืออะไรลองติดตามกันได้ในเรื่องราวคราวที่แล้วเลยครับ : http://laohaifang.com/node/22
ต่อมาคือต้องเจอแบบนี้ครับ

ลำโพงอยู่ในถุงผ้า และจะแถมถุงมือผ้ามาให้ ซึ่งถ้าเป็น Hivi ลำโพงจะใส่ถุงพลาสติกใสๆ
เกรดเดียวกับที่ใช้ใส่กับข้าวที่ขายอยู่หน้าปากซอยครับ และ Hivi จะไม่แถมถุงมือมาให้อีกด้วยจ้า
ทีนี้มาเปิดหน้ากากออก มันก็เรียบๆธรรมดาๆครับ

ส่วนที่ลำโพงขวาจะมีที่หมุนๆอยู่ 3อัน ก็คือ Volume Treble และ Bass ครับ

โดย Treble และ Bass ปรับไว้เที่ยงตรงคือจุดสมดุลครับ นอกนั้นใครจะเพิ่มจะลดก็ตามสะดวกเลยจ้า
ขอตินิดนึง งานประกอบแอบไม่เรียบร้อย ลองสังเกตุ Treble กับ Bass ให้ดีครับ เที่ยงตรงแต่มันไม่เท่ากัน
ส่วนดอก tweeter ต้องบอกว่าอย่างคุ้มครับ

ราคาแค่ไม่กี่พัน แต่กลับได้ดอก tweeter สวยขนาดนี้
เสียงก็ดีมากครับ แต่ห้ามใช้กับสายเงินเด็ดขาด
สายชุบเงินยังใช้ได้ แต่เลือกให้ดีหน่อย
ถ้าเลือกไม่ดีนอกจากเสียงแห้งแล้ว
อาจจะยังเจอแหลมบาดหูนิดๆได้อีกด้วย
ด้านหลังแบบเต็มๆ ก็ไม่มีอะไรมากครับ

ส่วนนี่ครับท่อลมและพอร์ตต่างๆ


ลำโพงหลังคือลำโพงขวานะครับ(จะมีตัวปรับวอลุ่ม) แต่หากอยากไปวางด้านซ้ายก็ให้ทำการสลับข้างสายสัญญาณเอา

รูปนี้ผมพยายามถ่ายให่เห็นถึงท่อลมนะครับ
ว่าทางวิศวกรมีการออกแบบมา ไม่ใช่ใส่ท่อมาดื้อๆ
คือลักษณะตะบานออก แต่มันถ่ายยากครับ
ผมก็ถ่ายมาได้แค่นี้ -*-
----------------------------------
พูดถึงเรื่องเสียงของเจ้าหงษ์น้อย
เจ้าหงษ์น้อยตัวนี้เสียงเดิมทีออกจะบางไปหน่อย ไม่เหมือนใน M-Series
เช่น M20w และ M50w จะให้เสียงที่อวบหนา แต่เจ้า D1010MKIV ให้เสียงที่ไม่หนาเท่าไหร่
เรียกว่าเกือบจะบางก็เป็นได้ เริ่มแรกก่อนเบิน ต้องทำใจเลยนะครับ
เสียงจะอั้นๆ อู้ๆอี้ๆ เบสไม่มา ฟังแล้วน่าปวดหัว นี่หรือลำโพงระดับพระกาฬ
อดทนกัน(นาน)ซักหน่อย เพราะเบินนานมาก 50ชม.เสียงก็ยังแย่อยู่ 100ชม.ขึ้นนู่นเสียงถึงรับได้
D1010 เป็นลำโพงที่มีกำลังขับกำลังพอเหมาะ หมุนซัก9โมงก็เรียกว่าพอเหมาะ
และต้องเรียกว่าเป็นลำโพงที่รีดเร้นประสิทธิภาพได้ค่อนข้างยากพอสมควรครับ
DAC ที่ใช้ ขอให้คุณภาพดีหน่อย ผมใช้ NFB-11 ราคามากกว่าเจ้า D1010 ถึงเท่าตัว
แต่จริงๆไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ครับ ขอราคาซักราวๆ 3-5k ก็น่าจะกำลังดี
ส่วนสายสัญญาณขอบอกว่า ที่ให้มาก็เรียกว่าคุณภาพพอใช้ได้ แต่เปลี่ยนดีกว่าครับเพราะว่ามันไม่ได้ดีเหมือนกับ
สายสัญญาณที่ให้มากับ M-Series คราวนี้ที่ให้มันผมว่ามันยังไม่ค่อยเท่าไหร่
ผมเลยลองเอา canare เมตรละ 100บาทมาใส่ เสียงที่ได้ก็ยังไม่น่าพอใจเท่าไหร่ เสียงยังไม่แน่น
ยังอ่อนปวกเปียกอยู่ ผมเลยนึกเอะใจว่าลำโพงอะไรเนี่ย ค่าตัวไม่ถึง5พัน แต่เลือกสายสัญญาณจัง
โดยบุคลิกที่แนะนำผมขอแนะนำสายสัญญาณที่มีเนื้อเสียงแน่นๆเข้าใจ
และถ้าเน้นเนื้อเสียงกลางและเนื้อเบสได้จะดีมากครับ
พอเบินกันซักระยะแล้ว ทีนี้ก็จัดเต็มได้เลย
ผมบอกไว้ก่อนว่าเจ้านี่คุ้มค่าตัวนะครับ แต่เล่นยากพอสสมควรเลย คือเรื่องมาก
เลือก DAC เลือกสายสัญญาณพอสมควร แถมพอร์ดลมอยู่ด้านหลัง
ใครจะเล่นควรต้องมีระยะด้านหลังใกล้ๆกำแพงหน่อยครับ
คือมันอาจจะจู้จี้เรื่องพอร์ตลมซักหน่อย แต่นอกนั้นผมว่าแหล่มจริงๆ
นอกจากนั้นข้อควรรู้คือ ไม่เหมาะกับเพลงหนักๆ แต่เพลงหวานๆ ฟังสบายแน่นอนครับ
แม้กระทั่ง Classic ก็ยังทำได้ดีพอสมควร
อ่านกันมาเยอะแล้ว จะเห็นผมบ่นเกี่ยวกับการเตรีบมเข้า D1010 ค่อนข้างเยอะใช่ไหม
เตรียมได้ดีก็ฟังเพลงได้ไพเราะขึ้นนะครับ มามะๆ เข้าเรื่องกันดีกว่า
D1010 เนี่ยให้รายละเอียดที่ค่อนข้างมาก เรียกว่ามากเกินขนาดล่ะครับ
ฟัง Symphonic Wind Band วงใหญ่ๆยังแจกแจงรายละเอียดเครื่องดนตรีออกมาได้เยอะมาก
แม้ว่าบางทีจะมีอาการลักลั่นออกมาบ้าง ประมาณว่าท่อนที่ต้องโหมดังมากๆสลับกับเบามากๆ
ช่วยที่เบามากๆเจ้า D1010 ยังเก็บได้ไม่สุด ทำให้มีเสียงแลบออกมานิดหน่อย
ทีนี้ลองมาฟังเพลงร้องกันบ้าง ผมขอลองอักเป็นคลิปให้ฟังลองฟังดูกันครับ
โดยในคลิปผมเบินไปเกือบๆ 100ชม. และใช้สายสัญญาณแค่ canare เมตรละ 100บาท เอง
แถมอุปกรณ์ที่ใช้อัดยังเป็นแค่ iPhone4 ธรรมด้าธรรมดา
เสียงที่ได้ยัง***งของจริงอีกเยอะนะครับ ของจริงดีกว่าอีกประมาณ 3เท่าตัวเลยทีเดียวครับ
http://www.youtube.com/watch?v=1-KgaFoFHCs
อย่าพึ่งสงสัยกันนะครับว่าทำไมผมถึงอัดไฟล์ให้ฟังตอนมันยังไม่สุด
เนื่องจากว่าผมอยากให้ลองฟังแบบครึ่งๆกลางๆ ถ้าท่านคิดว่าลำโพงตัวนี้มันน่าสนใจ
ก็ควรจะไปลองฟังของจริงก่อนซื้อครับ อย่าตัดสินจากเพียงเสียงในคลิป
แวะเอารูปมาคั่นกันซักรูปสองรูปครับ
รูปนี้ถ่ายให้เห็นว่าเวลาเปิดสวิช จะมีไฟติดเพื่อเป็นการบอกว่าพร้อมทำงานแล้วนะ

ส่วนอีกรูปคือปุ่มยางด้านล่างมีขนาดใหญ่พอประมาณ แต่ไม่ได้หนึบอะไรครับ
ลักษณะเป็นคล้ายๆโฟมมากกว่าที่จะเป็นยางครับ

----------------------------------
ทีนี้มาลองฟังผมเล่าประสบการณ์หลังจากเบินๆร่วม 200 ชม.กันบ้าง
หลังจากอดทนรอเบินมานานและจัดแจงทุกอย่างให้เรียบร้อย
โดยผมวาง***งกันประมาณ 70cm หันเข้าหากันเล็กน้อย แม้คอมผมจะไม่มีอะไรด้านหลัง
แต่ได้พบว่า เสียงร้องพุ่งออกมาจากจอ และมีตำแหน่งสูงกว่าตัวลำโพงอีกด้วย
ซึ่งจะประมาณได้ว่าเสียงของนักร้องนั้นอยู่ตรงหน้าพอดิบพอดี
Bass และ Treble ผมปรับไว้เที่ยงตรงพอดี ก็เรียกว่าผมเน้นโทนัลบาล๊านซ์ที่สมดุลละครับ
เพียงแต่เบสอาจจะดูน้อยไปซักนิด(มั้ง) เพราะผมไม่มีอะไรมาสะท้อนพอร์ดลมด้านหลัง
แต่พอร์ตลมผมว่าเค้าออกแบบมาค่อนข้างดีทีเดียวครับ คือมันสร้างเบสได้ปริมาณมากพอสมควร
แต่ด้วยความที่มันอยู่ด้านหลัง แรงประทะเลยไม่มีมาด้านหน้า
เสียงสูงมีแบบสะอาดๆกำลังดีไม่คม ไม่บาด ไม่หวาน
และที่สำคัญลำโพงตัวนี้ไม่มืดและไม่สว่างจนเกินไป
ลำโพงตัวนี้ไม่เรื่องมากในการวางเท่าไหร่ แต่อย่าวางมั่วๆก็เพียงพอครับ
เรื่องความร้อนเป็นของคู่กับลำโพงค่ายนี้ เปิดไว้ไม่นานก็ร้อน ร้อนแบบมากๆด้วย
ไม่ว่าจะรุ่นดังอยาง M50w ก็ร้อนมากเช่นกันครับ แต่ไม่ต้องตกใจ ผมลองเปิดวันละ 8ชม. ก็ไม่มีปัญหานะ
แต่เปิดแล้วปิดพักมันบ้างก็ดีครับ ใช้มันอย่างถนอม มันจะได้ร้องเพลงให้ฟังได้นานๆครับ
ขอชมอีกซักหน่อยว่าขนาดมันพอเหมาะกับโต๊ะคอมมากๆ
คือไม่เล็กไปไม่ใหญ่ไป และเสียงที่ได้ไม่แพ้ Pro-1 เลย ผมว่าชนะ Pro-1 ได้สบายๆ
จะไปแพ้ก็ตรงที่ไม่มีรีโมทนี่แหละ แต่หลังๆผมก็ไม่รู้เป็นอะไรนะ ชอบหมุนเอง -*-
ขนาดฟังชุดวางหิ้งยังลุกจากที่นั่งไปหมุนวอลุ่มเองเลย เมื่อก่อนรักสบายขอมีรีโมท
แต่ช่วงนี้คึก ชอบหมุนเองซะงั้น
มาถึงระยะทำการซักหน่อย เป็นอะไรที่น่าแปลกใจมาก
คือตั้งแต่ระยะหน้าคอมจนถึง 1เมตร มันทำได้ดีทุกระยะ 1.5เมตรก็ทำได้ดีพอสมควรครับ
แต่ไม่ได้ทดสอบในระยะ 1.5-2เมตรมากเท่าไหร่ แค่ลองเปิดให้ดังแล้วเสียงยังได้โฟกัสกับไม่พร่ามัวก็เป็นพอ
พอถ้าจะให้ทดสอบจริงๆคงต้อง เลื่อยตำแหน่งลำโพงกันอีกเป็นแน่แท้
เพราะตำแหน่งชิ้นดนตรีมันเริ่มชิดๆกัน เดี๋ยวจะฟังแล้วมั่วไปมากกว่านี้
----------------------------------
คราวนี้มาเทสแบบบ้านๆกันบ้างครับ
ผมลองสายแถมแบบบ้านๆที่ให้มาในกล่อง ลองต่อตรงกับ iPhone4 คู่ใจของผม
ผลที่ได้คือไม่ขี้เหล่เลย เสียงดีด้วยครับ ผมว่างานนี้ผมมีลำโพงในใจอีกตัวนอกจากเจ้า Boston BA635 แล้ว
เสียงกลางไม่แห้ง เสียงสูงยังไม่สะอาดปิ้งๆเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับขุ่นมัว
เบสถึงจะไม่ลึกแต่ก็เรียกว่ารับได้ครับ เรียกว่าเจ้านี่เสียงดีได้ง่ายๆเลยครับ
สงสัยงานนี้ผมคงต้องเล็งเจ้า D1010MKIV ไว้แล้ว
ใครมีปล่อยมือสองราคาดี ผมจะไม่คิดครับ โทรปุ๊บคว้าปั๊บ
แต่ตอนนี้ยังไม่มีมือสองมาปล่อยกัน ใครสนใจก็ลองไปฟังได้ครับที่ Hifi Lover พันทิพย์ประตูน้ำได้เลยครับ
อ่อเกือบลืมไป ผมขอบอกกล่าวซักนิดว่า ช่วยกันอุดหนุน Dealers ตัวจริงกันด้วยนะครับ
ลองเช็คได้ครับที่ http://swanspeaker.com/dealers/dealers.aspx
ผมให้เกล็ดความรู้กันอีกนิดครับ Swan กับ Hivi นั้นต่างกันอยู่ครับ
Hivi นั้นเป็นของที่ทำชายในประเทศจีน ซึ่งแพ็คเกจและของที่ให้ม้ด้านในจะแย่กว่า Swan ครับ
ซึ่ง Swan เป็นของที่ผลิตไว้ส่งออกเท่านั้น ก่อนจะซื้อลำโพงยี่ห้อนี้ควรตรวจสอบว่าท่านได้อะไรมา
ลองดูของ Hivi นะครับ

ที่ได้มาจะมีแค่นี้ ไม่มีถุงผ้าใส่ลำโพง ไม่มีถุงมือ
และกล่องกระดาษยังเป็นกล่องชั้นเดียวอีกด้วยครับ
ต่างกับ Swan ที่กล่องจะเป็นมาตรฐานการส่งออก คือมีสองชั้น
มีถุงผ้าหุ้มลำโพง และมีถุงมือแถมให้อีกด้วย ส่วนเรื่องเสียงผมไม่ททราบว่าต่างกันหรือไม่
เพราะยังไม่มีโอกาสฟังเทียบกันตัวต่อตัวเลยแม้แต่น้อย
ปล.ในรูปเป็น D1080MKIII ครับ
วันนี้มีเรื่องมาเล่าแค่นี้ครับ ต้องขอขอบคุณ Hifi Lover ที่ทำให้ผมหายข้องใจ
เพราะผมแอบเล็งเจ้า D1010 มานานมากๆแล้ว
และขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านที่ติดตามผลงานของผมครับ
ขอลาไปก่อนจ้า สวัสดีครับ
Credit : http://laohaifang.com/node/106
---------------------------------
ก่อนไปผมลืมแปะเสปคให้ครับ
General Data
Model HiVi D1010-IV
System Series 2.0 Professional active electron filter multimedia speaker system
Acoustic System
System Series 2-way, 4th order active vented box speaker system
Drivers Configuration 4 " mid range,20mm dome tweeter
Frequency Range 62Hz-20kHz
Sensitivity 85dB (2.83V/1m)
Nominal Impedance 4?
Power Range 10-50 W
Amplifiers System
Rated Power 17W for single channel 34W for two channels
Active Crossover Frequency 1.8kHz
Bass Adjust ?3dB (100Hz)
Treble Adjust ?3dB (10KHz)
Separation >49dB
Signal-to-Noise >74dB
Distortion THD<1%
Input sensitivity 800mV
Input impedance 32k?
Other Parameter
Finished Professional acoustic panel design, PVC matte cabinet , jacquard grille
Dimension (W?H?D) 153?212?195
Net Weight 3.53Kg(main box)/ 2.33Kg(subsidiary box)
เนื่องในโอกาสวันตรุษจีนผมก็เลยขอนำเสนอลำโพงจากแดนมังกร
นั่นก็คือเจ้าหงษ์น้อยนี่เองครับ
ผมเคยเล่าเกี่ยวกับลำโพวยี่ห้อนี้ไปแล้วตัวนึง
นั่นคือ M20W ซึ่งเป็นรุ่นน้องของรุ่นที่ดังมากๆ
อย่างเจ้า M50W ครับ ผมว่านี่ห้อนี้มันต้องเล่นของแน่ๆ เพราะมันคุ้มเกินคุ้มจริงๆ
แม้จะขาดฟังก์ชั่นรีโมทไป แต่เสียงที่ได้นั่นเรียกว่าไม่เคยทำให้ผมผิดหวังจริงๆครับ
ซึ่งตัวที่จะนำมาเล่านี้ คือรุ่น D1010MKIV ครับ
ซึ่งได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบันเป็น MKIV แล้ว
เป็ฯการปรับปรุงทั้งหน้าตาและคุณภาพเสียง เรียกได้ว่าไว้วางใจได้แน่นอน
ขอเริ่มจากตัวกล่องก่อนเลย
โดยที่ตัวกล่องกล่องสองชั้นนะครับ ถ้าเป็นกล่องชั้นเดียว นั้นแปลว่าไม่ใช่ Swan แน่นอนครับ
ถ้ากลอ่งชั้นเดียวมันคือ Hivi ส่วน Hivi จะแตกต่างกับ Swan ยังไงลองติดตามท้ายเรื่องเล่าได้เลยครับ
ตัวกล่องแถมแปะหราเลยว่า World-Class Loudspeakers ก็สงสัยจะจริงนะครับ เพราะส่งขายทั่วโลก
อ๊ะ ไม่ใช่ครับ หมายถึงว่าคุณภาพเสียงนั้นเข้าขั่นระดับโลกจ้า
อุปกรณ์แถมอย่างเดิมจ้า
สายสัญญาณ (mini to RCA) สายไฟ และสายลำโพงอีก1เส้น
โดยในหนังสือแคตตาลอคพอเปิดมาจะเจออยู่รูปนึง นั่นคือรูปนี้ครับ

ในรูปนี้คืออะไรลองติดตามกันได้ในเรื่องราวคราวที่แล้วเลยครับ : http://laohaifang.com/node/22
ต่อมาคือต้องเจอแบบนี้ครับ
ลำโพงอยู่ในถุงผ้า และจะแถมถุงมือผ้ามาให้ ซึ่งถ้าเป็น Hivi ลำโพงจะใส่ถุงพลาสติกใสๆ
เกรดเดียวกับที่ใช้ใส่กับข้าวที่ขายอยู่หน้าปากซอยครับ และ Hivi จะไม่แถมถุงมือมาให้อีกด้วยจ้า
ทีนี้มาเปิดหน้ากากออก มันก็เรียบๆธรรมดาๆครับ
ส่วนที่ลำโพงขวาจะมีที่หมุนๆอยู่ 3อัน ก็คือ Volume Treble และ Bass ครับ
โดย Treble และ Bass ปรับไว้เที่ยงตรงคือจุดสมดุลครับ นอกนั้นใครจะเพิ่มจะลดก็ตามสะดวกเลยจ้า
ขอตินิดนึง งานประกอบแอบไม่เรียบร้อย ลองสังเกตุ Treble กับ Bass ให้ดีครับ เที่ยงตรงแต่มันไม่เท่ากัน
ส่วนดอก tweeter ต้องบอกว่าอย่างคุ้มครับ
ราคาแค่ไม่กี่พัน แต่กลับได้ดอก tweeter สวยขนาดนี้
เสียงก็ดีมากครับ แต่ห้ามใช้กับสายเงินเด็ดขาด
สายชุบเงินยังใช้ได้ แต่เลือกให้ดีหน่อย
ถ้าเลือกไม่ดีนอกจากเสียงแห้งแล้ว
อาจจะยังเจอแหลมบาดหูนิดๆได้อีกด้วย
ด้านหลังแบบเต็มๆ ก็ไม่มีอะไรมากครับ
ส่วนนี่ครับท่อลมและพอร์ตต่างๆ
ลำโพงหลังคือลำโพงขวานะครับ(จะมีตัวปรับวอลุ่ม) แต่หากอยากไปวางด้านซ้ายก็ให้ทำการสลับข้างสายสัญญาณเอา
รูปนี้ผมพยายามถ่ายให่เห็นถึงท่อลมนะครับ
ว่าทางวิศวกรมีการออกแบบมา ไม่ใช่ใส่ท่อมาดื้อๆ
คือลักษณะตะบานออก แต่มันถ่ายยากครับ
ผมก็ถ่ายมาได้แค่นี้ -*-
----------------------------------
พูดถึงเรื่องเสียงของเจ้าหงษ์น้อย
เจ้าหงษ์น้อยตัวนี้เสียงเดิมทีออกจะบางไปหน่อย ไม่เหมือนใน M-Series
เช่น M20w และ M50w จะให้เสียงที่อวบหนา แต่เจ้า D1010MKIV ให้เสียงที่ไม่หนาเท่าไหร่
เรียกว่าเกือบจะบางก็เป็นได้ เริ่มแรกก่อนเบิน ต้องทำใจเลยนะครับ
เสียงจะอั้นๆ อู้ๆอี้ๆ เบสไม่มา ฟังแล้วน่าปวดหัว นี่หรือลำโพงระดับพระกาฬ
อดทนกัน(นาน)ซักหน่อย เพราะเบินนานมาก 50ชม.เสียงก็ยังแย่อยู่ 100ชม.ขึ้นนู่นเสียงถึงรับได้
D1010 เป็นลำโพงที่มีกำลังขับกำลังพอเหมาะ หมุนซัก9โมงก็เรียกว่าพอเหมาะ
และต้องเรียกว่าเป็นลำโพงที่รีดเร้นประสิทธิภาพได้ค่อนข้างยากพอสมควรครับ
DAC ที่ใช้ ขอให้คุณภาพดีหน่อย ผมใช้ NFB-11 ราคามากกว่าเจ้า D1010 ถึงเท่าตัว
แต่จริงๆไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ครับ ขอราคาซักราวๆ 3-5k ก็น่าจะกำลังดี
ส่วนสายสัญญาณขอบอกว่า ที่ให้มาก็เรียกว่าคุณภาพพอใช้ได้ แต่เปลี่ยนดีกว่าครับเพราะว่ามันไม่ได้ดีเหมือนกับ
สายสัญญาณที่ให้มากับ M-Series คราวนี้ที่ให้มันผมว่ามันยังไม่ค่อยเท่าไหร่
ผมเลยลองเอา canare เมตรละ 100บาทมาใส่ เสียงที่ได้ก็ยังไม่น่าพอใจเท่าไหร่ เสียงยังไม่แน่น
ยังอ่อนปวกเปียกอยู่ ผมเลยนึกเอะใจว่าลำโพงอะไรเนี่ย ค่าตัวไม่ถึง5พัน แต่เลือกสายสัญญาณจัง
โดยบุคลิกที่แนะนำผมขอแนะนำสายสัญญาณที่มีเนื้อเสียงแน่นๆเข้าใจ
และถ้าเน้นเนื้อเสียงกลางและเนื้อเบสได้จะดีมากครับ
พอเบินกันซักระยะแล้ว ทีนี้ก็จัดเต็มได้เลย
ผมบอกไว้ก่อนว่าเจ้านี่คุ้มค่าตัวนะครับ แต่เล่นยากพอสสมควรเลย คือเรื่องมาก
เลือก DAC เลือกสายสัญญาณพอสมควร แถมพอร์ดลมอยู่ด้านหลัง
ใครจะเล่นควรต้องมีระยะด้านหลังใกล้ๆกำแพงหน่อยครับ
คือมันอาจจะจู้จี้เรื่องพอร์ตลมซักหน่อย แต่นอกนั้นผมว่าแหล่มจริงๆ
นอกจากนั้นข้อควรรู้คือ ไม่เหมาะกับเพลงหนักๆ แต่เพลงหวานๆ ฟังสบายแน่นอนครับ
แม้กระทั่ง Classic ก็ยังทำได้ดีพอสมควร
อ่านกันมาเยอะแล้ว จะเห็นผมบ่นเกี่ยวกับการเตรีบมเข้า D1010 ค่อนข้างเยอะใช่ไหม
เตรียมได้ดีก็ฟังเพลงได้ไพเราะขึ้นนะครับ มามะๆ เข้าเรื่องกันดีกว่า
D1010 เนี่ยให้รายละเอียดที่ค่อนข้างมาก เรียกว่ามากเกินขนาดล่ะครับ
ฟัง Symphonic Wind Band วงใหญ่ๆยังแจกแจงรายละเอียดเครื่องดนตรีออกมาได้เยอะมาก
แม้ว่าบางทีจะมีอาการลักลั่นออกมาบ้าง ประมาณว่าท่อนที่ต้องโหมดังมากๆสลับกับเบามากๆ
ช่วยที่เบามากๆเจ้า D1010 ยังเก็บได้ไม่สุด ทำให้มีเสียงแลบออกมานิดหน่อย
ทีนี้ลองมาฟังเพลงร้องกันบ้าง ผมขอลองอักเป็นคลิปให้ฟังลองฟังดูกันครับ
โดยในคลิปผมเบินไปเกือบๆ 100ชม. และใช้สายสัญญาณแค่ canare เมตรละ 100บาท เอง
แถมอุปกรณ์ที่ใช้อัดยังเป็นแค่ iPhone4 ธรรมด้าธรรมดา
เสียงที่ได้ยัง***งของจริงอีกเยอะนะครับ ของจริงดีกว่าอีกประมาณ 3เท่าตัวเลยทีเดียวครับ
http://www.youtube.com/watch?v=1-KgaFoFHCs
อย่าพึ่งสงสัยกันนะครับว่าทำไมผมถึงอัดไฟล์ให้ฟังตอนมันยังไม่สุด
เนื่องจากว่าผมอยากให้ลองฟังแบบครึ่งๆกลางๆ ถ้าท่านคิดว่าลำโพงตัวนี้มันน่าสนใจ
ก็ควรจะไปลองฟังของจริงก่อนซื้อครับ อย่าตัดสินจากเพียงเสียงในคลิป
แวะเอารูปมาคั่นกันซักรูปสองรูปครับ
รูปนี้ถ่ายให้เห็นว่าเวลาเปิดสวิช จะมีไฟติดเพื่อเป็นการบอกว่าพร้อมทำงานแล้วนะ
ส่วนอีกรูปคือปุ่มยางด้านล่างมีขนาดใหญ่พอประมาณ แต่ไม่ได้หนึบอะไรครับ
ลักษณะเป็นคล้ายๆโฟมมากกว่าที่จะเป็นยางครับ
----------------------------------
ทีนี้มาลองฟังผมเล่าประสบการณ์หลังจากเบินๆร่วม 200 ชม.กันบ้าง
หลังจากอดทนรอเบินมานานและจัดแจงทุกอย่างให้เรียบร้อย
โดยผมวาง***งกันประมาณ 70cm หันเข้าหากันเล็กน้อย แม้คอมผมจะไม่มีอะไรด้านหลัง
แต่ได้พบว่า เสียงร้องพุ่งออกมาจากจอ และมีตำแหน่งสูงกว่าตัวลำโพงอีกด้วย
ซึ่งจะประมาณได้ว่าเสียงของนักร้องนั้นอยู่ตรงหน้าพอดิบพอดี
Bass และ Treble ผมปรับไว้เที่ยงตรงพอดี ก็เรียกว่าผมเน้นโทนัลบาล๊านซ์ที่สมดุลละครับ
เพียงแต่เบสอาจจะดูน้อยไปซักนิด(มั้ง) เพราะผมไม่มีอะไรมาสะท้อนพอร์ดลมด้านหลัง
แต่พอร์ตลมผมว่าเค้าออกแบบมาค่อนข้างดีทีเดียวครับ คือมันสร้างเบสได้ปริมาณมากพอสมควร
แต่ด้วยความที่มันอยู่ด้านหลัง แรงประทะเลยไม่มีมาด้านหน้า
เสียงสูงมีแบบสะอาดๆกำลังดีไม่คม ไม่บาด ไม่หวาน
และที่สำคัญลำโพงตัวนี้ไม่มืดและไม่สว่างจนเกินไป
ลำโพงตัวนี้ไม่เรื่องมากในการวางเท่าไหร่ แต่อย่าวางมั่วๆก็เพียงพอครับ
เรื่องความร้อนเป็นของคู่กับลำโพงค่ายนี้ เปิดไว้ไม่นานก็ร้อน ร้อนแบบมากๆด้วย
ไม่ว่าจะรุ่นดังอยาง M50w ก็ร้อนมากเช่นกันครับ แต่ไม่ต้องตกใจ ผมลองเปิดวันละ 8ชม. ก็ไม่มีปัญหานะ
แต่เปิดแล้วปิดพักมันบ้างก็ดีครับ ใช้มันอย่างถนอม มันจะได้ร้องเพลงให้ฟังได้นานๆครับ
ขอชมอีกซักหน่อยว่าขนาดมันพอเหมาะกับโต๊ะคอมมากๆ
คือไม่เล็กไปไม่ใหญ่ไป และเสียงที่ได้ไม่แพ้ Pro-1 เลย ผมว่าชนะ Pro-1 ได้สบายๆ
จะไปแพ้ก็ตรงที่ไม่มีรีโมทนี่แหละ แต่หลังๆผมก็ไม่รู้เป็นอะไรนะ ชอบหมุนเอง -*-
ขนาดฟังชุดวางหิ้งยังลุกจากที่นั่งไปหมุนวอลุ่มเองเลย เมื่อก่อนรักสบายขอมีรีโมท
แต่ช่วงนี้คึก ชอบหมุนเองซะงั้น
มาถึงระยะทำการซักหน่อย เป็นอะไรที่น่าแปลกใจมาก
คือตั้งแต่ระยะหน้าคอมจนถึง 1เมตร มันทำได้ดีทุกระยะ 1.5เมตรก็ทำได้ดีพอสมควรครับ
แต่ไม่ได้ทดสอบในระยะ 1.5-2เมตรมากเท่าไหร่ แค่ลองเปิดให้ดังแล้วเสียงยังได้โฟกัสกับไม่พร่ามัวก็เป็นพอ
พอถ้าจะให้ทดสอบจริงๆคงต้อง เลื่อยตำแหน่งลำโพงกันอีกเป็นแน่แท้
เพราะตำแหน่งชิ้นดนตรีมันเริ่มชิดๆกัน เดี๋ยวจะฟังแล้วมั่วไปมากกว่านี้
----------------------------------
คราวนี้มาเทสแบบบ้านๆกันบ้างครับ
ผมลองสายแถมแบบบ้านๆที่ให้มาในกล่อง ลองต่อตรงกับ iPhone4 คู่ใจของผม
ผลที่ได้คือไม่ขี้เหล่เลย เสียงดีด้วยครับ ผมว่างานนี้ผมมีลำโพงในใจอีกตัวนอกจากเจ้า Boston BA635 แล้ว
เสียงกลางไม่แห้ง เสียงสูงยังไม่สะอาดปิ้งๆเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับขุ่นมัว
เบสถึงจะไม่ลึกแต่ก็เรียกว่ารับได้ครับ เรียกว่าเจ้านี่เสียงดีได้ง่ายๆเลยครับ
สงสัยงานนี้ผมคงต้องเล็งเจ้า D1010MKIV ไว้แล้ว
ใครมีปล่อยมือสองราคาดี ผมจะไม่คิดครับ โทรปุ๊บคว้าปั๊บ
แต่ตอนนี้ยังไม่มีมือสองมาปล่อยกัน ใครสนใจก็ลองไปฟังได้ครับที่ Hifi Lover พันทิพย์ประตูน้ำได้เลยครับ
อ่อเกือบลืมไป ผมขอบอกกล่าวซักนิดว่า ช่วยกันอุดหนุน Dealers ตัวจริงกันด้วยนะครับ
ลองเช็คได้ครับที่ http://swanspeaker.com/dealers/dealers.aspx
ผมให้เกล็ดความรู้กันอีกนิดครับ Swan กับ Hivi นั้นต่างกันอยู่ครับ
Hivi นั้นเป็นของที่ทำชายในประเทศจีน ซึ่งแพ็คเกจและของที่ให้ม้ด้านในจะแย่กว่า Swan ครับ
ซึ่ง Swan เป็นของที่ผลิตไว้ส่งออกเท่านั้น ก่อนจะซื้อลำโพงยี่ห้อนี้ควรตรวจสอบว่าท่านได้อะไรมา
ลองดูของ Hivi นะครับ
ที่ได้มาจะมีแค่นี้ ไม่มีถุงผ้าใส่ลำโพง ไม่มีถุงมือ
และกล่องกระดาษยังเป็นกล่องชั้นเดียวอีกด้วยครับ
ต่างกับ Swan ที่กล่องจะเป็นมาตรฐานการส่งออก คือมีสองชั้น
มีถุงผ้าหุ้มลำโพง และมีถุงมือแถมให้อีกด้วย ส่วนเรื่องเสียงผมไม่ททราบว่าต่างกันหรือไม่
เพราะยังไม่มีโอกาสฟังเทียบกันตัวต่อตัวเลยแม้แต่น้อย
ปล.ในรูปเป็น D1080MKIII ครับ
วันนี้มีเรื่องมาเล่าแค่นี้ครับ ต้องขอขอบคุณ Hifi Lover ที่ทำให้ผมหายข้องใจ
เพราะผมแอบเล็งเจ้า D1010 มานานมากๆแล้ว
และขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกท่านที่ติดตามผลงานของผมครับ
ขอลาไปก่อนจ้า สวัสดีครับ
Credit : http://laohaifang.com/node/106
---------------------------------
ก่อนไปผมลืมแปะเสปคให้ครับ
General Data
Model HiVi D1010-IV
System Series 2.0 Professional active electron filter multimedia speaker system
Acoustic System
System Series 2-way, 4th order active vented box speaker system
Drivers Configuration 4 " mid range,20mm dome tweeter
Frequency Range 62Hz-20kHz
Sensitivity 85dB (2.83V/1m)
Nominal Impedance 4?
Power Range 10-50 W
Amplifiers System
Rated Power 17W for single channel 34W for two channels
Active Crossover Frequency 1.8kHz
Bass Adjust ?3dB (100Hz)
Treble Adjust ?3dB (10KHz)
Separation >49dB
Signal-to-Noise >74dB
Distortion THD<1%
Input sensitivity 800mV
Input impedance 32k?
Other Parameter
Finished Professional acoustic panel design, PVC matte cabinet , jacquard grille
Dimension (W?H?D) 153?212?195
Net Weight 3.53Kg(main box)/ 2.33Kg(subsidiary box)
Comment