Announcement

Collapse
No announcement yet.

ความแตกต่างระหว่าง Class AB กับ Class D

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ความแตกต่างระหว่าง Class AB กับ Class D

    ก่อนอื่นขอบใจทุกท่านที่เข้าอ่านนะครับ
    คือ อยากถามท่านผู้รู้ว่า Power amp Class AB กับ Class D มีความแตกต่างกันยังไงครับ เราจะชื้อแบบไหนดีครับ
    ขอบคุณล่วงหน้าครับ

  • #2
    Class AB ดีกว่าครับในเรื่องคุณภาพเสียง ส่วน Class D เหมาะกับแอมป์รถยนต์มากกว่าเน้นดังอย่างเดียวคุณภาพเสียงสู้ Class AB ไม่ได้ครับ เหมาะกับขับเบสมากกว่าสำหรับ Class D อ่ะครับ

    Comment


    • #3
      Originally posted by carbon_za View Post
      Class AB ดีกว่าครับในเรื่องคุณภาพเสียง ส่วน Class D เหมาะกับแอมป์รถยนต์มากกว่าเน้นดังอย่างเดียวคุณภาพเสียงสู้ Class AB ไม่ได้ครับ เหมาะกับขับเบสมากกว่าสำหรับ Class D อ่ะครับ
      NAD ดังนะครับ M2 หรือ M3 นีแหละ

      Comment


      • #4
        คลาส AB หนักกว่า ใหญ่กว่า กินไฟมากกว่า กำลังขับน้อยกว่า ขยายสัญญาณได้ความถี่กว้างกว่า
        ประสิทธิภาพการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานเสียงต่ำกว่า แต่เรื่องคุณภาพเสียงกินขาด
        ถ้าเราเอาไปใช้อะไรที่ไม่ต้องการ คุณภาพเสียงมากนักเช่นเสียงตามสายก็ใช้ คลาส D
        แต่ในความถี่ต่ำๆนั้นไม่ต่างกันเท่าใหร่(คลาส D ได้เปรียบเรื่องกำลังขับอยู่แล้ว)
        ในรถยนต์ นิยมใช้คลาส D เพราะเรื่องความร้อนที่ต่ำมาก เมื่อก่อนนี้เคยได้ชื่อว่า
        เป็นวงจรขยายที่ ประสิทธิภาพสูงสุด(ไม่นับคลาส B เพราะเลิกใช้ไปแล้ว)
        แต่ตอนนี้ต้องคลาส H ( EE ENGINE) คุณภาพเสียงเทียบเท่า คลาส AB ประสิทธิภาพ
        เหนือคลาส D ข้อเสียคือต้นทุนสูง แต่ตอนนี้ราคาเริ่มลงมาแล้ว ผมมีอยู่สองตัว
        ฟังแล้วเสียงไม่ต่างจากคลาส AB จะซื้อแบบไหน อยู่ที่เราเอาไปทำอะไรครับ

        Comment


        • #5
          ขอบคุณทุกท่านมากเลยครับ
          ได้ความรู้เยอะเลยครับ
          จริงๆแล้ว สนใจอยากประกอบ power amp ไว้ใช้เอง แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน หาหนังสือเกี่่ยวกับเรื่องนี้ไม่ค่อยมีเลยในห้างหนังสือ

          Comment


          • #6
            ต้องการคุณภาพเสียงขั้นสูงสุด เลือก Class A แต่กินไฟมากสุด ความร้อนสูงตลอดเวลา กำลังขาออกไม่เกิน25%ของพลังงานที่ใช้
            - พวก Audiofield นิยม
            ต้องการคุณภาพเสียงสูง พร้อมด้วยกำลังขับสูง เลือก Class AB กินไฟปานกลาง ความร้อนไม่สูงมาก กำลังขาออกไม่เกิน50%ของพลังงานที่ใช้
            - ระดับปกติ-Hi-End
            ต้องการกำลังขับสูงสุด คุณภาพเสียงปานกลาง เลือก Class D ความร้อนต่ำ กำลังขาออกเกือบ85%ของพลังงานที่ใช้ แต่จะเสียงแข็งๆ ที่ความถี่สูง
            - ขับ Sub Woofer เหมาะสุด

            Class B ยังมีใช้ในแอมป์หลอด Push-Pull นะจ๊ะ เพราะพวก Single-End Class A กำลังมันต่ำ(ได้ไม่เกิน15วัตต์) เกินกว่านี้เป็น Push-Pull Class B หมด

            Class ของ Power Amp

            Comment


            • #7
              Originally posted by Rev View Post
              ต้องการคุณภาพเสียงขั้นสูงสุด เลือก Class A แต่กินไฟมากสุด ความร้อนสูงตลอดเวลา กำลังขาออกไม่เกิน25%ของพลังงานที่ใช้
              - พวก Audiofield นิยม
              ต้องการคุณภาพเสียงสูง พร้อมด้วยกำลังขับสูง เลือก Class AB กินไฟปานกลาง ความร้อนไม่สูงมาก กำลังขาออกไม่เกิน50%ของพลังงานที่ใช้
              - ระดับปกติ-Hi-End
              ต้องการกำลังขับสูงสุด คุณภาพเสียงปานกลาง เลือก Class D ความร้อนต่ำ กำลังขาออกเกือบ85%ของพลังงานที่ใช้ แต่จะเสียงแข็งๆ ที่ความถี่สูง
              - ขับ Sub Woofer เหมาะสุด

              Class B ยังมีใช้ในแอมป์หลอด Push-Pull นะจ๊ะ เพราะพวก Single-End Class A กำลังมันต่ำ(ได้ไม่เกิน15วัตต์) เกินกว่านี้เป็น Push-Pull Class B หมด

              Class ของ Power Amp
              ขอบคุณครับท่านอื่นมีอีกไหมครับ
              Last edited by j0011505; 19 Feb 2011, 02:17:11.

              Comment

              Working...
              X