D.I.Y.ตอน ต่อแอมป์ 40+40 w. ราคาไม่ถึงพัน

[jinn]

ไปเดินคุ้ย คุ้ย หลอดวิทยุ....มาเจอหลายตัวน่าสน / ยังไม่กล้า ซื้อกลัวเสีย + กลัวปลอม + ความรู้น้อย



เรามีวิธีเช็คว่า..หลอดไหนดี หลอดไหนเสีย เบื้องต้นได้ไหมครับ ? (ท่าทางคำถามจะยาก.... นะนี่ )

....................................

แหล่งหา ข้อมูลหลอด (เด๋วขอศึกษา ดูก่อน เอารุ่น 12AU7 ก่อนก็แล้วกัน )

http://thetubestore.com/

.............................

12AU7 / ECC82 Tube Types

http://thetubestore.com/12au7types.html

.......................................

HALL OF SHAME, PICTURES OF FAKE TUBES

http://www.jacmusic.com/nos/images/Fakes/index.htm

................................





http://www.triodeel.com/tester.htm

Tube Matcher

http://priceamp.home.comcast.net/~pr...ubematcher.htm

.................................................................................................................

พูดงี้ ขี่รถมาที่นี่เลย ให้ยืมCไปลอง
ให้กิเลสมันกระจายทั่วๆหน่อย

ไม่เข้าถำ้เสือ....ไม่ได้ลูกเสือ....

เด๋วขอให้ว่าง.....ว่าง.....โล่ง.....โล่ง ก่อนนะครับ ช่วงนี้งานออกแบบ....เข้า

[cleaning]

ใส่ buffer ที่ผมลอง.....กับคอม.....ไม่มีปัญหาเสียง ตุ๊บ...อะไรเลย...เลย

.............................................

แต่ต่อ buffer กับ cd player เวลาเปลี่ยน แทรกเพลงใหม่...จะเสียง ตุ๊บเบาๆ / ตัวป้องกันลำโพง...อาจช่วยในเรื่องนี้ได้

ตัวป้องกันลำโพง....ผมมีอยู่ เด๋วเอามา...ลอง ให้ครับ... ( ว่าช่วยเสียง ตุ๊บเบาๆ หายได้หรือเปล่า )

แต่ใส่ไว้ก็ดีครับ....สบายใจ... (ปลอดภัยไว้ก่อน )

คุณ jinn กับbuffer ได้ลองเปลี่ยนหลอดบ้างหรือเปล่าครับ ได้ความแตกต่างหรือไม่ครับ และคิดว่า buffer มีผลต่อเสียงแค่ไหนครับ
ผมตอนนี้ยังหาหลอดเป็นคู่มาใส่ไม่ได้เลยครับ ยังใส่ 6n1p+6dj8 ผสมกันอยู่เลยครับ และ buffer ก็มีเสียงฮัมนิดๆแต่ก็เบาๆครับ ต้องเอาหูแนบลำโพงถึงได้ยินคงเป็นเรื่องปกติของหลอดใช่ไหมครับ

หลอด 6dj8 ก็ราคาเอาเรื่องเหมือนกันครับ จะหาชื้อมาใส่ก็คิดหนักเลยว่าถ้าใส่ไปแล้วไม่ค่อยเห็นผลก็เสียเงินฟรีๆอีกแล้ว
ตอนนี้คุณใชหลอดอะไรครับใน buffer ครับ

ผมมีbufferสองแบบ เอามาผสมกันคิดว่าได้ไหมครับ เอาสองแบบลงกล่องเดียวกันไปเลย ให้สัญญานผ่านตัวแรกแล้วก็ต่อสายตรง output ตัวแรกมาเข้า input ตัวที่สอง แยกภาคจ่ายไฟ
มันจะมีค่าเท่าเดิมไหมนะ เพราะว่ามันเป็นหลอด 6dj8 เหมือนกัน

[jinn]

ผมใช้ หลอด 6N2P-EV แนวเสียง โดยรวมผมนะ ชอบ....ครับ...

มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับหลอด 12AX7 แต่ไส้หลอด (filament) ของหลอด 6N2P

ทั้งสองชุดถูกต่อขนานกันอยู่ ทำให้ 6N2P ทำงานได้โดยป้อนแรงดันให้กับไส้หลอด 6.3v 300mA

ราคาร้อยกว่าบาท ร้าน ppn ครับ




................................................................................................................................................................

ใช้ไฟ ไส้หลอด 6.3v กะลังสนใจ EF86 ตัวนี้อยู่...เด๋วหาข้อมูลก่อน (บอกก่อนเรื่องหลอดผมมั่วมากนะ....อย่าเชื่อมาก )








หลอดเบอร์ EF86

หลอด ef86 เป็นประเภท Low nois pentode ครับ เห็นตรงนี้แล้ว ก็พอจะเชื่อขนมกินได้ ว่า นอกจากเสียงจะดี และเป็นหลอดเสียงประเภท Hi Fi แล้ว ยังเป็นหลอดประเภทสัญญาณรบกวนต่ำอีกด้วย ก็คงเป็นหลอดที่น่าหามาเก็บไว้ หรือสะสมไว้ดูเล่น ๆ แล้ว ยังเอามาใช้งานประเภทอเนกประสงค์ด้วย หากดูจาก Datacheet แล้ว หลอดเบอร์ EF86 ใช้ไฟได้กว้างมากที่เดียว คำว่ากว้างมาก หมายความว่า หลอดเบอร์ EF86 สามารถใช้แรงดันได้ตั้งแต่ 100 โวล์ลไปจนถึง 550 โวล์ล DC ด้วยซิ เหลือพอที่จะนำมาพิจารณาใช้งานครับ

http://frank.pocnet.net/sheets/030/e/EF86.pdf

link>>

http://www.thaigramophone.com/defaul...d=63&qid=14294

[tiger X-fi]

.

[cleaning]

buffer นอกจาก 6dj8 แล้วหลอดเบอร์ไหนที่สามารถทำได้อีกบ้างครับ เสียงออกแนวหวานนุ่มครับ ผมมีหลอด 12au7 ชิลวาเนีย 2 หลอด พร้อม pcb ปรีหลอด http://www.htg2.net/index.php?topic=34063.0 ตัวในกระทู้ตามลิงค์ยังไม่ได้ทำเลย
สงสัยคงไม่ได้ทำแล้ว หันมาใช้ buffer ไปซะแล้ว

[keang]

ไม่ว่าเบอร์ไร จะมีแบบพวกหลอดคัดเกรดคัดสเปค
กลุ่มหลอดปรี > เหนือกว่าหลอดตลาดก็พันอัพ
กลุ่มหลอดปรี > คัดเกรดสูงขึ้นไปอีกก็2พันอัพ : ส่วนใหญ่หลอดที่เค้าเล่นกันเค้าหากันก็อยู่ในกลุ่มนี้

บางเบอร์บางลอทผลิตที่หายากๆ เปิดประมูลได้เลย
หลอดปรีบางเบอร์บางลอท ต่างประเทศประมูลกันหลักหมื่น

[cleaning]

หลอด 6dj8 ชิลวาเนียนี่เสียงดีหรือไม่ครับ จะหามาใส่ buffer ครับมันไม่ค่อยแพงมากคู่ละไม่เกินพันบาทครับ

[keang]

6dj8คือเบอร์พื้นฐาน > 6922คือเบอร์สเปคสูงกว่า6dj8 > 7308คือเบอร์สเปคสูงกว่า6922

หลอดเค้าไม่ได้ดูแค่เบอร์หรือยี่ห้อ
- เบอร์เดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน มีโรงงานผลิตหลายประเทศหลายที่ เสียงก็ต่างกัน
- เบอร์เดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน ผลิตคนละลอท เสียงก็ต่างกัน

คนที่เค้าคลุกคลีกับหลอดมากๆ แค่เห็นหลอดเค้าก็บอกได้ว่า ยี่ห้อไร ผลิตโรงงานไหน ผลิตช่วงปีพศ.ไร
เค้าจะมีจุดสังเกตุของ รูปร่างหลอด โครงสร้างภายในตัวหลอด งานพิมพ์ที่ตัวหลอด

--- ฉะนั้นคำถามที่ถามว่า "6dj8ของซิลวาเนียดีไม๊" คงตอบไม่ได้ เพราะข้อมูลน้อยมากๆ ---
--- เอาง่ายๆ ถ้าใช้แล้วชอบ ก็ถือว่าดีครับ สบายเงินในกระเป๋าด้วย ---



หลอดที่หลายๆคนเค้าเล่นกัน เพราะ มันเปลี่ยนแนวเสียงได้ด้วยตัวเจ้าของเครื่องเอง
เปลี่ยนหลอดก็เหมือนเปลี่ยนออปแอมป์ ทำได้เอง ไม่ต้องยกเครื่องไปหาช่างทำให้
แต่หลอดที่เค้าว่าดีๆ มันหาไม่ง่าย ต้องดูเป็นด้วย และราคาก็สูงกว่าออปแอมป์เยอะ

ความคิดผมน่ะ ไม่ต้องทำเยอะตัวหรอก ยิ่งมากตัวยิ่งเหมือนเผาเงินทิ้งไปเรื่อยๆ
หาสักตัว ตัวไหนก็ได้ที่พื้นฐานมันให้เสียงโดยรวมได้ถูกใจเราแล้ว
เอาตัวนั้นมาปรับปรุง มาทำให้มันมากขึ้น ถูกใจเรามากขึ้น
ให้มันถึงคำว่า "เราขุดเรารีดประสิทธิภาพจากมันได้เต็มที่ตามความสามารถของเราแล้ว"
ถ้าทำถึงขั้นนี้แล้ว มันยังให้ไม่ได้อย่างใจเราต้องการ ค่อยไปหาตัวอื่น

วงจรเกือบทั้งหมดที่เดี๋ยวนี้เอามาdiyกัน จัดว่าตัววงจรใช้ได้แล้วทั้งนั้น
เพราะ ทุกวงจรนั้น ผ่านการคัดกรอง ผ่านการคัดเลือก มาแล้วทั้งนั้น จนดีถึงขั้นมั่นใจว่า ทำแล้วมันควรจะออกมาดี
แต่ทุกวงจรที่ทำๆกัน มันมีจุดดีจุดด้อยปะปนอยู่ในตัว เหมือนกันหมดทุกวงจร อยู่ที่เราเข้าใจมันมากแค่ไหน
- เข้าใจมาก ก็ลดจุดด้อย เสริมจุดดี ได้ถูกใจเรามากขึ้น
- ไม่เข้าใจไรเลย ประกอบให้มีเสียงอย่างเดียว มันก็คงซึ่งจุดดีจุดด้อยตามเดิมนั่นแหล่ะ

[tiger X-fi]

เห็นแล้วสะใจดี


--------------
ตอนนี้แหลมยังขาดประกายอยู่
เดี๋ยว ลองเปลี่ยน โซบอล เป็น 2โอมห์ 2w C 0.022 ดู
ยังสงสัยต้นตอมาจากตะกั่วหรือป่าว
เจาะรูใหญ่ไปหน่อย เลยต้องใช้ตะกั่วพอกเยอะ

[cleaning]

6dj8คือเบอร์พื้นฐาน > 6922คือเบอร์สเปคสูงกว่า6dj8 > 7308คือเบอร์สเปคสูงกว่า6922

หลอดเค้าไม่ได้ดูแค่เบอร์หรือยี่ห้อ
- เบอร์เดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน มีโรงงานผลิตหลายประเทศหลายที่ เสียงก็ต่างกัน
- เบอร์เดียวกัน ยี่ห้อเดียวกัน ผลิตคนละลอท เสียงก็ต่างกัน

คนที่เค้าคลุกคลีกับหลอดมากๆ แค่เห็นหลอดเค้าก็บอกได้ว่า ยี่ห้อไร ผลิตโรงงานไหน ผลิตช่วงปีพศ.ไร
เค้าจะมีจุดสังเกตุของ รูปร่างหลอด โครงสร้างภายในตัวหลอด งานพิมพ์ที่ตัวหลอด

--- ฉะนั้นคำถามที่ถามว่า "6dj8ของซิลวาเนียดีไม๊" คงตอบไม่ได้ เพราะข้อมูลน้อยมากๆ ---
--- เอาง่ายๆ ถ้าใช้แล้วชอบ ก็ถือว่าดีครับ สบายเงินในกระเป๋าด้วย ---



หลอดที่หลายๆคนเค้าเล่นกัน เพราะ มันเปลี่ยนแนวเสียงได้ด้วยตัวเจ้าของเครื่องเอง
เปลี่ยนหลอดก็เหมือนเปลี่ยนออปแอมป์ ทำได้เอง ไม่ต้องยกเครื่องไปหาช่างทำให้
แต่หลอดที่เค้าว่าดีๆ มันหาไม่ง่าย ต้องดูเป็นด้วย และราคาก็สูงกว่าออปแอมป์เยอะ

ความคิดผมน่ะ ไม่ต้องทำเยอะตัวหรอก ยิ่งมากตัวยิ่งเหมือนเผาเงินทิ้งไปเรื่อยๆ
หาสักตัว ตัวไหนก็ได้ที่พื้นฐานมันให้เสียงโดยรวมได้ถูกใจเราแล้ว
เอาตัวนั้นมาปรับปรุง มาทำให้มันมากขึ้น ถูกใจเรามากขึ้น
ให้มันถึงคำว่า "เราขุดเรารีดประสิทธิภาพจากมันได้เต็มที่ตามความสามารถของเราแล้ว"
ถ้าทำถึงขั้นนี้แล้ว มันยังให้ไม่ได้อย่างใจเราต้องการ ค่อยไปหาตัวอื่น

วงจรเกือบทั้งหมดที่เดี๋ยวนี้เอามาdiyกัน จัดว่าตัววงจรใช้ได้แล้วทั้งนั้น
เพราะ ทุกวงจรนั้น ผ่านการคัดกรอง ผ่านการคัดเลือก มาแล้วทั้งนั้น จนดีถึงขั้นมั่นใจว่า ทำแล้วมันควรจะออกมาดี
แต่ทุกวงจรที่ทำๆกัน มันมีจุดดีจุดด้อยปะปนอยู่ในตัว เหมือนกันหมดทุกวงจร อยู่ที่เราเข้าใจมันมากแค่ไหน
- เข้าใจมาก ก็ลดจุดด้อย เสริมจุดดี ได้ถูกใจเรามากขึ้น
- ไม่เข้าใจไรเลย ประกอบให้มีเสียงอย่างเดียว มันก็คงซึ่งจุดดีจุดด้อยตามเดิมนั่นแหล่ะ

ขอบคุณครับ ผมก็คิดว่าจะหาหลอดอีกคู่เดียวพอครับ เท่ากับผมมี buffer สองตัวครับ ก็จะแยกกันใช้งานครับ อีกตัวต่อกับคอมอีกตัวต่อกับ ดีวีดี ครับ
buffer เราสามารถจับมันมารวมกันได้ไหมครับเอามาต่อพ่วงกันเลย ทั้งสองแบบ สัญญานผ่านตัวแรก มาเข้าตัวสอง แล้วค่อยไปเข้า int ครับ มันจะมั่วไปหรือไม่ครับ
ผมเพียงแต่อยากได้หลอดสักคู่มาใส่buffer ครับ แต่ยังหาตัวที่จบไม่ได้ครับ เพราะมันติดปัจจัยครับ แพงไปก็ไม่มีทุนครับ แล้วผมดันต้องการเสียงที่ไม่สดซะอีกด้วยก็คือหวานนุ่มซึ่งคงจะหายากเพราะติดเรื่องราคา
บางที่ผมยังนึกว่าจะจับ Z2+buffee รวมลงกล่องเดียวกันไปเลยจะได้จัดวางง่ายๆครับ ไม่ต้องต่อสายหลายเส้นเป็นการลดทอนไปเปล่าๆ ต่อ output Z2 เข้า input buffer ไปซะเลย

หลอดเปลี่ยนแล้วเห็นผลชัดเจนเหมือนกับopmap หรือไม่ครับ

[jinn]

เห็นแล้ว....คันหู หัดลองทำเฉพาะกิจ...






link >>

http://www.head-fi.org/t/402067/a-su...-headphone-amp

[keang]

ผมก็คิดว่าจะหาหลอดอีกคู่เดียวพอครับ เท่ากับผมมี buffer สองตัวครับ ก็จะแยกกันใช้งานครับ อีกตัวต่อกับคอมอีกตัวต่อกับ ดีวีดี

คอมกับแอมป์ / ดีวีดีกับแอมป์ แต่ละชุดตั้งห่.างกันแค่ไหน หรือ ใช้กันคนละห้อง
ถ้าห่.างกันไม่มาก ก็ใช้แค่บัฟเฟอร์ตัวเดียว + หาซีเลคเตอร์มาตัวนึง ทำมาตัวสลับเลือกอินพุทคอมหรือดีวีดี

หลอดเปลี่ยนแล้วเห็นผลชัดเจนเหมือนกับopmap หรือไม่ครับ

ตอนนู้นสมัยที่ยังเล่นเครื่องเสียงอยู่ สเตปเป็นแบบนี้
1. หลอด6dj8ของฟิลิปส์
2. 7308 gold gradeของgold aero ราคา800 ใช้ดูหนังกับฟังเพลง สลับกับ 6922ของram ราคา1,500 ใช้ฟังเพลงอย่างเดียว
3. 7308 platinumของgold aero ราคา2,500 (อันนี้ใช้จริง1 แต่หลังจากลองเสียงหลอดแรกไปแล้ว ไม่เกิน7วันต้องรีบไปซื้อสแปร์สำรองไว้อีก2)
-- ราคาที่บอกคือราคาเมื่อ18ปีก่อน --
ทุกๆสเตปที่เปลี่ยนหลอด เพื่อนในกลุ่มจะเป็นเหยื่อซื้อมาลองก่อน แล้วผมตามไปลองฟังเสียงของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
จะมีที่ผมต้องเป็นเหยื่อเสี่ยงตายก่อน ก็เฉพาะ7308 platinumนี่แหล่ะ

ที่เล่ามาข้างบน คงเป็นคำตอบสำหรับคำถามได้ในระดับนึง

ปล.
gold aero, ram ไม่ใช่ผู้ผลิตหลอด ไม่มีโรงงานผลิตเอง
เค้าไปคัดเลือกหลอดจากยี่ห้อต่างๆ อันไหนได้เสียงถูกใจตามคอนเซปเค้า ก็เอามาแปะยี่ห้อของตัวเอง แล้ววางจำหน่ายในแบบหลอดคัดเกรด

buffer เราสามารถจับมันมารวมกันได้ไหมครับเอามาต่อพ่วงกันเลย ทั้งสองแบบ สัญญานผ่านตัวแรก มาเข้าตัวสอง แล้วค่อยไปเข้า int ครับ มันจะมั่วไปหรือไม่ครับ

จุดประสงค์ที่คิดจะต่อแบบนั้น เพื่อให้ได้อะไรครับ

[cleaning]

คอมกับแอมป์ / ดีวีดีกับแอมป์ แต่ละชุดตั้งห่.างกันแค่ไหน หรือ ใช้กันคนละห้อง
ถ้าห่.างกันไม่มาก ก็ใช้แค่บัฟเฟอร์ตัวเดียว + หาซีเลคเตอร์มาตัวนึง ทำมาตัวสลับเลือกอินพุทคอมหรือดีวีดี



ตอนนู้นสมัยที่ยังเล่นเครื่องเสียงอยู่ สเตปเป็นแบบนี้
1. หลอด6dj8ของฟิลิปส์
2. 7308 gold gradeของgold aero ราคา800 สลับกับ 6922ของram ราคา1,500
3. 7308 platinumของgold aero ราคา2,500 (อันนี้ใช้จริง1 แต่หลังจากลองเสียงหลอดแรกไปแล้ว ไม่เกิน7วันต้องรีบไปซื้อสแปร์สำรองไว้อีก2)
-- ราคาที่บอกคือราคาเมื่อ18ปีก่อน --
ทุกๆสเตปที่เปลี่ยนหลอด เพื่อนในกลุ่มจะเป็นเหยื่อซื้อมาลองก่อน แล้วผมตามไปลองฟังเสียงของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ
จะมีที่ผมต้องเป็นเหยื่อเสี่ยงตายก่อน ก็เฉพาะ7308 platinumนี่แหล่ะ

ที่เล่ามาข้างบน คงเป็นคำตอบสำหรับคำถามได้ในระดับนึง



จุดประสงค์ที่คิดจะต่อแบบนั้น เพื่อให้ได้อะไรครับ

ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำครับ
วางอยู่จุดใกล้ๆกันครับ ซีเลคเตอร์ มันเป็นแบบไหนนะครับ
แต่ตอนนี้ผมดันมี buffer สองตัวแล้วครับ

จุดประสงค์ที่ผมจะจับรวมกันก็คิดๆว่าจะไม่ไม่ต้องแยกหลายกล่องครับ ตอนนี้ dac ผมอยู่กล่อง buffer ตัวละกล่องเลยครับ
และเป็นการลดทอนสายสัญญานลงครับ เป็นแค่แนวคิดเฉยๆครับถ้ามันไม่ดีไม่เหมาะสมผมก็คงไม่ทำครับ

[keang]

มีบัฟเฟอร์2ตัว งั้นถามเพิ่ม คุณชอบตัวไหนมากที่สุด
ในงบประมาณที่ไม่บานปลาย ให้ใช้ตัวที่ชอบมากที่สุด ถ้าจะทำไรเพิ่มก็ทำที่ตัวนี้

( เพราะถ้ามัวแต่เอางบที่มีไปเฉลี่ยปรับปรุงทั้ง2ตัว คุณจะไม่ได้ตัวที่มันสมบูรณ์ครบๆสักตัวเลย
ถ้าตัวแรกสมบูรณ์แล้ว จะไปสนุกต่อกับตัวที่2 3 4 5 ก็ตามอัธยาศัย )

ซีเลคเตอร์สำหรับเลือกอินพุท ก็คือ สวิทช์สำหรับเลือกว่า จะเอาอินพุทของอะไรมาใช้งาน
หลักการทำงานจะประมาณนี้ /// อินพุทA=dvd , อินพุทB=comp > selector switch > amp

ตัวselector switchหน้าตาเป็นแบบไหน คุณเห็นโรตารี่สวิทช์ตัวกลมๆ ที่กลุ่มทำเกนโคลนเค้าเอามาทำวอลลุ่มแอทเทน ก็คือสวิทช์ตัวนี้แหล่ะครับ
หากล่องมาใบนึง ใส่RCAไป3คู่ อินพุทคอม1คู่+อินพุทดีวีดี1คู่ > ต่อสายไปเข้าโรตารี่สวิทช์ > ต่อสายไปที่RCA สำหรับต่อกับแอมป์

rotary switch

จะใช้toggle swithแทนrotary switchก็ได้

[jinn]

ปรับปรุง เพิ่มไฟสีใต้หลอด กับ เปลี่ยนโวลุ่ม Pot Alps RK27 Dual 100KA สีฟ้า ( ยังไม่ค่อยลงตัวเท่าไร ครับ )