Announcement

Collapse
No announcement yet.

ขอความรู้เกี่ยวกับ OP-AMP หน่อยครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ขอความรู้เกี่ยวกับ OP-AMP หน่อยครับ

    เรื่องคุณภาพเสียง และตัวที่ใส่แทน และการ์ดอะไรยี่ห้อไหนด้วยนะครับ

    พอดีอยากลอง mod Xonar DS แต่ไม่แน่ใจว่าจะเอาตัวไหนใส่ดี เพราะไม่มีความรู้ทางด้าน OP-AMP

    วานผู้รู้ช่วยชี้แจงหน่อยครับ

  • #2
    ใช้อยู่เหมือนกันครับ...อยากเปลี่ยนแต่ไม่ได้เปลี่ยนสักที

    เค้าแนะนำให้ใช้OPA2107,2132,2111 แต่ก็ไม่รู้ตัวไหนเสียงดีกว่ากัน

    Comment


    • #3
      ดันๆๆอยากรู้ๆๆๆ

      Comment


      • #4
        เท่าที่ลองฟังนะครับ ใช้ foobar/ASIO ออก 16 bit 44.1kHz

        กับหู JVC HP-RX900 ตัวนี้ dark

        ลอง OPAMP 3 ตัว (ของเดิม 5532, OPA2111KP thai, OPA2107AP taiwan)

        5532 เบสลด lowmid+highmid จัด เสียงสูงแหลมบาดนิด

        2111 เบสมากขึ้น เสียงกลาง/สูง ออกธรรมดาๆไม่แหลมมาก

        2107 เบสก็แบบเดิม(สไตล์ Burr-Brown) เสียงกลางนิ่ม/จางกว่าสองตัวบน เสียงสูงให้รายละเอียดดีเหมือน 5532 แต่ไม่แหลมบาดหู

        ถ้าฟังร็อคเมทัลดูมเดธเทคโนอิเลกโทรนิก น่าจะเหมาะกับ2111/2132

        5532 ก็คงเป็นแนว jazz-instru-orchestra

        ฟังเสียงนักร้องหญิง ก็คง 2107

        Hip-hop/Dance ?

        ทั้งสามตัวลองเปลี่ยนแล้วรายละเอียดเครื่องดนตรีกับสเตจ ฟังแล้วแยกความแตกต่างไม่ออก

        แต่ถึงจะลองเปลี่ยนแล้ว เสียงที่เปลี่ยนก็เปลี่ยนไม่มากครับ ผมว่าใจเย็นๆอย่าเพิ่งรีบเปลี่ยนดีกว่า

        รอท่านอื่นทดสอบเพิ่มครับ ส่วนตัวผมก็ทิ้ง 5532 ไว้ตามเดิมละเอาไว้ฟังเสียงเกากีต้าร์บาดหูเล่น

        ตอนฟังเพลงอื่นค่อยต่อแอมป์/ปรับเอา

        Comment


        • #5
          OPA-Earth Dual discrete opamp

          รายละเอียด: OPA-Earth Dual โดย audio-gd เป็น discrete opamp ที่มีการออกแบบด้วยวงจร cascode

          ความเพี้ยนต่ำ 0.0005%(1KHz) สามารถใช้งานกับไฟ ±9 TO ±25V มีอัตราบริโภคกะแส 56mA

          นักเล่นเครื่องเสียงทั่วโลกนิยมนำมาอัพเกรดจาก Op-Amp เดิมๆที่ใช้กันอยู่ แล้วให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมาก

          audio-gd เป็นผู้ผลิต discrete opamp ให้กับ Bursonaudio ซึ่งเดิมมีราคาขายถึง 6พันกว่าบาท
          http://www.bursonaudio.com/Burson_HDAM_Module.htm

          ซึ่งปัจจุบันทาง Burson ได้หมดสัญญากับ audio-gd แล้ว

          discrete opamp ของ audio-gd ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพเพิ่มจาก ver. ของ Burson อีกด้วย



          OPA-Moon Dual discrete opamp

          รายละเอียด: OPA-Moon Dual โดย audio-gd เป็น discrete opamp ที่มีการออกแบบด้วยวงจร dual differential gain stage พร้อมกับ single end state

          ความเพี้ยนต่ำ 0.0008%(1KHz) สามารถใช้งานกับไฟ ±9 TO ±25V มีอัตราบริโภคกะแส 58mA

          นักเล่นเครื่องเสียงทั่วโลกนิยมนำมาอัพเกรดจาก Op-Amp เดิมๆที่ใช้กันอยู่ แล้วให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมาก

          audio-gd เป็นผู้ผลิต discrete opamp ให้กับ Bursonaudio ซึ่งเดิมมีราคาขายถึง 6พันกว่าบาท

          ซึ่งปัจจุบันทาง Burson ได้หมดสัญญากับ audio-gd แล้ว

          discrete opamp ของ audio-gd ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพเพิ่มจาก ver. ของ Burson อีกด้วย



          OPA-Sun Dual discrete opamp

          รายละเอียด: OPA-Sun Dual โดย audio-gd เป็น discrete opamp ที่มีการออกแบบด้วยวงจร full balanced

          ความเพี้ยนต่ำ 0.0003%(1KHz) สามารถใช้งานกับไฟ ±12 TO ±20V มีอัตราบริโภคกะแส 50mA

          นักเล่นเครื่องเสียงทั่วโลกนิยมนำมาอัพเกรดจาก Op-Amp เดิมๆที่ใช้กันอยู่ แล้วให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมาก

          audio-gd เป็นผู้ผลิต discrete opamp ให้กับ Bursonaudio ซึ่งเดิมมีราคาขายถึง 6พันกว่าบาท

          ซึ่งปัจจุบันทาง Burson ได้หมดสัญญากับ audio-gd แล้ว

          discrete opamp ของ audio-gd ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพเพิ่มจาก ver. ของ Burson อีกด้วย



          ส่วนเสียงกับรายละเอียดอื่นๆรอท่านเรือรบและคนอื่นมาฟันธงแระกัน
          Last edited by klodpeng; 18 Sep 2009, 22:02:28.

          Comment


          • #6
            เหมือนการโมขั้นเทพเลย อิอิ

            Comment


            • #7
              Originally posted by klodpeng View Post
              OPA-Earth Dual discrete opamp

              รายละเอียด: OPA-Earth Dual โดย audio-gd เป็น discrete opamp ที่มีการออกแบบด้วยวงจร cascode

              ความเพี้ยนต่ำ 0.0005%(1KHz) สามารถใช้งานกับไฟ ±9 TO ±25V มีอัตราบริโภคกะแส 56mA

              นักเล่นเครื่องเสียงทั่วโลกนิยมนำมาอัพเกรดจาก Op-Amp เดิมๆที่ใช้กันอยู่ แล้วให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมาก

              audio-gd เป็นผู้ผลิต discrete opamp ให้กับ Bursonaudio ซึ่งเดิมมีราคาขายถึง 6พันกว่าบาท
              http://www.bursonaudio.com/Burson_HDAM_Module.htm

              ซึ่งปัจจุบันทาง Burson ได้หมดสัญญากับ audio-gd แล้ว

              discrete opamp ของ audio-gd ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพเพิ่มจาก ver. ของ Burson อีกด้วย



              OPA-Moon Dual discrete opamp

              รายละเอียด: OPA-Moon Dual โดย audio-gd เป็น discrete opamp ที่มีการออกแบบด้วยวงจร dual differential gain stage พร้อมกับ single end state

              ความเพี้ยนต่ำ 0.0008%(1KHz) สามารถใช้งานกับไฟ ±9 TO ±25V มีอัตราบริโภคกะแส 58mA

              นักเล่นเครื่องเสียงทั่วโลกนิยมนำมาอัพเกรดจาก Op-Amp เดิมๆที่ใช้กันอยู่ แล้วให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมาก

              audio-gd เป็นผู้ผลิต discrete opamp ให้กับ Bursonaudio ซึ่งเดิมมีราคาขายถึง 6พันกว่าบาท

              ซึ่งปัจจุบันทาง Burson ได้หมดสัญญากับ audio-gd แล้ว

              discrete opamp ของ audio-gd ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพเพิ่มจาก ver. ของ Burson อีกด้วย



              OPA-Sun Dual discrete opamp

              รายละเอียด: OPA-Sun Dual โดย audio-gd เป็น discrete opamp ที่มีการออกแบบด้วยวงจร full balanced

              ความเพี้ยนต่ำ 0.0003%(1KHz) สามารถใช้งานกับไฟ ±12 TO ±20V มีอัตราบริโภคกะแส 50mA

              นักเล่นเครื่องเสียงทั่วโลกนิยมนำมาอัพเกรดจาก Op-Amp เดิมๆที่ใช้กันอยู่ แล้วให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจมาก

              audio-gd เป็นผู้ผลิต discrete opamp ให้กับ Bursonaudio ซึ่งเดิมมีราคาขายถึง 6พันกว่าบาท

              ซึ่งปัจจุบันทาง Burson ได้หมดสัญญากับ audio-gd แล้ว

              discrete opamp ของ audio-gd ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพเพิ่มจาก ver. ของ Burson อีกด้วย



              ส่วนเสียงกับรายละเอียดอื่นๆรอท่านเรือรบและคนอื่นมาฟันธงแระกัน
              แล้วแบบนี้ DSจะใช้ได้ไหมอะ....เห็นว่าใช้ไฟที่12v

              Comment


              • #8
                ผมก็คิดว่าไฟไม่น่าจะพออะนะ

                Modify Xonar HDAV

                การ โมดิฟาย คือการเปลี่ยน IC Op Amp ที่ใช้ในภาค DAC Output ของ Asus Xonar HDAV1.3 ทั้ง 2 รุ่น คือรุ่นธรรมดาที่มีอนาล็อคเอาท์พุทเพียง 2 แชนแนลหน้า กับรุ่นที่เป็น Deluxe ที่จะมี
                อนาล็อคเอาท์พุทบอร์ดเพิ่มมาให้อีก 1 แผ่นสำหรับ 6 แชนแนลที่เหลือ บอร์ดนี้เชื่อมต่อกับบอร์ดหลัก
                ด้วยสายแพ 1 เส้นและไม่ต้องการสัญญานจาก PC ทำให้เสียบลงใน Slot ว่างใดๆก็ได้ การโมดิฟายนี้ยังใช้กับ Asus Xonar Essence STX ได้ด้วย (อาจใช้ได้กับ Xonar D2 ได้ด้วย - เสียงดีมากเหมือนกัน) Sound Card เหล่านี้ใช้ DAC chip ตระกูลเดียวกันคือของ Burr-Brown เบอร์ PCM 1796,1792,1792A (คุณภาพพอกัน ขาเหมือนกัน ต่างกันตรงเอาท์พุท - แต่ A อาจดีกว่านิดหน่อย) และใช้ภาค DAC Output เหมือนกันเปี้ยบเลย โดยใช้ IC Op Amp จำนวน 3 ตัว ต่อ 2 แชนแนล เหมือนกับในรูปแรกด้านล่างที่เป็นตัวเขียวๆ 1 ตัวกับที่วงไว้ 2 ตัว (ดังนั้นหากใครใช้ Xonar HDAV1.3 Deluxe และอยากเล่น Analog ทั้ง 8 แชนแนลก็อาจต้องถอดเปลี่ยน Op Amp ถึง 12 ตัว)

                การที่เราสามารถโมภาค DAC Output นี้ก็เพราะ IC Op Amp ทั้ง 3 ตัว อยู่ใน Socket ครับ Asus Sound Card เหล่านี้จะมีตัว Op Amp ที่มีคุณภาพสูงมาให้ 1 ตัว คือเบอร์ LM4562 (ควรเก็บไว้ใช้ต่อ ราคาขายปลีกในไทย 850 บาท) ทำหน้าที่เอาท์พุทบัฟเฟอร์ และห่วยๆ 2 ตัวคือ JCR2114
                (ต้องเปลี่ยน) ทำหน้าที่เปลี่ยนกระแสเป็นแรงดัน - I/V ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำก็คือเล่นกับทั้งเอาท์พุทบัฟเฟอร์ และ I/V เช่นอาจใช้ LM4562 เหมือนเดิมไม่ต้องเปลี่ยน แล้วใส่ตัวใหม่แทน JCR2114 แต่ผมชอบเปลี่ยนให้ LM4562 ทำหน้าที่เป็น I/V แทน JCR2114 แล้วทดลองเปลี่ยนตัวใหม่ๆ เข้ามาเป็นภาค Buffer (เดิมคือ LM4562) ไปเรื่อยๆ บุคลิคเสียงก็จะเปลี่ยนตาม แต่จะให้เสียงดีที่ดีขึ้นมากเมื่อ burn ไปแล้วราวๆ 30 ชม. แต่ดีที่สุดด้องมีไม่น้อยกว่า 100 ชม.ครับ เป็นเหมือนกันทุกเบอร์ นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้บอกไม่ได้ว่าเบอร์ไหนเสียงดีกว่า ผมก็ยังไม่ได้มีอาชีพทดสอบซะด้วย แต่ถ้ามีกลุ่มที่อาสาจะรับไป burn กันหลายๆท่าน แล้วค่อยเอามารวมกันฟังที่เดียว ก็น่าสนเพราะอยากรู้เหมือนกัน แต่เผอิญต้องใช้เวลากับดูหนัง - ฟังเพลงมากกว่าเวลาทดลอง อิอิ

                IC Op Amp LM4562 และ JCR2114 ที่ใส่มากับการ์ดเป็น Op Amp ทีมีขา 8 ขา และตำแหน่งการทำงานที่ขาทั้ง 8 เหมือนกันทั้ง 2 เบอร์ ทำให้สามารถใช้สลับกันได้ ดังนั้นการที่จะเปลี่ยน Op Amp ใหม่ลงไปเราจึงต้องใช้เบอร์ที่มีการใช้งานที่ขาทั้ง 8 เหมือน 2 เบอร์นี้เช่น AD823, NE5532, JCR2114, LM4562, LM6172, OPA2134, OPA2107 ต้องระวังนะครับ ไม่ใช่เห็น Op Amp อะไรที่มี 8 ขาแล้วจะเอามาแทนได้หมด (ขอแทรกเรื่องที่เป็นTechnic หน่อยครับ Package Op Amp 8 ขานั้นเป็นมาตรฐานของการผลิต แต่ภายในเบอร์หนึ่งๆ อาจมี Op Amp อยู่ได้ 1 หรือ 2 หรือ 3 วงจร !!!
                เบอร์ 4562/2114 ที่มีมาให้เป็น Op Amp ที่มี 2 วงจรอยู่ภายใน เรียกว่า Dual Op Amp ดังนั้นเราจะไปเอาเบอร์ที่เป็น Single Op Amp มาใส่แทนไม่ได้ หรือแม้แต่ Dual Op Amp ที่มีขาเหมือนกันบางเบอร์ที่ดีกว่าก็อาจใส่ลงไปไม่ได้เพราะมันอาจต้องการไฟ เลี้ยงมากกว่าหรือน้อยกว่าเบอร์ที่เราใช้ก็เป็นไปได้)

                ขอแทรกเรื่อง ที่ถามมาเยอะมากอีกเรื่องก่อนที่จะเขียนต่อเรื่องวิธีการเปลี่ยน คำถามนั้นคือเบอร์ไหนเสียงดีกว่า ???? โธ่เห็นผมตั้งร้านขาย Op Amp หรือครับจะได้เอาเบอร์นู้นเบอร์นี้มาทดลองได้ง่ายๆ
                Op Amp ทุกตัวที่ผมใช้ผมสั่งมาจากต่างประเทศทั้งนั้น (เพราะได้ยินแว่วๆ มาว่าของเก้ของปลอมเกลื่อนเมืองไทย ไอ้ที่พอจะแน่ใจว่าดีแน่ ก็ราคาเป็นเหยียบพันหรือพันกว่าต่อตัว เปลี่ยนหมด 12 ตัวก็ หุหุ ) กลับมาเรื่องเบอร์ไหนเสียงดีกว่า ที่ผมแน่ใจคือทุกเบอร์ควรมีเสียงดีกว่าเบอร์ JCR2114 แน่ๆ (ก็ขายที่บ้านหม้อตัวละไม่เกิน 20 บาทมั้ง) แต่จะเสียงดีกว่าเบอร์อื่นๆด้วยมั้ยมันขึ้นอยู่กับระบบและห้องของคุณด้วย แล้ว ในเหล่าพวกพัองผมเองยังใช้กันคนละเบอร์ที่ไม่เหมือนกันเลย (ก็หูใครหูมันนี่ครับ - ถ้าชอบเหมือนกันเราคงใช้ระบบดูหนังฟังเพลงเหมือนกันหมดไปแล้ว) มีทั้งใส่ LM4562 หมด,ใส่ LM6172 หมด หรือ OPA2107 + LM6172, OPA2107 + LM4562 แล้วแต่รักแล้วแต่ชอบครับ ขนาดทดลองโดยเปลี่ยนแล้วฟังจากห้องเดียวกันหลายคน ฟังแล้วยังชอบไม่เหมือนกันเลยครับ

                วิธีการอัพเกรด



                1. รูปด้านบนเป็นรูปของ Asus Xonar Essence STX แต่ก็จะคล้ายกับ Asus Xonar HDAV1.3 ตัวหลัก รูปที่เห็นเป็นรูปที่ถอดฝาครอบโลหะสีดำออกแล้ว และทำการเปลี่ยน Op Amp ทั้ง 3 ตัวไปแล้ว

                2. Op Amp ตัวเขียวเล็กด้านซ้ายถูกใส่ลงไปในที่เดิมของ LM4562 ส่วนด้านขวา 2 ตัวดำๆ (ที่วงแดงไว้) เป็น LM4562 ทั้ง 2 ตัวใส่ลงไปในที่เดิมของ JCR2114 ที่มี 2 ตัว

                3. การถอด Op Amp ออกจาก socket ให้ใช้ไขควงปลายแบนที่เล็กมากๆ ค่อยแซะด้านซ้ายที ขวาที จนรู้สึกว่าขามันขยับได้ก็ให้ค่อยๆ งัดออกมาทั้งตัว หรือจะใช้คีมปากจื้งจกเล็กๆ ดึงออกมาในลักษณะโยกเบาตอนดึง มีข้อระวังข้อเดียวในขั้นตอนนี้คืออย่าใช้คีมดึงแรงๆ เพราะขามันเสียบแน่นมาก เดี๋ยวขา socket มันหลุดมาด้วย จะยุ่งเพราะหลุดประกันแน่นอน

                4 ใส่ Op Amp ลงไปที่ละตัว ถ้าเป็นตัวใหม่ขาของมันจะถ่างออกเล็กน้อย ให้วาง Op Amp ลงบนพื้นเรียบๆ โดยเอาด้านขาลงแนบพื้นที่ละด้านแล้วกดดัดเบาๆ ให้ขาเรียงกันตรงๆไม่ถ่างออกไป จะทำให้ใส่ลงไปใน socket ง่ายขึ้น เมื่อเห็นว่าขาลงไปหมดทุกขาเรียบร้อน ก็ให้ใช้มือกดด้านบนจนได้ยินเสียงแกรกเบาๆ ก็เสร็จใส่ตัวอื่นได้เลย แต่ถ้าคุณดัดขาได้แน่มากพอดีเป๊ะ หรือใส่ตัวที่ถอดออกมา เวลากดจนสนิทก็อาจไม่ได้ยินเสียงอะไร สิ่งที่ต้องระวังอีกอย่างคือมันจะมี markตำแหน่งขาที่ 1 บนตัว Op Amp ด้วย คุณต้องใส่ขา 1 นี้ให้ตรงกับบน socket ด้วยไม่งั้นมีโอกาสไหม้ และระวังอย่าให้ขางอไม่ลงไปใน socket ด้วยครับ



                ถ้าดูจากในรูป ขา 1 คือขาที่มีจุดกลมเล็กๆอยู่ด้านล่างซ้ายของ Op Amp แต่ละตัว จำให้แม่นเลยนะครับ ผิดเป็นพัง msn-cry.gif ทำอย่างนี้กับทุก 2 แชนแนลที่ต้องการเปลี่ยน ง่ายๆครับสำหรับคนที่ทำบ่อยแบบผม 5 นาทีก็เสร็จ แต่อาจยากมากสำหรับคนที่เพิ่งเคยเห็นเคยทำครั้งแรก

                หมายเหตุ
                1. Op Amp ตัวเดี่ยวที่อยู่ซ้ายมือทำหน้าที่เป็น Buffer มีหน้าที่ปรับและทำให้สัญญาณไฟฟ้้าในอุปกรณ์ของเราเข้ากันได้ดีมากขึ้นกับ อุปกรณ์ภายนอก ดังนั้นจึงมีภาคที่ทำอย่างนี้ในอุปกรณ์ electronic เกือบทุกอบ่าง และนิยมเปลี่ยนกันในหมู่ชาว DIY ทั่วโลกเพื่อให้ DAC หรือ headphone amp หรือ เครื่องเล่นซีดีมีเสียงดีขึ้น นั่นเป็นสาเหตุที่ Asus ใส่เบอร์ที่ค่อนข้างดีมากๆ อย่าง LM4562 ลงไป (แต่ดันไม่ใช้ทั้งหมด เพราะจะทำให้ราคาขายแพงขึ้น) แต่ก็ยังดีที่ ASUS เปิดโอกาสให้ผู้มีความรู้ปรับปรุงคุณภาพได้โดยใส่ไว้ใน socket ทุกตัว

                2. เบอร์ที่แนะนำให้ทำเป็น Buffer ที่ผมชอบแล้วก็มี opa2107, ad823, lm4562, lm6127 (ส่วน ตัวเขียวๆที่เห็นในรูปแรกเป็น opa627 ซึ่งเป็น Single op amp ที่มีคุณภาพสูง จนมีผู้สงสัยว่าถ้านำมาทำเป็น dual op amp โดยใช้ opa627 แบบ surface mount 2 ตัวมาบัดกรีลงบนแผ่นวงจรเล็กๆ ทำให้กลายเป็น dual op amp แล้วจะเสียงดีกว่าพวกเบอร์แท้ๆหรือไม่) ผมเองได้ลองเล่นทุกตัว แล้ว opa627 ด้านเสียงก็ยอมรับว่าให้บุคคลิคเสียงที่ค่อนข้างหนักแน่นและ detail ที่ดีมากโดยเฉพาะในระบบที่เซ็ทไว้ดีมากๆ เช่นใช้สายไฟ AC เส้นละเป็นหมื่่น 2-3 เส้น ใช้สายลำโพงราคาสามหมื่่นกว่าบาท และเนื่องจากเป็น customer made ทำให้เป็นตัวที่สังเกตุง่ายเวลาเขียนอ้างอิงถึง เลยเอามาใส่เพื่อถ่ายรูป

                3. เบอร์ที่ผมใช้ทำ I/V ทั้ง 2 ตัวถ้าไม่ใช้ 4562 ก็ใช้ 6172 ยังไม่เคยใส่เบอร์อื่นเลยครับ ส่วน ผมใช้ LM4562 เป็น I/V 2 ตัว แล้วใช้ LM6172 หรือ LM4562 เป็น buffer ส่วน OPA627 ผมใช้เฉพาะกับ Xonar Essence STX ในเครื่องหลักที่ใช้ฟังเพลง เพราะผมค่อยข้างแน่ใจว่าถ้าใช้ OPA627 กับ Xonar HDAV1.3 ทุกแชนแนลแล้ว ห้องผมคงควบคุมเสียง BASS ที่เกิดขึ้นไม่ได้แน่ เพราะลำโพงผมทุกแชนแนลเป็นแบบ full range หมด (ผมมี HDPC 2 เครื่อง เลยเล่นได้หลายรูปแบบ)


                รูปชัดหน่อยของ op amp ให้สังเกตุจุดกลมที่บอกตำแหน่งขา 1

                เครดิต คุณ blackangel เจ้าของบทความ
                Last edited by klodpeng; 19 Sep 2009, 00:27:13.

                Comment


                • #9
                  ตัว ASUS Xonar DS มันเป็นตัวนี้อะครับ



                  ไว้รอคนที่เก่ง OP-AMP มาตอบส่วนตัวผมชอบเสียงใสๆไม่เน้นเบสหนักหน่วงอะครับ เลยรอหาความรู้จากท่านที่ลองมาเยอะๆ

                  และอยากถามว่าถ้าใส่ earth / moon / sun ไฟมันจะพอรึเปล่า เพราะผมก็ไม่เก่งเื่รื่องวงจรเหมือนกัน
                  Last edited by klodpeng; 19 Sep 2009, 00:24:33.

                  Comment


                  • #10
                    เปรียบเทียบเสียง Op-amp แต่ละเบอร์เท่าที่ผมได้ทดลอง (By fatnomaore)

                    ่ตั้ง แต่ได้เริ่มทำ Headamp ตัวแรก ซึ่งเป็น headamp TR หลังจากนั้นผมก็ทำแต่ headamp ที่ใช้ op-amp โดยตลอด ถึงวันนี้ก็ 3 เดือนผ่านไป ได้ทดลอง op-amp หลายเบอร์ วันนี้จึงเอามาเล่าให้ฟัง

                    op-amp ที่ได้ทดลองแล้วมีดังนี้ (เกือบทั้งหมดจะเป็นของ Brow Brow ครับ)

                    - OPA134,OPA2132p เป็น op-amp ที่ใช้กับวงจร CMOY ซึ่งเป็น Headamp แบบ op-amp ล้วนตัวแรกที่นิยม DIY กัน
                    - OPA637 เป็น op-amp ราคาแพง ที่ฝรั่งชมกันมาก
                    - OPA2111 เป็น op-amp ที่จริงๆแล้วตามสเปกแนะนำให้ใช้เป็นเครื่องมือวัดเสียมากกว่าเป็นเครื่องเสียง
                    - OPA602 เป็น op-amp ที่คนขายแนะนำว่าเสียงดี
                    - NE5532 เป็น op-amp ที่ราคาถูกแต่เครื่องเสียงราคาแพงมักนำไปใช้ มีสองเกรด คือของไทยตามบ้ามหม้อและของ us แท้ๆ
                    - TL071 ,072 op-amp ตลาดเช่นเดียวกับ 5532 แต่เสียงสู้ 5532 ไม่ได้
                    - OPA2107 เพื่อนใน gadget แนะนำให้ลอง ตอนรีวิว 2111
                    - OPA2227,2228
                    **************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    OPA134 , 2134, 132, 2132
                    **************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    132,134 จะเป็น single op-amp คือ 1 ตัวมี op-amp ภายในแค่ 1 ตัว ส่วน 2132,2134 เป็น Dual op-amp คือ 1 ตัวมี op-amp ภายใน 2 ตัว
                    และ x134 จะเป็น Audio version ของ x132 หรือ x134 ทำมาเพื่อใช้กับเครื่องเสียงนั่นเอง ดังนั้นแบนวิธจะแคบกว่า x132

                    เสียงของ x132,x134 เป็น op-amp ที่เบสดี มีเบสมาก
                    ถ้าใช้ 2132pa เสียงจะทึบๆหน่อย
                    แต่ถ้า 134,2134,2132p เสียงจะใส รายละเอียดดีพอสมควรครับ
                    ส่วนเสียงกลางจะหลบนิดๆ (จะว่าหลบก็ไม่ได้นะ แค่ยังสู้เบอร์อื่นบางเบอร์ไม่ได้แค่นั้น)
                    ถ้าไม่ bias class A เสียงจะแคบๆหน่อย
                    ถ้าเอาไปใช้วงจร Cmoy จะดีที่สุดในกลุ่ม dual op-amp เพราะกระแสสูงครับ
                    ________________________________________________
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    OPA637,627
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    ทั้งสองเบอร์เป็น
                    op-amp ตัวนี้เขาว่าเป็นตัว TOP ของ brow brow ฝรั่งชมกันมาก
                    เท่าที่ทดลองด้วยวงจรของ CMOY และ Diamond แล้วเป็น op-amp ที่ให้รายละเอียดดีมาก soundstage กว้างโดยไม่ต้อง bias class A

                    เป็น op-amp ที่เสียงธรรมชาติมากๆ เหมาะกับฟังพวกคอนเสริท์มากๆครับ

                    แต่ มีข้อเสียงที่เสียงกลางเด่นเกินไป ไม่ใช่อิ่มหนาแต่เป็นแผดพุ่ง ซึ่งไม่ดีกับหูฟังที่กลางไวๆ แต่ถ้าทำเป็น Class A แล้วเสียงจะดีที่สุดเลยล่ะครับ เพราะเสียงที่ให้เป็นธรรมชาติที่สุด คือเสียงดนตรีต่างๆถูกต้องที่สุด เพี้ยนน้อยมาก

                    อีกเรื่อง เบสของ op-amp ตัวนี้เป็น deep เบสที่สุดครับ
                    สรุปว่า มันดีตามราคาของมันครับ คือดีทุกย่านความถี่ รายะละเอียดดี
                    แต่ถ้าเอามาทำ cmoy กลางจะจัดบาดหูไปหน่อย แต่ถ้าทำเป็น class A แล้วสุดยอดแล้ว op-amp ตัวนี้
                    ________________________________________________
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    OPA2111
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    เป็น dual op-amp
                    เสียงของ 2111 เน้นที่ความถูกต้องของเสียงคือแฟลตมาก
                    บุคลิคเสียงแทบไม่เปลี่ยนเลย รายละเอียดเสียงคมชัดมาก เสียงเล็กๆเบาๆ จะถูกขับดันขึ้นมา ชัดมากครับ

                    เป็น op-amp ที่ soundstage ด้านกว้างดีมากๆครับ แต่ด้านลึกไม่ค่อยดีเท่าไร ทำให้ฟังครั้งแรกจะรู้สึกว่าเสียงแคบ แต่จริงๆไม่ได้แคบ แต่ไม่ลึกตะหาก

                    ถ้าใช้ในวงจร cmoy กระแสน้อยไปครับ ต้องมี buffer ช่วยเท่านั้น

                    แบบ socket แปดขา มีเฉพาะ kp เท่านั้น
                    ส่วน BM จะเป็นตัวถังเหล็ก เสียงจะดีกว่า kp 30% เลยทีเดียว
                    (ผมก็หาลองไม่ได้)
                    _________________________________________________
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    OPA602
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    เป็น single op-amp ไม่มี dual
                    เป็น op-amp ที่รายละเอียดดีไม่แพ้ 637 เลย ฟังดีๆแล้ว รายละเอียดดีกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็มีจุดด้อย ที่มีเสียงก้องติดมาด้วย
                    คือทุกเสียงจะมี echo ติดมาด้วยนิดๆ
                    ถ้า ใช้ฟัง jazz หรือเพลงที่ต้องการความกังวานของเสียง ตัวทำได้เพราะมากเลยครับ เพราะกว่า 637 ด้วยซ้ำ แต่เจอร๊อกก็จบครับ มั่วไปเลย และไม่มีความมันเหลือ

                    มิติเสียง soundstage ทำได้ดีครับ

                    เคยอ่านๆดู มันเคยเป็นตัว top ของ brow brow อยู่ก่อนที่จะมี 627/637 ครับ
                    _________________________________________________
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    ์NE5532
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    เป็น dual op-amp ตลาด ที่เครื่องเสียง ดีๆ นิยมใช้กัน
                    หาซื้อไม่ยาก ตัวก็ไม่แพง แต่มันมีสองเกรดครับ
                    ผมบังเอิญ ได้ตัวเกรดดีมาลอง เสียงของตัวเกรดดี
                    เสียงจะหนากว่า คมกว่า แต่สไตล์เสียงจะเหมือนกันคือกว้างๆ ใสๆ
                    แต่ก็ยังไม่หนาเท่าของตระกูล OPA อยู่ดี

                    NE5532 เสียงจะออกแนว ใสๆ กว้างๆ เบสบางๆหน่อย sound stage ดีครับ รายะลเอียดก็ดี ทำได้ไม่แพ้ OPA เลย

                    _________________________________________________
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    ์TL071,072
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    TL071 เป็น single version
                    TL072 เป็น Dual version

                    ตัวนี้หาซื้อง่ายกว่า 5532 อีก ร้านซ่อม TV ทั้วไปมีทุกร้านครับ
                    เสียง จะทึบๆ แคบๆ รายละเอียด แย่สุดเลยในบรรดา op-amp ที่เอามา review แต่ถ้า op-amp ตัวเก่าในเครื่องของท่านเสียงเสียก็เอามาแก้ขัดได้ครับ 555

                    _________________________________________________
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    ์NE5532
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    เป็น dual op-amp ตลาด ที่เครื่องเสียง ดีๆ นิยมใช้กัน
                    หาซื้อไม่ยาก ตัวก็ไม่แพง แต่มันมีสองเกรดครับ
                    ผมบังเอิญ ได้ตัวเกรดดีมาลอง เสียงของตัวเกรดดี
                    เสียงจะหนากว่า คมกว่า แต่สไตล์เสียงจะเหมือนกันคือกว้างๆ ใสๆ
                    แต่ก็ยังไม่หนาเท่าของตระกูล OPA อยู่ดี

                    NE5532 เสียงจะออกแนว ใสๆ กว้างๆ เบสบางๆหน่อย sound stage ดีครับ รายะลเอียดก็ดี ทำได้ไม่แพ้ OPA เลย

                    _________________________________________________
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    ์OPA 2107
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    เป็น op-amp ที่ดีอย่าง มันมีเกรดเดียวคือ AP

                    เสียงกลาง แทบจะเหมือน 637 เลย และไม่เปิดแบบ 637 ด้วย
                    เสียงกลางหวานเนียน คล้ายหลอดมาก รายละเอียดเสียงแหลมดี เบสมีทั้ง deep และอิมแพค ครับ แต่จะอยู่ระหว่าง 637 กับ 2132p

                    แต่เพราะเสียงกลาง forward นิดๆ บางท่านอาจจะไม่ชอบก็ได้นะครับ
                    แต่ผมชอบนะครับ มันทำให้ image เสียงฟังแล้วดูนิ่งดี

                    _________________________________________________
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    ์OPA 2227,2228
                    *************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************************
                    เสียงคล้าย 5532 มากๆ แต่เสียงหนากว่านิดหน่อย
                    ถ้ากับ 5532 เกรดดี แทบไม่ต่างเลย

                    อ้างอิงจาก คุณ fatnomore

                    ป.ล. คุณ fatnomare เค้าทำ headamp แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าเอาใส่ soundcard เสียงจะด้เหมือนกันรึเปล่า

                    รอผู้รู้ต่อไป งิงิ
                    Last edited by klodpeng; 20 Sep 2009, 22:33:01.

                    Comment


                    • #11
                      2107/637/2132

                      ช่วยเรียงให้ทีคับ
                      1.ตัวไหนเสียงใสกว่า
                      2.ตัวไหนเบสดี

                      เรียงตามลำดับเลยคับ

                      Comment


                      • #12
                        มีประโยชน์มากมายครับ

                        ถามหน่อยครับ OP-AMP แท้ไม่แท้นี่ดูจากภายนอกได้มั้ยครับ หรือต้องฟังอย่างเดียว

                        พอดีผมพึ่งเปลี่ยน OPA2107 ใน Xonar Essense STX ไปครับ

                        แล้วรู้สึกว่ามันดีขึ้น หรือว่าเสียเงินแล้วอุปทานให้มันดีขึ้นกันแน่ ว่างๆ จะลองเปลี่ยนตัวเดิมกลับดูครับ

                        Comment


                        • #13
                          OPA2107 ตัวนี้ผมใช้อยู่ เสียงนุ่มนวลดีครับ
                          ฟังเพลงผู้หญิงร้องไพเราะจับใจเลย

                          Comment


                          • #14
                            Originally posted by Bomme View Post
                            OPA2107 ตัวนี้ผมใช้อยู่ เสียงนุ่มนวลดีครับ
                            ฟังเพลงผู้หญิงร้องไพเราะจับใจเลย
                            เคยใช้3ตัวนี้OPA2107,2132,2111 3สไตล์เลย พึ่งใช้มาหยกๆ
                            2107ความเห็นเหมือนท่านบนเลย ออกนุ่มหน่อย เบสชัดเจนดี เหมาะมากถ้าระบบของท่านมีเสียงกลางแหลมที่จัดหน่อย ช่วยทำให้กลางแหลมสมูทขึ้นแยอะ เบสเลยดูเด่นขึ้นมาอีกหน่อย
                            2111จะออกเรียบๆ เน้นรายละเอียดเล็กๆน้อย แต่จะไม่นุ่มเหมือนตัวบน กลางจะไม่หนา เน้นปลายเสียง
                            2132จะออกหนาๆกว่า2111 แต่จะไม่เน้นรายละเอียดเล็กๆน้อยเท่า จะเน้นไปที่กลางและแหลม จะเหมาะถ้าระบบของท่านขาดตรงนี้ เบสก็ถือว่าโอเค

                            Comment


                            • #15
                              ผมว่าผมจะลอง

                              OPA627 กับ OPA2107 ที่เชียงใหม่พอจะมีขายไหมครับใครรู้แหล่งขาย op-amp บ้าง

                              Comment

                              Working...
                              X