ออมเดียเผย ความก้าวหน้าของจีนในเรื่องเครือข่าย 5G และระบบคลาวด์ จะเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการในจีนเติบโตก้าวหน้า
ผลการศึกษาครั้งใหม่จากออมเดีย ( Omdia ) เปิดเผยว่า จีนใกล้ที่จะมีสถานีฐาน 5G เพิ่มขึ้นอีก 600,000 จุด จนรวมกันได้ 2.9 ล้านจุดภายในปลายปี 2566 หลังจากที่ได้สร้างเครือข่าย 5G ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนสถานีฐาน 5G ถึง 2.3 ล้านจุด ณ ปลายปี 2565 ที่ผ่านมา
จีนได้สร้างความคืบหน้าครั้งสำคัญในการร่วมสร้างและแบ่งปันเครือข่าย 5G เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ที่เพิ่งผ่านมานี้เอง เมื่อผู้ให้บริการทั้ง 4 รายหลักในจีนได้ผนึกกำลังกันในด้านเครือข่าย 5G โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ของจีนได้เข้ามาจัดการและแนะแนวผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ทั้ง 4 รายในจีนอย่างไชน่า โมบาย (China Mobile) ไชน่า เทเลคอม (China Telecom) ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และไชน่า บรอดเน็ต (China Broadnet) ในการนำร่องทดลองบริการโรมมิงระหว่างเครือข่าย 5G ครั้งแรกของโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงเครือข่าย 5G ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมรายอื่น ๆ ได้ และใช้บริการ 5G ต่อไปได้เมื่ออยู่นอกระยะเครือข่าย 5G ของผู้ให้บริการเดิมของตน
ราโมนา จ้าว ( Ramona Zhao) ผู้จัดการฝ่ายวิจัยของออมเดีย กล่าวว่า "ออมเดียคาดว่าการโรมมิงระหว่างเครือข่ายจะช่วยปรับปรุงความครอบคลุมของเครือข่าย 5G จากผู้ให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท การยกระดับความครอบคลุมของเครือข่าย 5G จะทำให้เครือข่าย 5G ชิงความเป็นผู้นำจากเครือข่าย 4G มาได้ และกลายเป็นเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในตลาดมือถือของจีนภายในปี 2569 โดยภายในปลายปี 2571 นั้น เราคาดว่า 5G จะคิดเป็นสัดส่วน 65.1% ของการสมัครใช้งานเครือข่ายเคลื่อนที่ทั้งหมด (รวมถึงการเชื่อมต่อ IoT)"
ออมเดียยกให้จีนเป็นผู้บุกเบิก 5 G ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยี การใช้งานเครือข่าย และกรณีการใช้งาน 5G
เมื่อเครือข่าย 5G เป็นที่นิยมใช้มากขึ้น รายได้จากบริการเครือข่ายเคลื่อนที่ และรายได้เฉลี่ยของผู้ให้บริการเครือข่ายเคลื่อนที่ต่อลูกค้าหนึ่งคน (ARPU) (ที่ไม่ใช่ IoT) ของผู้ให้บริการจีน ล้วนเติบโตแบบปีต่อปี (YoY) ในปี 2565 โดยไชน่า เทเลคอม มีรายได้จากบริการเครือข่ายเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 3.7% ขณะที่ไชน่า ยูนิคอม มีรายได้จากบริการเครือข่ายเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนไชน่า โมบาย มีรายได้จากบริการเครือข่ายเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 2.5% เทียบรายปีเช่นเดียวกัน
เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นในกลุ่มรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ บริการคลาวด์จึงถือเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตสำหรับผู้ให้บริการในจีนเช่นกัน
คุณจ้าว กล่าวสรุปว่า "ออมเดียแนะนำให้ผู้ให้บริการในจีนคิดค้นการใช้งานรูปแบบใหม่ ๆ ผ่านการรวมระบบคลาวด์และเครือข่าย 5G ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่าง ๆ สู่ความเป็นดิจิทัล และการได้แหล่งรายได้ใหม่ ๆ"
เกี่ยวกับออมเดีย
ออมเดีย ( Omdia) เป็นกลุ่มวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีในเครือบริษัทอินฟอร์มา เทค (Informa Tech) โดยความรู้เชิงลึกของเราในด้านตลาดเทคโนโลยีประกอบกับข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้จริงช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถตัดสินใจเรื่องการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด
ติดต่อ - ฟาซิฮะห์ ข่าน (Fasiha Khan) fasiha.khan@omdia.com
ผลการศึกษาครั้งใหม่จากออมเดีย ( Omdia ) เปิดเผยว่า จีนใกล้ที่จะมีสถานีฐาน 5G เพิ่มขึ้นอีก 600,000 จุด จนรวมกันได้ 2.9 ล้านจุดภายในปลายปี 2566 หลังจากที่ได้สร้างเครือข่าย 5G ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยจำนวนสถานีฐาน 5G ถึง 2.3 ล้านจุด ณ ปลายปี 2565 ที่ผ่านมา
จีนได้สร้างความคืบหน้าครั้งสำคัญในการร่วมสร้างและแบ่งปันเครือข่าย 5G เมื่อเดือนพฤษภาคม 2566 ที่เพิ่งผ่านมานี้เอง เมื่อผู้ให้บริการทั้ง 4 รายหลักในจีนได้ผนึกกำลังกันในด้านเครือข่าย 5G โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (MIIT) ของจีนได้เข้ามาจัดการและแนะแนวผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ทั้ง 4 รายในจีนอย่างไชน่า โมบาย (China Mobile) ไชน่า เทเลคอม (China Telecom) ไชน่า ยูนิคอม (China Unicom) และไชน่า บรอดเน็ต (China Broadnet) ในการนำร่องทดลองบริการโรมมิงระหว่างเครือข่าย 5G ครั้งแรกของโลก ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงเครือข่าย 5G ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมรายอื่น ๆ ได้ และใช้บริการ 5G ต่อไปได้เมื่ออยู่นอกระยะเครือข่าย 5G ของผู้ให้บริการเดิมของตน
ราโมนา จ้าว ( Ramona Zhao) ผู้จัดการฝ่ายวิจัยของออมเดีย กล่าวว่า "ออมเดียคาดว่าการโรมมิงระหว่างเครือข่ายจะช่วยปรับปรุงความครอบคลุมของเครือข่าย 5G จากผู้ให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบท การยกระดับความครอบคลุมของเครือข่าย 5G จะทำให้เครือข่าย 5G ชิงความเป็นผู้นำจากเครือข่าย 4G มาได้ และกลายเป็นเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในตลาดมือถือของจีนภายในปี 2569 โดยภายในปลายปี 2571 นั้น เราคาดว่า 5G จะคิดเป็นสัดส่วน 65.1% ของการสมัครใช้งานเครือข่ายเคลื่อนที่ทั้งหมด (รวมถึงการเชื่อมต่อ IoT)"
ออมเดียยกให้จีนเป็นผู้บุกเบิก 5 G ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมเทคโนโลยี การใช้งานเครือข่าย และกรณีการใช้งาน 5G
เมื่อเครือข่าย 5G เป็นที่นิยมใช้มากขึ้น รายได้จากบริการเครือข่ายเคลื่อนที่ และรายได้เฉลี่ยของผู้ให้บริการเครือข่ายเคลื่อนที่ต่อลูกค้าหนึ่งคน (ARPU) (ที่ไม่ใช่ IoT) ของผู้ให้บริการจีน ล้วนเติบโตแบบปีต่อปี (YoY) ในปี 2565 โดยไชน่า เทเลคอม มีรายได้จากบริการเครือข่ายเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 3.7% ขณะที่ไชน่า ยูนิคอม มีรายได้จากบริการเครือข่ายเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่วนไชน่า โมบาย มีรายได้จากบริการเครือข่ายเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 2.5% เทียบรายปีเช่นเดียวกัน
เทคโนโลยีดิจิทัลกำลังเป็นที่ต้องการเพิ่มขึ้นในกลุ่มรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ บริการคลาวด์จึงถือเป็นธุรกิจที่กำลังเติบโตสำหรับผู้ให้บริการในจีนเช่นกัน
คุณจ้าว กล่าวสรุปว่า "ออมเดียแนะนำให้ผู้ให้บริการในจีนคิดค้นการใช้งานรูปแบบใหม่ ๆ ผ่านการรวมระบบคลาวด์และเครือข่าย 5G ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมต่าง ๆ สู่ความเป็นดิจิทัล และการได้แหล่งรายได้ใหม่ ๆ"
เกี่ยวกับออมเดีย
ออมเดีย ( Omdia) เป็นกลุ่มวิจัยและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีในเครือบริษัทอินฟอร์มา เทค (Informa Tech) โดยความรู้เชิงลึกของเราในด้านตลาดเทคโนโลยีประกอบกับข้อมูลเชิงลึกที่นำไปปฏิบัติได้จริงช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถตัดสินใจเรื่องการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด
ติดต่อ - ฟาซิฮะห์ ข่าน (Fasiha Khan) fasiha.khan@omdia.com