หา IP ของ Access point ไม่เจอ

[bankloso]

ต้องการหา IP ของ Access point แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่วงไหน class ไหน
ลอง fix ip ที่เครื่องแล้วเช่น 192.168.1.xxx แล้วสแกนหาไปบ้างแล้ว ก็ยังไม่เจอ แต่ยังไม่ได้ทำครบทุกวง
กว่าจะครบ 254 วง ใช้งานเวลานานแน่ ๆ
ใครมีทางลัดบ้างอะครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

[huzneebb]

รีเซ็ต แล้วตั้งใหม่ น่าจะง่ายกว่าน๊ะครับ ถ้าจำไม่ได้จริงๆ

[Dokmai]

เอย...งง (มีคนอื่นวางระบบไว้ก่อนหรือครับ)

คำว่า Class นี่พูดในนิยามไหนครับ... นิยามมาตรฐาน หรือ นิยามSEO.? (ถามกันเหนียวไวก่อน)


โดยหลักการแล้ว AP มันจะต้องอยู่ในวงเดียวกับ เราเตอร์ครับ
เช่น
ถ้าเราเตอร์คือ 192.168.1.1 (ในกรณี Class C ตามมาตรฐานนะครับ)
AP ก็ต้อง 192.168.1.xxx


คราวนี้ระบบของคุณ ใช้ไอพี Class C ธรรมดาๆ ง่ายๆ ไช่ไหมครับ (นิยามClassตามมาตรฐานนะครับ ไม่ไช่นิยามมั่ว aaa.bbb.ccc.ddd ของพวกSEOนะ)

แต่คุณเป็น "ใคร" ล่ะ ผู้ดูแลระบบ หรือ ลูกข่ายที่อยากรู้IPของAP ..??

- ถ้าเป็นผู้ดูแลระบบ ให้ล็อกอินเข้าเราเตอร์ แล้วไปดูที่หน้า ARP-Table หรือ DHCP คุณก็อาจจะรู้เลยได้ทันทีครับ

- ถ้าเป็นลูกข่าย ให้ใช้โปรแกรม Scan WIFI เช่น "WirelessNetView" เพื่อเปิดดูlistของAP แล้วก็เปิดดูซิว่า AP ตัวนั้น(ของวงแลนเรา) มันมีเลข MAC อะไร... จากนั้นก็มา Scan IP เทียบเลข MAC เอา คุณก็จะได้ IP ของ AP ตัวนั้นๆแล้ว

(ถ้าเป็นผู้ดูแลระบบ ก็เอา MACของAPที่ได้ ไปเทียบในตารางARPก็จะเจอครับ..)

บางกรณี ใช้คำสั่งง่ายๆ อย่าง "c:\>arp -a" ก็พอจะเทียบเลข MAC แล้วเดาทางได้เหมือนกัน


พอเข้าใจไหม.. ^_^"

[JO]

ต้องการหา IP ของ Access point แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่วงไหน class ไหน
ลอง fix ip ที่เครื่องแล้วเช่น 192.168.1.xxx แล้วสแกนหาไปบ้างแล้ว ก็ยังไม่เจอ แต่ยังไม่ได้ทำครบทุกวง
กว่าจะครบ 254 วง ใช้งานเวลานานแน่ ๆ
ใครมีทางลัดบ้างอะครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ใช้ Comm view จะเห็นอุปกรณ์ wireless ทั้งหมดบนเครือข่ายที่เราเชื่อมอยู่ทั้ง Security , Type (AP/Host) , IP , MAC , Packet Flow

แต่กรณีมีการใส่ Encryption Key คุณต้องกรอก Key ที่ถูกเข้าไปในโปรแกรมด้วยนะครับไม่เช่นนั้นจะมองไม่เห็น IP , MAC , PacketFlow (โปรแกรมนี้สามารถ Monitor ได้โดยไม่จำเป็นต้องเกาะกับเครือข่าย)

เอย...งง (มีคนอื่นวางระบบไว้ก่อนหรือครับ)

คำว่า Class นี่พูดในนิยามไหนครับ... นิยามมาตรฐาน หรือ นิยามSEO.? (ถามกันเหนียวไวก่อน)


โดยหลักการแล้ว AP มันจะต้องอยู่ในวงเดียวกับ เราเตอร์ครับ
เช่น
ถ้าเราเตอร์คือ 192.168.1.1 (ในกรณี Class C ตามมาตรฐานนะครับ)
AP ก็ต้อง 192.168.1.xxx


คราวนี้ระบบของคุณ ใช้ไอพี Class C ธรรมดาๆ ง่ายๆ ไช่ไหมครับ (นิยามClassตามมาตรฐานนะครับ ไม่ไช่นิยามมั่ว aaa.bbb.ccc.ddd ของพวกSEOนะ)

แต่คุณเป็น "ใคร" ล่ะ ผู้ดูแลระบบ หรือ ลูกข่ายที่อยากรู้IPของAP ..??

- ถ้าเป็นผู้ดูแลระบบ ให้ล็อกอินเข้าเราเตอร์ แล้วไปดูที่หน้า ARP-Table หรือ DHCP คุณก็อาจจะรู้เลยได้ทันทีครับ

- ถ้าเป็นลูกข่าย ให้ใช้โปรแกรม Scan WIFI เช่น "WirelessNetView" เพื่อเปิดดูlistของAP แล้วก็เปิดดูซิว่า AP ตัวนั้น(ของวงแลนเรา) มันมีเลข MAC อะไร... จากนั้นก็มา Scan IP เทียบเลข MAC เอา คุณก็จะได้ IP ของ AP ตัวนั้นๆแล้ว

(ถ้าเป็นผู้ดูแลระบบ ก็เอา MACของAPที่ได้ ไปเทียบในตารางARPก็จะเจอครับ..)

บางกรณี ใช้คำสั่งง่ายๆ อย่าง "c:\>arp -a" ก็พอจะเทียบเลข MAC แล้วเดาทางได้เหมือนกัน


พอเข้าใจไหม.. ^_^"

การดูเลขชุดหน้าเป็นมาตราฐานการแบ่ง class แบบ classful ซึ่งถ้า protocal อย่าง rip-1 จะตีค่าว่าเป็น class ไหน เช่น 192.168.1.0 = class C (แต่ปัจจุบันแทบไม่มีใครใช้แล้วเหลือแต่หลักการและข้อด้อยไว้ให้เรียนเฉยๆ)

แต่ protocal ในระบบ network ปัจจุบันเค้าใช้การแบ่ง class แบบ classless ซึ่งจะตั้งเลขชุดหน้าเป็นอะไรก็ได้ไม่สำคัญ protocal ในปัจจุบันจะมองที่ที่ subnet เป็นตัวกำหนด class เช่น 192.168.1.0/8 = class A

(ในไม่ช้า classless ก็อาจจะเหลือแค่หลักการและข้อด้อยไว้ให้เรียนเหมือนกันเมื่อ IPv6 เข้ามาแทนที่อย่างสมบูรณ์)

[Dokmai]

192.168.1.0/8 = class A
แบบนี้ มันใช้ไม่ได้กับ เราเตอร์ ทุกตัว...
(เป็นการมองแค่ในวงของเราอย่างเดียว โดยไม่ได้คำนึงว่า ข้างนอกจะมองเข้ามาในวงเรา อย่างไง)

แต่ถ้าเราว่ากันแบบ ทำเองใช้เองง่ายๆ ก็ได้อยู่ครับ(เซตระบบมันให้Workก่อน... แล้วอยากจะแก้ให้ถูก ก็อาจมาแก้ที่หลัง)


แต่ถ้าเรามีความรู้อยู่แล้ว เราเริ่มต้นมันให้ถูกต้องตั้งแต่แรกไปเลยดีกว่าครับ(อย่าลักไก่) เดี๊ยวจะหลงลืมจนจำสิ่งที่ถูกไม่ได้

ผมเคยเจอปัญหา แบบที่ระบบเดิมตั้งวงย่อยเป็น 192.168.1.0/22 หลายวง แล้วมันforwardลูกข่ายข้ามวงไม่ได้(มองไม่เห็นกันกัน), ทำVPNไม่ได้, ใช้เครื่องพิมพ์ข้ามวงไม่ได้, แชร์ไฟล์ข้ามวงไม่ได้... อันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของเราเตอร์แต่ระตัวว่าเตร่งคัดแค่ไหน...
พอเรารับงานเข้าไปแก้ไข ก็เห็นเพราะตั้งIPผิดมาตรฐาน แค่พิมพ์ใหม่หกเจ็ดตัว "172.10.1.x"ก็จบแล้ว (แล้วฉันก็คิดสะตังค่าแก้ใขระบบไม่ถูก..เดี๊ยวก็จะว่าฉัมเค็ม..กระดากใจ เลยทำให้ฟรีละกัน T_T 55+)

สรุป.. ก็ถ้าเราไปเจอการตั้ง IP แปลกๆแบบนี้ แล้วพบว่ามีปัญหาNetworkประหลาดๆ ก็ให้สังหรไว้ก่อนว่าเป็นเรื่องเลขหมายไอพี

[JO]

192.168.1.0/8 = class A
แบบนี้ มันใช้ไม่ได้กับ เราเตอร์ ทุกตัว...
(เป็นการมองแค่ในวงของเราอย่างเดียว โดยไม่ได้คำนึงว่า ข้างนอกจะมองเข้ามาในวงเรา อย่างไง)

การวิ่งข้าม network ขึ้นอยู่กับการทำ route ครับ

แต่ถ้าเราว่ากันแบบ ทำเองใช้เองง่ายๆ ก็ได้อยู่ครับ(เซตระบบมันให้Workก่อน... แล้วอยากจะแก้ให้ถูก ก็อาจมาแก้ที่หลัง)


แต่ถ้าเรามีความรู้อยู่แล้ว เราเริ่มต้นมันให้ถูกต้องตั้งแต่แรกไปเลยดีกว่าครับ(อย่าลักไก่) เดี๊ยวจะหลงลืมจนจำสิ่งที่ถูกไม่ได้

ผมเคยเจอปัญหา แบบที่ระบบเดิมตั้งวงย่อยเป็น 192.168.1.0/22 หลายวง แล้วมันforwardลูกข่ายข้ามวงไม่ได้(มองไม่เห็นกันกัน), ทำVPNไม่ได้, ใช้เครื่องพิมพ์ข้ามวงไม่ได้, แชร์ไฟล์ข้ามวงไม่ได้... อันนี้มันก็ขึ้นอยู่กับมาตรฐานของเราเตอร์แต่ระตัวว่าเตร่งคัดแค่ไหน...

การวิ่งข้าม network ขึ้นอยู่กับการทำ route ครับกรณีมีปัญหาให้เช็ค routing table ครับ

พอเรารับงานเข้าไปแก้ไข ก็เห็นเพราะตั้งIPผิดมาตรฐาน แค่พิมพ์ใหม่หกเจ็ดตัว "172.10.1.x"ก็จบแล้ว (แล้วฉันก็คิดสะตังค่าแก้ใขระบบไม่ถูก..เดี๊ยวก็จะว่าฉัมเค็ม..กระดากใจ เลยทำให้ฟรีละกัน T_T 55+)

สรุป.. ก็ถ้าเราไปเจอการตั้ง IP แปลกๆแบบนี้ แล้วพบว่ามีปัญหาNetworkประหลาดๆ ก็ให้สังหรไว้ก่อนว่าเป็นเรื่องเลขหมายไอพี

การทำ Classless เป็น Standard ที่เค้าใช้กันทั่วโลกครับ แม้แต่ในการสอบ CCNP ก็มีให้คำนวณเช่นกันอยู่ในวิชา Advanced IP Address และ VLSM ลองพิมพ์ Classless Inter-Domain Routing (CIDR) ใน google ดูก็ได้ครับ

การตั้ง IP ตาม Classfull 192.168.0.0 = class c ถ้าไม่ใช้ร่วมกับ Protocal RIP1 กับ IGRP ซึ่งไม่มีความหมายครับเพราะ Protocal อื่น Detect การ แบ่ง Class และ Rang IP ด้วย Subnet ตาม Classless ทั้งหมด
(มีเพียง Protocol RIP1 กับ IGRP เท่านั้นที่ Detect Class ด้วยเลขชุดหน้าของ IP โดยไม่เช็ค Subnet แต่ถามว่าปัจจุบันมีใครบ้างที่ยังใช้ RIP1)

ถ้าคุณยังคิดว่าการแบ่ง Class ด้วย Subnet ไม่เป็นมาตราฐานนี้แนะนำว่าต้องไปไล่อ่านหนังสือวิชา IP-Address เบื้องต้นในหัวข้อ Classful กับ Classless(CIDR) และ VLSM ก่อนครับ

[Dokmai]

^
^
เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณครับ

แต่จะเอา RIP1 กับ IGRP มาอ้างก็ไช่เรื่องไง จะบอกว่า Cisco ครองโลก..ก็แม้ ^_^

มันเป็นดร้ามาครับ (ตั้งแต่ผมเด็กๆเลยครับ ผมจำได้ว่าผมเคยอ่านนิตยสาร BYTE ช่วงม1-ม3 ช่วงนี่ล่ะครับ)
Classless มันเป็นเรื่องที่ Cisco ชอบ เพราะมันทำให้ง่าย ยุคนั้น1990-94เน็ตเวิร์คมันก็เป็นLANภายในองค์กรเสียเป็นหลัก เลยไม่จำเป็นต้องไปสนใจผู้คนนอกLAN... แล้ว Cisco ก็ทำ CIDR เพื่อบังคับมาตรฐาน"ให้คนอื่นทำตามตัวเอง"(อิทธิพลทางการค้า)

เราต้องแยกว่า ถ้าเราทำเองใช้เอง..ล่ะได้เลยครับ

แต่ถ้าลองนึกว่า เราเป็นAdminของบริษัท ที่มี 4 สาขา กรุงเทพ เชียงใหม่ ระยอง ภูเก็ต... สาขานึงต้องมี IP 300-400 เลขหมาย แล้วต้องเชื่อม VPN กัน... Classlessเนี่ยAdminแต่ล่ะสาขาคงยุงเหยิ่งนะ (ยิ่งถ้ามีคนใหม่เข้า/คนเก่าออก)

เรามองในโลก ก็ในเมื่อยุคนี้คอมพิวเตอร์เน็ตเวิร์คทั้งโลกครอบด้วย IANA(ซึ่งใช้ Classful) คอมพิวเตอร์อินเตอร์ทั้งโลกพยายามมองกันอย่างเคร่งคัด...
ผมก็เลยบอกว่า ถ้าเราทำได้(มีความรู้/มีทักษะ/คำนวนเป็น)เราก็ควรทำกันในแบบ..มาตรฐานหลัก คนทุกคนจะได้เข้าใจเหมือนกัน (แอดมินคนที่1 ถึง แอดมินคนที่100 ก็จะได้เข้าใจเหมือนกัน)

พวกเราๆนี่ล่ะ เซตเน็ตบ้าน เซตเน็ตหอพัก... เราควรจะเริ่มทำงานกับตัวเองด้วยมาตรฐานหลัก สร้างความคุนเคยกับมันตั้งแต่แรก ก็จะดีกับตัวเราเอง เพราะ IPv4 มันไม่หมดใน 3-4 ปีนี้แน่นอนครับ แล้วถ้าเรายังไม่เข้าใจIPv4แบบมาตรฐาน แล้วเราคิดจะข้ามไปเข้าใจ IPv6 เลยหรอ.? (ก็ดูซิ IPv6เห็นมันไม่มีคลาส/ไม่มีSubnet แล้วมันง่ายกว่ากันตรงไหนไหม.!! เฉลี่ยแล้ว มึนมาก-ถึงมืนมากที่สุด กันทั่วหน้า 555+)

แต่ผมก็คอมเมนต์อีกที่นึงว่า..
ถ้าเราทำเองใช้เอง จะเอาความสะดวก ความรวดเร็วก่อน หรือใช้แก้ใขปัญหาเฉพาะหน้า เทคนิคของ Classless ก็เป็นทางออกตรงนี้ครับ

[JO]

ถ้าติดต่อออกไปข้างนอก(Internet) Privat-IP ก็ NAT ออกไปเป็น Public-IP + Port ออกไปอยู่ดีครับ เพราะฉนั้น Classless ก็ไม่ได้สร้างปัญหาในจุดนี้แต่อย่างใด(ถ้าข้ามองค์กรแบบ Point to Point ใช้ Public-IP คุยกันตรงๆอันนี้เราตั้ง IP เองไม่ได้อยู่แล้วเพราะ ISP ให้มา)

นอกจากนี้การทำ Update Routing ก็ได้ประโยชน์มากมายจาก Classless ยกตัวอย่างเช่น การทำ Summary ลดขนาดข้อมูลและเพิ่มความเร็วในการ Update ที่ Router ได้ค่อนข้างมาก

ส่วนเรื่องการลำบากในการแบ่งผมว่าไม่ได้ยากมากมายหน่วยงานผมอยู่ก็มีการเชื่อมโยงอยู่ 4หน่วยงาน มี Private-IP มากกว่า 1000หมายเลขและ มี Public-IP ประมาณ 256หมายเลข ใช้การทำงานบน Classless ทั้งหมดก็ใช้ได้ไม่มีปัญหานะครับ

ส่วน IPv6 ยังไงมันต้องมาแน่ตอนนี้ CAT เปลี่ยนไปแล้วส่วน ISP กำลังทยอยอยู่ แม้แต่ที่ทำงานผมก็กำลังทยอยเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ไม่รองรับออกไปอยู่และส่งหนังสือจองไปแล้วประมาณ 1000หมายเลข ผมว่า Concept IPv6 มันเข้าท่าดีเพียงแต่อาจจะต้องทำความคุ้นเคยกะมันสักนิด

[Dokmai]

ผมเห็นด้วยๆ..ครับ

อีกหน่อย SEO ก็จะมาชิง IPv6 กันอีก แล้วถ้าใช้คำว่าclassของพวกSEOล่ะละ แต่ล่ะหลักมันจะ....กว้าง....มากเลยเชียว จะเห็นไอพีมากล้น คงใช้งานกันเป็นเศษขยะเศษใบไม้เชียว

โหย.. ปั่นเว็บด้วยIPv6 ทำซับโดเมนกันมันส์มือล่ะ (Server Hosting อวก..)

[JO]

ตอนนี้หน่วยงานที่เป็นของรัฐสามารถจอง IPv6 ได้แล้วครับ ยอดจองแต่ละหน่วยงานเยอะมากและผู้ให้บริการก็ดีเยี่ยมขอมาก็ให้หมดและตอนนี้หน่วยงานของรัฐสามารถขอ BW ได้ที่ 1Gbps หมดแล้วเช่น(แต่พวกอุปกรณ์ส่วนใหญ่รองรับกันแค่ 100Mbps พวก Firewall/Router นี้ตัวดีต้องรื้อทิ้งกันระนาว)

แต่จะว่าไป IPv4 ที่เป็น Public IP หน่วยงานผมได้มา 256หมายเลขตอนนี้ยังใช้ไม่ถึงครึ่งเลย
(สมัยเค้าให้มาใหม่ๆเมื่อสัก10ปีก่อนนี้เครื่อง User เป็น Public-IP หมดทั้งหน่วยงานนะนั้น =_=")

[bankloso]

ขอบพระคุณมากเลยครับ

[TimelineIT]

กลายเป็นของเทพสู้กันซะแหละ

[ubonbuy]

กลายเป็นของเทพสู้กันซะแหละ

555555 ดูเทพสู้กัน ..
192.168.1.0/24 ก็ใช้กันอยู่นะครับ เห็น 3 bb มาเซ็ต ก็เห็นแต่แบบนี้

ผมก็เลยบอกว่า ถ้าเราทำได้(มีความรู้/มีทักษะ/คำนวนเป็น)เราก็ควรทำกันในแบบ..มาตรฐานหลัก คนทุกคนจะได้เข้าใจเหมือนกัน (แอดมินคนที่1 ถึง แอดมินคนที่100 ก็จะได้เข้าใจเหมือนกัน)

พวกเราๆนี่ล่ะ เซตเน็ตบ้าน เซตเน็ตหอพัก... เราควรจะเริ่มทำงานกับตัวเองด้วยมาตรฐานหลัก สร้างความคุนเคยกับมันตั้งแต่แรก ก็จะดีกับตัวเราเอง

อันนี้เห็นด้วยครับ admin หน้าด้าน เอ๊ย หน้าใหม่ จะได้เยอะขึ้น

[bankloso]

ได้ mac address ของ ap มาแล้ว แล้วเอาไปเทียบใน list ในโปรแกรม commview มันไม่โชว์ ip มันขึ้นว่า n/a

[JO]

ได้ mac address ของ ap มาแล้ว แล้วเอาไปเทียบใน list ในโปรแกรม commview มันไม่โชว์ ip มันขึ้นว่า n/a

กรณี Wireless มีการเข้ารหัส(WEP,WPA)ต้องใส่ Encryption Key ด้วยครับถึงจะเห็นหมายเลย IP และ Data Packet