Announcement

Collapse
No announcement yet.

อยากทราบ ว่าทำไมถึงเรียกว่า Switch

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • อยากทราบ ว่าทำไมถึงเรียกว่า Switch

    คือ Switch มันแปล ว่าการ สลับ แต่ ว่ามันเกี่ยวข้องยังไงกับการใช้งานหรอครับ
    หรือว่าเรียกว่าเฉยๆ
    Last edited by birdoverclockzone; 22 Feb 2011, 18:37:33.

  • #2
    แต่ก่อนมันเป็น hub ก็คือจุดรวมสัญญาญ

    ต่อมาเกิดการ hack กันบนวงแลน หรือดดนจับข้อมูลการสื่อสารบนเครื่องอยู่ในวงเดียวกันได้ก็เลยสร้างเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมา

    switch ชื่อเต็มๆคือ Switching Hub ก็คือ Hub แบบตัดต่อไปมานั้นล่ะเช่น มีเครื่องต่ออยู่บน Switch คือ A B C D เวลา A ต้องการสื่อสารกับ B Switch ก็จะต่อ A กับ B ให้ถึงกันตัด C กับ D ออก เวลา B ต้องการสื่อสารกับ D มันก็จะต่อ B, D ตัด A, C

    Comment


    • #3
      Originally posted by mrxc View Post
      แต่ก่อนมันเป็น hub ก็คือจุดรวมสัญญาญ

      ต่อมาเกิดการ hack กันบนวงแลน หรือดดนจับข้อมูลการสื่อสารบนเครื่องอยู่ในวงเดียวกันได้ก็เลยสร้างเทคโนโลยีใหม่ขึ้นมา

      switch ชื่อเต็มๆคือ Switching Hub ก็คือ Hub แบบตัดต่อไปมานั้นล่ะเช่น มีเครื่องต่ออยู่บน Switch คือ A B C D เวลา A ต้องการสื่อสารกับ B Switch ก็จะต่อ A กับ B ให้ถึงกันตัด C กับ D ออก เวลา B ต้องการสื่อสารกับ D มันก็จะต่อ B, D ตัด A, C
      ถูกๆๆๆๆๆ

      --------------

      เอาแบบบ้านๆหน่อยนะครับ

      สมัยก่อนนั้น(ยุคก่อนปีหน้า2000) ยุคนั้น Network Switching มันมีราคาแพงมาก (ส่วนพวก Router นั้นเรียกว่าโคตรของโคตรแพง)
      สมัยนั้นเราจึงนิยมใช้ HUB ครับ

      ขอแตกต่างที่ควรรู้ของ HUB กับ Switch คือ
      - HUB ใช้หลักการ"แชร์"ครับ คือ ถ้าเป็นNetworkความเร็ว100Mbps มีลูกข่ายต่อแยกตรงจากHubจำนวณ10เครื่อง ความเร็วที่ลูกข่ายได้รับก็จะเหลือ (100/10เครื่อง) =10Mbps เท่านั้น (โดยอุปมาให้เข้าใจง่ายๆล่ะนะครับ)

      - ส่วน Switch นั้น มันใช้วิธีการ"สลับ" โดยการสลับช่องทางด้วยความเร็วที่สูงมาก ลูกข่ายทุกตัวที่ต่อแยกจากSwitchจะยังคงได้ความเร็ว(เกือบ)เต็มท่อเสมอ เช่น ถ้าเป็นNetworkความเร็ว100Mbps มีลูกข่ายต่อยแยกตรงจากSwitchจำนวณ10เครื่อง ลูกข่ายทุกตัวจะได้ความเร็ว(เกือบ)ใกล้เคียง100Mbps (ลดลงมากน้อยตามคิวงานที่ต้องSwitchต้องสลับ แต่จะไม่ตกต่ำวูบวาบ)


      * คราวนี้ ลองนึกถึง ระบบNetworkใหญ่ๆ แบบว่าตึกหลายๆชั้น ซึ่งเราจะต้องต่อ SwitchหรือHUB เป็นทอดๆหลายๆตัว ต่อแยกกันไป...

      - ถ้ายังเป็นยุคที่เราใช้Hubกันอยู่นั้น การใช้ Hub ต่อแยกกัน ความเร็วที่ปลายNetworkจะตกวูบอย่างน่ากลัว ลองนึกถึงสายแลนที่มีความเร็วเหลือไม่ถึง256kbpsซิครับ ยุคนั้นมันเลวร้ายเป็นแบบนี้จริงๆ

      - ยุคต่อมา เราก็ประยุกค์ใช้ Swich ผสม Hub คือใช้ Switch เป็นศูนย์กลาง แยกไปให้Hub วิธีนี้ก็ช่วยบรรเทาปัญหาได้บ่าง

      - ส่วนในยุคปัจจุบัน เราจะใช้ "Switch แบบ manage" เป็นศูนย์การ แยกไปต่อ Switchแบบธรรมดา อีกทีนึง


      Switch แบบ Manage หรือ Manage-Switching นั้น เป็น Switch แบบนึงที่มีการเพิ่มฟังชันการจัดการเข้าไป ฟังก์ชันที่สำคัญ เช่น การจัดการPort-Bandwidth(จัดการความเร็วรายปลั๊ก), การกำหนดสิทธิ์Login, การทำ QOS แบบลำดับขั้น เป็นต้น


      ส่วน Switch แบบธรรมดา หรือ Unmanage-Switching นี่ก็คือ Switch แบบทั่วๆไปที่เราๆคุ่นเคยกันอยู่ ที่เราซื้อกันตัวล่ะ400-500บาท มันก็แบบนี้หมดล่ะครับ... พวกนี้จะไม่มีฟังก์ชันพิเศษอะไร อย่างมากก็แค่สนับสนุนการทำQOSของRouter แค่นั้น...

      ** จบ Switch - 101 หุหุหุ
      Last edited by Dokmai; 22 Feb 2011, 19:34:07.

      Comment


      • #4
        ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ครับ

        Comment


        • #5
          ผมขอยกตัวอย่างสักนิดนะครับในความคิดผม ถ้าแบ่งเป็น layer 7 layer นั้น Hub จะอยู่เลเยอร์ที่ 1 มันจะไม่รู้เลยว่าแพคเกจอะไรวิ่งไปวิ่งมามันปล่อย มันแชร์อย่างเดียว และ switch นั้นอยู่ในเลเยอร์เดียวกัน แต่ความสามารถจัดการระบบนั้นจะเก่งขึ้นมาหน่อยโดยใช้อุปรกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จัดการไม่มีหน้าคอนฟิกครับ ตัวนี้จะใช้กันมากเพื่อเชื่อมต่อในปลายทาง แต่ก็ไม่ควรพ่วงกันเยอะ แต่ในระบบใหญ่ ๆนั้นจะใช้ Layer 3 ตระกูลพวก router ciscoครับ จัดการระบบเครือข่ายทุก ๆอย่างทั้งแพคเกจ การวิเคราะห์ทุกอย่างเลยเพื่อให้ระบบวิ่งได้อย่างราบรื่น และปลายทางที่เป็นbackboneมักจะนิยมใช้ manager (layer2) ในการจัดการอีกทีเช่นจำกัดความเร็ว กรองแพคเกจ ตัวนี้มีหน้าคอนฟิกแล้วเหมือนกับ router อื่น ๆเพื่อทำ Vlan พูดง่าย ๆคือ1 พอร์ดต่อ1กลุ่มนั่นเอง ถ้าทำแบบนี้คนที่เป็น admin จะสามารถจัดการกลุ่มการใช้งานได้อยางมีประสิทธิภาพมากที่สุด ผิดพลาดอย่างไรแนะนำด้วยนะครับ......ไม่ได้เรียนโดยตรงมา ^_^

          Comment


          • #6
            HUB มันเหมือน เราจั้ม สายไฟธรรมดาอะนะ กระจายไปทั่วๆ

            Comment

            Working...
            X