คือไม่ค่อยได้เข้าห้องนี้ แต่อยากเอาไว้ประดับความรู้อ่ะครับ Wireless G และ Wireless N คืออะไรครับ แล้วต่างกันยังไง ขอบคุณครับ
Announcement
Collapse
No announcement yet.
Wireless G และ Wireless N คืออะไรครับ แล้วต่างกันยังไง
Collapse
X
-
-
Originally posted by แข็งเปล่า View Postลองดูรูปครับ
ขออ้างอิงนิดนึงนะ
รูปที่ 1 ถูกต้องตามนั้นครับ
B ความเร็ว 11Mbps
G ความเร็ว 54Mbps มีอีกแบบเป็น Super G จะมีความเร็ว 108Mbps แต่การตลาดไม่รุ่ง เพราะอุปกรณ์ราคาสูง
N ความเร็ว มีหลายระดับ ตั้งแต่ 150-300-450-600Mbps ปัจจุบันที่เห็นในตลาดมี 150-300 เป็นส่วนใหญ่
450 เริ่มมีบ้างแล้วในเมืองนอก ส่วนประเทศไทยเรายังไม่เห็น
ทำยังไงเราถึงจะรู้ว่าเป็น N 150 หรือว่า N 300 ให้สังเกตง่าย ๆ ที่เสาของตัว Router นะครับ
ถ้ามีเสาเดียว ประมาณ 95% ในตลาดเป็น 150Mbps
ถ้ามี 2 เสา เป็นไปได้สูงที่จะเป็น 300Mbps
ถ้ามี 3 เสา มั่นใจได้ว่าเป็น 300Mbps ชัวร์ ๆ
รูปที่ 2 เกือบจะถูก ไม่ถึงกับ 100%
รูปนี้โดยรวมแล้วเป็นเหมือนการตลาดของผู้ผลิต Router ที่ทำ Router ออกมาขาย เพื่อให้ขายได้ง่ายขึ้น
ตามหลักแล้วความแรงของสัญญาณไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็น B G หรือว่า N
แต่ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ รุ่น หรือ กำลังส่ง ของตัว Router มากกว่า
เช่น WRT54GL Wireless G สัญญาณไปได้ไกลกว่า Router N หลาย ๆ ยี่ห้อในตลาดปัจจุบัน
การเชื่อมต่อ
ขึ้นอยู่กับ ทั้ง ตัวรับ และ ตัวส่ง สัญญาณครับ
ยกตัวอย่าง
ตัวส่งเป็น B
ตัวรับ B รับได้
ตัวรับ G รับได้
ตัวรับ N รับได้
ตัวส่งเป็น G
ตัวรับ B รับได้ต่อเมื่อ Router เปิดใช้งานแบบ Mixed เพื่อปล่อยทั้ง B และ G ในเวลาเดียวกัน
ตัวรับ G รับได้
ตัวรับ N รับได้
ตัวส่งเป็น N
ตัวรับ B รับได้ต่อเมื่อ Router เปิดใช้งานแบบ Mixed เพื่อปล่อยทั้ง B G และ N ในเวลาเดียวกันและต้องเป็น 20MHz ด้วย
ตัวรับ G รับได้ต่อเมื่อ Router เปิดใช้งานแบบ Mixed เพื่อปล่อยทั้ง B G และ N ในเวลาเดียวกันและต้องเป็น 20MHz ด้วย
ตัวรับ N รับได้
20MHz และ 40MHz คืออะไร
อธิบายแบบที่ผมรู้นะ ตามทฤษฏีอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
20 MHz
จะใช้ใน Wireless ทั้งแบบ B G และ N
เมื่อใช้ใน Wireless N จะทำให้รับสัญญาณได้สูงสุดแค่ 144Mbps ถึงแม้ Router รุ่นนั้นเป็น 300Mbps ก็ตาม
40 MHz
จะใช้ใน Wireless N
เมื่อใช้ใน Wireless N จะทำให้รับสัญญาณได้สูงสุดที่ 300Mbps ในปัจจุบัน (อนาคตจะได้ถึง 450Mbps และ 600Mbps)
แต่เมื่อเลือกเป็นแบบ 40 MHz จะทำให้ Wireless B และ G ไม่สามารถรับสัญญาณได้ เพราะ B และ G เป็นเทคดนโลยีเก่า
Comment
-
Originally posted by archab View Postขอถามครับ แล้ว g ไปรับหรือส่ง ของ n ได้หรือเปล่าครับ ถ้าไม่พูดถึงความเร็ว
เอาแค่เกาะแล้วเล่นได้อะไรทำนองนี้นะครับ
.
จะซื้อเราเตอร์ B/G/N มาแล้วเอาตัวรับ G ไปเกาะก็เล่นได้
นอกจากนี้จะเซตเราเตอร์ของเราให้อนุญาตเฉพาะ N Only ก็ได้ เซตแล้วพวกตัวรับ G จะเกาะไม่ได้
ระวังด้วย N มีความถี่ 2 ความถี่คือ 2.4 กับ 5 ตัวที่จะใช้กับ G ได้ต้องเป็น 2.4
เราเตอร์/AP บางตัวทำงานที่ 5 GHz อย่างเดียว(Ubiquiti ที่ลงท้าย M5) พวกนี้เอาตัวรับ G ไปเกาะไม่ได้
ถ้าเป็น Dual Band 2.4/5 อย่างนี้คือมีทั้ง 2 ความถี่ เอาตัวรับ G ไปเกาะได้
Comment
-
Originally posted by freedomlin View Postสวัสดีครับท่าน ไม่ได้เจอกันนาน ^ ^
ขออ้างอิงนิดนึงนะ
รูปที่ 1 ถูกต้องตามนั้นครับ
B ความเร็ว 11Mbps
G ความเร็ว 54Mbps มีอีกแบบเป็น Super G จะมีความเร็ว 108Mbps แต่การตลาดไม่รุ่ง เพราะอุปกรณ์ราคาสูง
N ความเร็ว มีหลายระดับ ตั้งแต่ 150-300-450-600Mbps ปัจจุบันที่เห็นในตลาดมี 150-300 เป็นส่วนใหญ่
450 เริ่มมีบ้างแล้วในเมืองนอก ส่วนประเทศไทยเรายังไม่เห็น
ทำยังไงเราถึงจะรู้ว่าเป็น N 150 หรือว่า N 300 ให้สังเกตง่าย ๆ ที่เสาของตัว Router นะครับ
ถ้ามีเสาเดียว ประมาณ 95% ในตลาดเป็น 150Mbps
ถ้ามี 2 เสา เป็นไปได้สูงที่จะเป็น 300Mbps
ถ้ามี 3 เสา มั่นใจได้ว่าเป็น 300Mbps ชัวร์ ๆ
รูปที่ 2 เกือบจะถูก ไม่ถึงกับ 100%
รูปนี้โดยรวมแล้วเป็นเหมือนการตลาดของผู้ผลิต Router ที่ทำ Router ออกมาขาย เพื่อให้ขายได้ง่ายขึ้น
ตามหลักแล้วความแรงของสัญญาณไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็น B G หรือว่า N
แต่ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ รุ่น หรือ กำลังส่ง ของตัว Router มากกว่า
เช่น WRT54GL Wireless G สัญญาณไปได้ไกลกว่า Router N หลาย ๆ ยี่ห้อในตลาดปัจจุบัน
การเชื่อมต่อ
ขึ้นอยู่กับ ทั้ง ตัวรับ และ ตัวส่ง สัญญาณครับ
ยกตัวอย่าง
ตัวส่งเป็น B
ตัวรับ B รับได้
ตัวรับ G รับได้
ตัวรับ N รับได้
ตัวส่งเป็น G
ตัวรับ B รับได้ต่อเมื่อ Router เปิดใช้งานแบบ Mixed เพื่อปล่อยทั้ง B และ G ในเวลาเดียวกัน
ตัวรับ G รับได้
ตัวรับ N รับได้
ตัวส่งเป็น N
ตัวรับ B รับได้ต่อเมื่อ Router เปิดใช้งานแบบ Mixed เพื่อปล่อยทั้ง B G และ N ในเวลาเดียวกันและต้องเป็น 20MHz ด้วย
ตัวรับ G รับได้ต่อเมื่อ Router เปิดใช้งานแบบ Mixed เพื่อปล่อยทั้ง B G และ N ในเวลาเดียวกันและต้องเป็น 20MHz ด้วย
ตัวรับ N รับได้
20MHz และ 40MHz คืออะไร
อธิบายแบบที่ผมรู้นะ ตามทฤษฏีอธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
20 MHz
จะใช้ใน Wireless ทั้งแบบ B G และ N
เมื่อใช้ใน Wireless N จะทำให้รับสัญญาณได้สูงสุดแค่ 144Mbps ถึงแม้ Router รุ่นนั้นเป็น 300Mbps ก็ตาม
40 MHz
จะใช้ใน Wireless N
เมื่อใช้ใน Wireless N จะทำให้รับสัญญาณได้สูงสุดที่ 300Mbps ในปัจจุบัน (อนาคตจะได้ถึง 450Mbps และ 600Mbps)
แต่เมื่อเลือกเป็นแบบ 40 MHz จะทำให้ Wireless B และ G ไม่สามารถรับสัญญาณได้ เพราะ B และ G เป็นเทคดนโลยีเก่า
ใช้ asus rt-n10+ firmware dd-wrt อะครับ - -
Comment
-
Originally posted by osoul View Postขอถามเอาความรู้หน่อยครับ ทำไมผมใช้ wireless router n 150 ปล่อยแบบ mix ตัวรับเป็น N รับได้ประมาณ 70 กว่าเองครับ
ใช้ asus rt-n10+ firmware dd-wrt อะครับ - -
คล้ายกับการนำ SATA 3 ไปใช้กับ Port SATA 2 มันก็วิ่งแค่ SATA 2
อยากใช้ SATA 3 ให้เต็มสปีด ต้องใช้กับ Port SATA 3
ที่สำคัญตัวไดรฟ์เองต้องทำความเร็วได้ระดับนึงด้วย เอาจานหมุน SATA 3 ไปต่อก็ไม่เห็นผล ต้อง SSD ถึงจะต่าง
สำหรับ 802.11n
อย่าง RT-N10+ มีเสาเดียว
จะวิ่งที่ 150 Mbps ต้องใช้ MCS7+40 Mbps+Short Guard Interval
ตัวรับทั่วไป เสาเดียว อาจจะวิ่งที่ MCS7 ได้
แต่ได้เฉพาะ 20 Mbps Short Guard Interval ก็ได้ความเร็วสูงสุดแค่ 72.2 Mbps
ต้องเป็นตัวรับที่ใช้ 40 Mbps ได้และใช้ Short Guard Interval ถึงจะได้ 150 Mbps
Comment
-
Originally posted by osoul View Postขอถามเอาความรู้หน่อยครับ ทำไมผมใช้ wireless router n 150 ปล่อยแบบ mix ตัวรับเป็น N รับได้ประมาณ 70 กว่าเองครับ
ใช้ asus rt-n10+ firmware dd-wrt อะครับ - -
20 MHz
จะใช้ใน Wireless ทั้งแบบ B G และ N
เมื่อใช้ใน Wireless N จะทำให้รับสัญญาณได้สูงสุดแค่ 144Mbps ถึงแม้ Router รุ่นนั้นเป็น 300Mbps ก็ตาม
40 MHz
จะใช้ใน Wireless N
เมื่อใช้ใน Wireless N จะทำให้รับสัญญาณได้สูงสุดที่ 300Mbps ในปัจจุบัน (อนาคตจะได้ถึง 450Mbps และ 600Mbps)
แต่เมื่อเลือกเป็นแบบ 40 MHz จะทำให้ Wireless B และ G ไม่สามารถรับสัญญาณได้ เพราะ B และ G เป็นเทคดนโลยีเก่า
Comment
Comment