Announcement

Collapse
No announcement yet.

Review: Calibrate หน้าจอเอง vs เดิมๆ vs factory calibrate บวกความรู้เรื่องการคาลิเบต

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • Review: Calibrate หน้าจอเอง vs เดิมๆ vs factory calibrate บวกความรู้เรื่องการคาลิเบต

    Review: Calibrate หน้าจอเอง vs เดิมๆ vs factory calibrate บวกความรู้เรื่องการคาลิเบต และโปรแกรมเทพๆ ที่ใช้ calibrate




    วันนี้ผมจะมาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการ Calibrate นะครับ


    ซื้อจอมาใหม่ทำไมเหลือง?

    จอเก่าถูกกว่าตั้งเยอะทำไมขาวกว่า?

    ทำไมจอซื้อพร้อมกันสีไม่เท่ากัน?

    ทำไม ทำไม ทำไม?

    คาลิเบรตแล้วสีจืด แล้ว เหลือง (ตรงนี้ : คนที่ทำยังขาดความรู้ความเข้าใจครับ ถ้ามีความเข้าใจดีพอปัญหานี้ก็จะไม่เกิดครับ)



    1. ทำไมต้อง Calibrate กรณีท่านทำงานหรือชอบเล่นภาพ ชอบแต่งภาพสนุกๆ หรือชอบถ่ายภาพ หรือทำงานด้านนี้



    อันนี้ขอใช้ภาพที่ผมทำขึ้นมาพูดแทนเลยแล้วกันครับ




    2. ทำไมต้อง Calibrate กรณีท่านไม่ได้ทำงานด้านภาพ





    ตามภาพเลยครับ

    ยกเว้นท่านไม่ชอบอะไร Perfect ข้ามไปได้เลยครับ แต่ถ้าชอบไม่ควรพลาดครับ




    หรือกรณีจอท่านเหลือง จอท่านแดง จอท่านสีเพี้ยนเห็นแล้วรำคาญตาอยากให้ได้ตรงใจเป็นต้น จะเอาขาวแค่ไหน ปรับเลยครับ โดยที่สีอื่นๆ ไม่เพี้ยนตามด้วยครับ




    วันนี้ผมจะมาคลายข้อสงสัย พร้อมด้วยวิธีแก้ไขให้ทุกท่านเองครับ

  • #2
    รีวิวนี้

    Hardware จะใช้ Colorimeter ของ Spyder 4 นะครับ เนื่องจากราคาไม่แพงมากและมีความแม่นยำในระดับสูง

    ส่วน Software จะใช้ dispcalGUI แทน Software ของ Spyder นะครับ เนื่องจาก dispcalGUI ละเอียดกว่ามาก เที่ยงตรงกว่ามาก ยืดหยุ่นกว่ามาก

    (Software ของ Spyder นั้นไม่ค่อยเทพครับ ผลที่ได้แย่ เพราะทำแค่หยาบๆ ไม่กี่สี 3-5 นาทีเสร็จ แต่ dispcalGUI ใช้หลายร้อยถึงเป็นพัน sample และใช้เวลาเป็นชั่วโมงครับ)

    ผลที่ได้คนละชั้นครับ


    ส่วน Hardware ของ Spyder ในรุ่นที่ 4 นี้ไม่มีปัญหาแล้วครับ แม่นยำเหลือเฟือ แถมรองรับจอ wide gamut ได้ด้วยครับ





    พอดีวันนี้น้องที่เอาเครื่องมือไปเอากลับมาคืนสักที เสียดายว่าไม่ได้เอากลับมาตอนทำรีวิวเลยต้องไปซื้อมาใหม่อีกตัวและทำไม่ทันอยู่ดี สุดท้ายตัวนี้กลับมาตอนใกล้จะเสร็จพอดี ก็ดีครับ

    ผมจึงได้โอกาสนำมาเช็คเทียบก่อนยกให้น้องแบบถาวร พบว่าตัว Colorimeter หรือเครื่องวัดสีนี้ตรงและสมบูรณ์ดี จึงเป็นที่มาของส่วนเสริมในรีวิวนี้ครับ



    โดยจะเป็นเรื่องของ Factory Calibrate vs Manual Caibrate นะครับ

    Comment


    • #3
      อย่างที่หลายท่านทราบแล้วว่า จอราคากลางๆ ขึ้นไปบางรุ่นเช่น

      Dell U2414H และรุ่นสูงกว่าอย่าง U2413 U2713H และอื่นๆ นั้นมีการ Calibrate จอมาให้จากโรงงานแล้ว เรียกว่า Factory Calibrate ครับ


      โดยการ Calibrate ของโรงงานนั้น จะมีมารตฐานอยู่ที่ค่า Delta E (ความเพี้ยนของสี) อยู่ที่ประมาณ ไม่เกิน 4 หรือไม่เกิน 5 แล้วแต่รุ่นครับ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการ Calibrate แบบคร่าวๆ ให้พอใช้งานได้ระดับนึงสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ที่ไม่เคร่งว่าจะต้อง Perfect หรือเป๊ะสุดๆ ครับ




      แต่ก่อนจะไปพูดถึงผลที่ได้จากการ Calibrate ของทั้งสองแบบ เรามารู้จักการ Calibrate หน้าจอก่อนคร่าวๆ ครับ

      (ผมจะใช้ภาษาชาวบ้านอธิบายนะครับ เพื่อนๆ จะได้เข้าใจง่ายขึ้น ไม่ใช้ภาษาถูกต้องหมดเพราะไม่งั้นเพื่อนๆ คงไปอ่านในตำราเอาง่ายกว่า ถือว่าผมสรุปให้แล้วกันครับ)

      Comment


      • #4
        เรื่องแรก ค่า อุณหภูมิของแสง (พูดง่ายๆ คือ ค่าความขาวนั่นเองครับ)

        จอเหลือง จอขาว จอฟ้า ทั้งหมดอยู่ที่นี่ครับ





        ตามภาพจะเห็นว่าแสงนั้นมี อุณหภูมิครับ มีหน่วยเป็น K (มาจาก Kelvin)

        แสงสีเหลืองๆ อย่างเทียนหรือหลอดไฟใส้แบบดั้งเดิม หรือแสงพรอาทิตย์ตกนั้น คือประมาณ ต่ำกว่า 3,000 ลงไปครับ

        แสงสีขาวจริงๆ คือประมาณ 6,500 ครับ (แต่จอสมัยนี้จะตั้งมาค่อนข้างขาว โดยเฉพาะจอราคาถูกและจอ Notebook เน้นขาวหลอกไว้ก่อนทะลุไป 8000k บ่อยๆ ครับ)

        ทีนี้พอเป็นเช่นนั้น เดี๋ยวนี้ iPhone, iPod, iPad ไอนู่น ไอนี่ ก็เลยแข่งกันขาว ตั้งค่าสีจอมาโรงงานกันคร่าวๆ ก็ 7000 - 8000 k กันทั้งนั้นครับ

        (พวกที่เจอจอเหลืองนี่คือมันมีค่าองศาที่ต่ำกว่าตัวอื่นๆ ครับ ไม่ได้เสียหายอะไร เป็นแค่ bias ทางการตั้งค่าที่ไม่เหมาะกับแผง panel จอเท่านั้นครับ อย่างพวกจอคอมส่วนใหญ่นี่ ปรับได้ใน Service Menu เลยครับ จะเอากี่องศาก็ไปตั้งกันเอา แต่มันมีข้อเสียครับ ตัวที่ขาวจากโรงงานก็เช่นกันครับ)

        พวกที่โรงงานตั้งค่าองศาสีมาแบบนี้ ยังไม่นับเป็นการ Calibrate นะครับ เป็นแค่ การตั้งค่าหยาบมากๆ เท่านั้นครับ





        เรื่องนี้การ Calibrate ช่วยได้ครับ ท่านอยากให้จอท่านมีสีขาวเป็นกี่องศาปรับได้หมด โดยสีอื่นๆ ไม่เพี้ยนตามด้วยครับ


        เช่นชอบอ่านเว็บไป ทำรูปไป ไม่ได้สั่งพิมพ์ใช้ online และเก็บในคอมเป็นส่วนใหญ่ แบบนี้ Calibrate ที่ค่า K มากๆ ก็ได้ครับ จะได้ขาวเยี่ยงจอ Notebook แต่สียังคงความแม่นยำอยู่ครับ



        แล้วปัญหาจอเหลืองเกิน หรือฟ้าเกิน ก็จะหมดไปครับ

        Comment


        • #5
          เรื่องที่สอง Color cast หรือ tint คือ สีไม่พึงประสงค์ทั้งหลายครับ + เรื่องที่สองจุดหนึ่ง สมดุล ของแม่สี


          เช่นจอของท่านขาวดีแล้ว แต่ในแถบสีเทากลับมีสีแดงมากวนใจ ไม่เทาจริง หรือมีเหลืองมากวนใจไม่เทาจริง





          ตัวอย่างตามภาพครับ



          เรื่องนี้เกิดจากสีที่ไม่สมดุล เช่น แดงสว่างกว่าชาวบ้าน หรือ ฟ้าสว่างกว่าชาวบ้าน สามารถปรับแก้ได้ในขั้นตอนการ Calibrate ครับ






          ตามภาพจะเห็นว่าโปรแกรมสามารถปล่อยแสงออกไปให้เครื่องมือวัดแสง วัดสี อย่าง Colorimeter นั้นวัดได้

          โดยจะปล่อยแม่สีออกมาก่อน 3 สี คือ แดง เขียว น้ำเงิน เช่นเดียวกับค่าที่ปรับได้ในเมนูของจอภาพ จากนั้นจะรวมกันเป็นแสงขาว

          และบอกว่าอะไรมากไป น้อยไป ต้องปรับเพิ่มลดเท่าไหร่ใน Menu จอแล้วจะได้สีพอดีกับค่าที่ตั้งไว้ โดยบอกแบบ Real-time คือปรับจอไป scale บนจอก็เพิ่มลดตามความถูกต้องเลยครับ

          โดยการตั้งค่านี้มีผลข้างเคียงคือ curve ของ gamma จะผิดเพี้ยนเพิ่ม จากเดิมที่โรงงานออกมาก็เพี้ยนอยู่แล้วก็อาจจะเพี้ยนเพิ่มไปอีก (แต่การ Calibrate จะปรับให้ตรงด้วยวิธีที่ซับซ้อนอีกเยอะมากครับ)

          Comment


          • #6
            เรื่องที่สาม Gamma

            Gamma นี่ถ้าอธิบายแบบเป็นทางการจะเข้าใจยากไปเสียหน่อย ผมอธิบายแบบคร่าวๆ แล้วกันนะครับ

            ภาพที่เราเห็นบนคอมพิวเตอร์ มือถือ กล้อง หรือทีวี ใดๆ ก็แล้วแต่ที่เป็น Digital นั้นจะต้องมีการถอดรหัสออกมาครับ Gamma เป็นค่าชี้วัดว่าภาพที่ถอดรหัสออกมา จะมืดหรือสว่างเท่าไหร่ครับ


            ใน PC ทั่วไปจะอยู่ที่ 2.2 (แม้ว่าความจริงแต่ละจอจะไปคนละโลกเลยก็ตาม) การที่มี Gamma ถูกต้องจะช่วยได้ในหลายๆ เรื่องครับ ดูภาพตัวอย่างครับ





            ประมาณว่าถ้าถูกต้องก็จะเป็นแบบภาพแรก ถ้ามากไปหรือน้อยไปก็จะเป็นแบบภาพที่ 2 และ 3 ครับ


            เรื่องนี้การ Calibrate ช่วยได้เต็มๆ เพราะตาเราไม่สามารถขนาดนั้น และ tools ที่มีมาให้ใน Windows และ Driver Card จอ ปกติก็ไม่สามารถออกโปรไฟล์ได้ถูกต้องเที่ยงตรงเท่าการ Calibrate ครับ เพราะ Gamma Curve นั้นไม่ได้ตรงครับ ต้องไล่ให้ถูกต้องตลอดแนวด้วยครับ

            Comment


            • #7
              เรื่องที่สี่ ความเที่ยงตรงของสี (ค่าความเพี้ยน/ต่างของสีนับจากสีเป้าหมาย) Delta E




              จากภาพคือตัวอย่างที่ผมใช้เครื่อง Colorimeter วัดจากจอบ้านๆ ทั่วไปที่ยังไม่ผ่านการ Calibrate ครับ


              เรื่องนี้คือหัวใจของการ Calibrate เลยครับ คือการให้สีที่ตรงกับค่าในอุดมคติที่สุด ความต่างเดี๋ยวไปดูตอนสรุปผลครับ

              Comment


              • #8
                นี่คือเรื่องคร่าวๆ หลักๆ ในการ Calibrate ครับ




                เมื่อเสร็จแล้วเรากลับมาที่เรื่องของเรากันต่อครับ



                Spyer vs DispcalGUI

                อันนี้ Spyder ไม่มีอะไรไปสู้ครับ คิดซะว่าโปรแกรมแถมมากับ Colorimeter ขำๆ ครับ

                และข้อควรรู้ Spyder 4 Express, Pro, Elite ใช้ Sensor เดียวกัน Hardware เดียวกันนะครับ แค่ Express ถอดตัววัดแสงด้านหลังออก (ซึ่งถึงมีก็แนะนำไม่ให้ใช้อยู่ดีจากผมที่เคยใช้ Elite และจากผู้ใช้ทั่วโลกก็พูดเหมือนกัน) ดังนั้น Hardware หลักมันเหมือนกันทุกประการครับ


                ดังนั้นผมจะใช้ dispcalGUI อย่างเดียวนะครับ แต่มันใช้ยากมากๆ ครับ ท่านใดจะใช้ต้องศึกษาให้ดีก่อนครับ

                Comment


                • #9
                  แล้วก็มาว่ากันต่อที่

                  1. จอที่ Calibrate แล้ว

                  2. จอที่ยังไม่ Calibrate

                  3. จอที่ Calibrate มาแล้วจากโรงงาน






                  ไม่พูดพร่ำ ทำเพลงเยอะนะครับลองดูผลของแต่ละแบบกันเลยครับ

                  Comment


                  • #10







                    ภาพนี้จากจอที่ยังไม่ได้ Calibrate จะเห็นว่าเพี้ยนหนัก เพี้ยนสาหัส ระดับที่เรียกได้ว่า Good for Nothing เลยครับ

                    Comment


                    • #11







                      ภาพนี้จากจอที่ผ่านการ Calibrate จากโรงงาน จะเห็นได้ว่า พอใช้ได้ในระดับนึงทีเดียวครับ แม้จะไม่ Perfect แต่ก็ไม่ได้แย่อะไรครับ แค่ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำมากๆ หรือจะทำภาพแข่งกับใครอันนี้อาจจะเสียเปรียบหน่อยครับ

                      Comment


                      • #12







                        และภาพสุดท้ายนี้จากการ Calibrate อย่างละเอียดด้วยตัวเอง ด้วย dispcalGUI ครับ จะเห็นได้ว่าอยู่ในระดับเยี่ยมครับ

                        Comment


                        • #13
                          ดูผลกันเสร็จแล้วมาสรุปกันเลยดีกว่าครับ



                          ถ้าเป็นคนใช้งานด้านพวกนี้ อย่างน้อยที่สุดน่าจะหาจอที่ผ่านการ Calibrate จากโรงงานครับ เช่น Dell U2414H หรือ Dell U2413 หรือ Dell U2713HM อะไรพวกนี้เป็นต้นครับ

                          จอพวกนี้ Calibrate มาดีใช้ได้พร้อมใบ Report ตัวอย่างดูได้ในกระทู้รีวิวจอครับ

                          http://www.overclockzone.com/forums/...B8%AD%E0%B8%A1


                          ส่วนจอปกติทั่วไปจะไม่ได้ คาลิเบตรมานะครับ มาแบบเน้นขาวฟ้าหรือจะเหลืองก็ตามบุญตามกรรมเลยครับ



                          ส่วนถ้าอยากได้ผลออกมาดีสุด ถ้ามีโอกาสลองหาโอกาส Calibrate จอของท่านดูครับ




                          ปล.จอ TN ทั้งหลายไม่ต้อง Calibrate ให้เหนื่อยนะครับ ยกเว้นจำเป็นจริงๆ เช่น Notebook ไว้ใช้ชั่วคราว เพราะ Calibrate ไปก็ Color shift อยู่ดี แต่ก็ดีกว่าไม่ผ่านการ Calibrate เลยครับ

                          ปล2. จอที่เหมาะกับการ Calibrate มากที่สุดเห็นจะเป็น IPS ครับ (แต่ IPS ที่ไม่ผ่านการ Calibrate ก็ไม่ได้ให้สีตรงกว่า แต่ประการใดนะครับ แค่ไม่เพี้ยนตามมุมมอง แต่ความเพี้ยนสีก็แย่พอกันครับ)

                          Comment


                          • #14
                            การแก้ปัญหาการ Calibrate


                            1. บางคนบ่นว่าทำไม Calibrate แล้วไม่ออกมาเป็นอย่างหวัง

                            1.1 เหลืองเกิน ลองปิดไฟ Calibrate ดูก่อนครับ ลดแสงรบกวน
                            1.1.1 ก็ยังเหลือง แสดงว่าท่านชอบสีขาวอมฟ้า เพราะเดี๋ยวนี้รอบตัวมีแต่สีนั้น แนะนำให้ Calibrate ที่ 7500k ครับ ถ้าไม่ได้ใช้โรงพิมพ์ ใช้แค่ online ภาพปกติไม่เพี้ยนครับ สีตรงหมดครับ
                            1.1.2 ถ้ายังขาวไม่พอก็อัดเข้าไปอีกครับ ไม่ได้ทำให้สีอื่นเพี้ยนตาม กรณ๊ไม่ได้เอาไปพิมพ์ครับ


                            2. ภาพออกมาดูแปลกๆ ดูหม่นๆ

                            2.1 เปลี่ยนโปรแกรมครับ ที่แถมมามักจะห่วย ต้องใช้โปรแกรมแยกครับ หรือจะลองปรับที่แถมมาดูก็ได้ครับ
                            2.1.1 โปรแกรมที่แถมมาบางระดับไม่สามารถใช้การวัดสีที่จอเพื่อปรับที่ Hardware (ปรับ OSD บนจอโดยตรงก่อน) ก่อนได้ทำให้ผลที่ได้ออกมาค่อนข้างแย่ครับ


                            3. บางทีก็อยากเอาไปพิมพ์ บางทีก็อยากใช้อ่านเว็บดูภาพออนไลน์สวยๆ ทำภาพออนไลน์สวยๆ สีตรงๆ

                            ก็ Calibrate หลายๆ Profile ครับ

                            เช่น 6,500K ไว้สำหรับงานพิมพ์, 7,500K ไว้ใช้ online, 8,000k อยากใช้ขาวๆ โดยสียังตรงมากๆ อยู่

                            เพราะเวลา Calibrate จะได้ออกมาเป็นโปรไฟล์ครับ สลับไม่ยากแค่ 2-3 คลิก เท่านั้นครับ




                            วันนี้ขอลาไปแต่เพียงเท่านี้ก่อนครับ

                            Comment


                            • #15
                              ตามมาอ่าน

                              ปล. นอนดึกจังเลยครับ

                              Comment

                              Working...
                              X