ทุกท่านอีกครั้งนะครับ เนื่องจากทุกวันนี้ไม่ว่าเราหันไปทางไหนก็จะเห็น LCD TV หรือ LED TV กันเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว ทำให้นึกได้ว่าจอแก้ว CRT กำลังค่อยๆหายไปตามยุคสมัย แต่ยังมีอีกกระแสที่ยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่องจากหลายๆกลุ่มผู้บริโภค นั่นก็คือ Plasma TV นั่นเอง ถ้าสังเกตุดีๆ ตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าต่างๆก็นิยมใช้กันมาก เหตุผลส่วนหนึ่งคือเรื่อง "ความใหญ่" ทำให้สะดวกในการใช้งานบริเวณสถานที่ต่างๆ และ "ราคา" ถ้าเทียบกับ LCD LED TV แล้วค่อนข้างจะมีราคาถูกกว่าอย่างเห็นได้ชัดในขนาดเดียวกัน ซึ่งตามมาตรฐานไทยแลนด์ สแตนดาร์ด คือ "อะไรก็ได้ ขอใหญ่ไว้ก่อน" ยิ่งถ้าขนาด 50 นิ้ว สองหมื่นนิดๆ ยิ่งได้รับความนิยมล้นหลาม แล้วถ้ามี 3D เพิ่มขึ้นมา จะเป็นอย่างไร วนกลับมาถึงรีวิวของเรา วันนี้ขอเชิญพบกับ LG PW450 ได้เลยครับ

LG PW450 3D Plasma TV

แรกเริ่มเดิมทีเราเริ่มกันที่ Design รูปลักษณ์ภายนอก จนถึงวันนี้เราก็ยังเริ่มต้นกันที่หัวข้อเดิมครับ !! เพราะบางท่านอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ที่จะเป็นเจ้าของเจ้า PW450 ตัวนี้หรือไม่ พอได้ชมรูปหลายๆมุมน่าจะหลงไหลเข้าไปอีก ด้วยสีของเจ้า Plasma PW450 นี้อาจจะแตกต่างกับยี่ห้อคู่แข่งที่ส่วนมากจะเห็นแต่สีดำเงา เจ้า PW450 มาพร้อมกับสีเทาควันบุหรี่ ดูแปลกตาออกไป แต่ยอมรับว่าสวยงามน่าจับต้องทีเดียว ความทนทานของวัสดุหลังจากที่ได้จับดูแล้วไม่เป็นรอยขีดข่วนง่ายๆแน่นอน ด้านความบางเทียบกับ Plasma ก็ถือว่าบางทีเดียว แต่ไม่ถึงขนาด LED TV นะครับ เรียกได้ว่า "ผอมแบบมีน้ำมีนวล" น่าค้นหามากกว่า
มาดูกันที่แผงควบคุมบนตัวเครื่องเป็นระบบ "สัมผัส" ทั้งหมด เอานิ้วแตะเบาๆก็ใช้ได้แล้ว
พื้นผิวสีเทาด้านออกไปทางสว่างเล็กน้อย ขาตั้งเป็นพลาสติกดำเงา รูปทรงสี่เหลี่ยม

แวะเวียนมาดูความบางของ PW450 กันชัดๆ

ด้านหลังแอบวับๆแวมๆ เล็กน้อย ด้วยช่องระบายความร้อนที่ดูโปร่ง ซึ่งก็ทำได้ดี
เพราะความร้อนในการใช้งานของ Plasma TV นั้นสูงอยู่แล้ว

พอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังตัวเครื่อง ให้มาครบตรงตามสเปคที่ระบุไว้
ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในทุกๆรูปแบบ

พอร์ตด้านข้างมีทั้ง HDMI USB และ AV

แว่นสามมิติที่มากับตัวเครื่องเป็นแบบ Active Shutter Glasses รุ่น S250

หน้าตาแบบนี้ครับ สำหรับแว่น 3D ของเจ้า PW450
มาถึงรีโมทกันบ้าง มาในสีดำเงา ขนาดพอดีมือ เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ
ตัวเลขบนปุ่มยางนั้นก็มีขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจน
สรุปเรื่องดีไซน์ของ LG 42PW450
สำหรับดีไซน์ของ PW450 ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ "สี" มองดูแล้วให้ความสว่างไม่มืดครึ้มเหมือนตัวอื่นแน่นอน แนวการวางของปุ่มกดระบบ "สัมผัส" ที่วางมามุมล่างขวาของจอนั้นใช้งานได้ง่ายดี ระดับการสะท้อนของตัวนี้เทียบแล้วก็พอๆกับ PJ350 ครับ มี Protective Skin Glass ช่วยลดการสะท้อนในระดับหนึ่ง ทดสอบในห้องที่คุมแสงได้ ตอนกลางวันกับกลางคืนไม่ต่างกัน แต่ห้องที่คุมแสงไม่ได้ เวลากลางวันอาจจะมีสะท้อนให้เห็นพอควร เรื่องความ บางของขอบก็ยังใช้นิยามของ "Razor Frame" กรอบบางได้ใจอยู่เช่นเคย การระบายความร้อนหน้าจอกับด้านหลังทำได้ดีทีเดียว เพราะช่องระบายอากาศด้านหลังมีเยอะ โดยรวมแล้ว PW450 ก็ยังเป็น ตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหา Plasma TV มาใช้งานในปี 2011 นี้ครับ

มาถึงเรื่องของภาพกัน ครับ เจ้า LG PW450 เป็น Plasma TV ที่สามารถรองรับระบบ 3D แบบ Active นะครับทำงานคู่กับแว่นแบบ Active Shutter Glasses ยังไม่ใช่ Cinema 3D แบบ FPR มีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1024 x 768 เท่ากับ Plasma TV ขนาด 42-43 นิ้วในแบรนด์อื่นๆ และในขนาด 50 นิ้วจะมีความละเอียดเท่ากับ 1365 x 768 แต่สามารถรองรับไฟล์ Full RIP ได้อย่างสบายๆ โดยชิพประมวลผลนั้นเป็น 3D XD Engine
Picture Mode - โหมดภาพของ LG PW450 นั้นมีให้เลือกเยอะทีเดียว
Vivid - เร่งสีสันของภาพให้ออกมาจัดจ้านกว่าปกติ ส่วนมากเราจะเห็นเวลาโชว์ตามร้านขายทีวี
Standard - โหมดนี้ผมแนะนำไว้เลยครับ ค่าปกติที่มาจากโรงงานก็ทำได้ดี ไม่ผิดเพี้ยน
APS - หรือ Auto Power Save โหมดนี้จะเปลี่ยนไปใช้ Intelligent Sensor ช่วยในการประหยัดไฟ
Cinema - เหมาะสำหรับชมภาพยนต์ จะลดค่า Contrast และ Sharpness ลง ดูแล้วสบายตา
Sport - เหมาะสำหรับชมการแข่งขันกีฬาต่างๆ โดยจะเพิ่มค่า Colour มากขึ้นจากโหมด Standard
Game - เหมาะสำหรับเล่นเกมส์ต่างๆ
ISF Expert - โหมดภาพ ISF เป็นอีกหนึ่งโหมดที่ผมแนะนำให้ใช้ครับ ค่าที่ปรับมานั้น ให้สีที่ใกล้เคียงกับที่ทางทีมงานเราได้ทดสอบ โดยการปรับภาพจากแผ่น DVE ( Digital Video Essential ) สรุปได้ว่าโทนสีของภาพออกมา "ถูกต้อง" แนะนำว่าปรับ Brightness ไปประมาณ 53 และ Black Level เป็น High กำลังดีครับ ถ้าเป็น Low จะติด "ดำจม" รายละเอียดของภาพหายไปเล็กน้อย

ลองดูภาพจากโหมดต่างๆ ของ PW450 ครับว่าแตกต่างกันอย่างไร
สำหรับ PW450 นั้นใช้เทคโนโลยี "Protective Skin Glass" นั่นคือการลดช่องว่างระหว่างกระจกบานนอกและบานใน การทำแบบนี้จะช่วย ลดการสะท้อนลงได้ในระดับหนึ่งรวมทั้งลดการเกิดภาพซ้อนด้วย ซึ่งทาง G ได้ใช้เทคโนโลยีนี้มานานแล้ว

ทดสอบกับไฟล์ Full RIP 1080p อย่างเรื่อง AVARTAR ที่ถือเป็นมาตรฐานในการทดสอบ

ทดสอบการรับชมฟรีทีวี
ทีมงาน LCDTVTHAILAND ได้ทดสอบรับชมฟรีทีวีจากเครื่อง DTV ซึ่งโหมดภาพที่ใช้ในการทดสอบก็คือโหมด ISF Expert 1 สีที่ได้ออกมาค่อนข้างตรงตามมาตรฐาน ซึ่งจากการทดสอบที่ผ่านมา Plasma TV บางรุ่นจะมีการติดสีโทนแดงออกมาให้เห็น สังเกตุได้จากหน้าคน แต่สำหรับค่าที่ปรับมาจากโรงงาน LG PW450 ตัวนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโหมด ISF ให้สีที่มีความ "ถูกต้อง" หรือโหมด Standard ที่ให้สีที่มีความสด "ถูกใจ" ภาพที่ได้จากทีวีก็ออกนวลๆ สบายตา เหมาะกับการนั่งดูในห้องนอน ไม่ปวดตา

ภาพจากฟรีทีวี "แมนนี่ ปาเกียว" ป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกครั้ง

ในขณะเดียวกันสีสันอย่างสีแดง น้ำเงิน เหลือง ก็แสดงผลออกมาได้สดไม่ผิดเพี้ยน

สังเกตุจากสีตัวของ ปาเกียว จะไม่ติดโทนแดงหรือโทนสีอื่นๆมาให้เห็น
ทดสอบกับหนัง Hi-Def
สำหรับหนังแบบ Hi-Def นั้นผมได้ทดสอบทั้งไฟล์ Full RIP เรื่อง G-Force ( เหตุผลที่มี แบคบาร์ ด้านบนและล่างก็เพราะ อัตราส่วนของทีวีนั้นเป็น 16:9 แต่หนังมาเป็น 2.35 :1 ครับ ) แนะนำว่าสำหรับ Plasma TV นั้นควรจะดูให้เต็มจอ ใช้ทุกพิกเซล เพื่ออายุการใช้งานของแต่ละส่วนจะได้เท่ากันครับ เข้าเรื่องกันต่อ ภาพที่ได้นั้นมีความลื่นไหลดีตามปกติของทีวี 50/60Hz ครับ รวมไปถึงฉากที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ บางฉากที่เคยใช้ทดสอบกับ LCD TV นั้นมี Ghost โผล่มาให้เห็น แต่สำหรับพลาสม่า จิบชาร้องเพลงได้อย่างชิวๆ เช่นฉากกระโดดร่มของ Transformer 2 ที่ทางทีมงานได้เคยทดสอบให้เห็นกับตาในงาน BAV เมื่อต้นปีที่ผ่านมาครับ

ภาพออกมาคมชัดสำหรับไฟล์ Full Rip

อีกหนึ่งจุดเด่นคือเรื่องของ Noise ครับ โดยขณะทดสอบไม่ได้เปิดฟังก์ชั่น Noise Reduction ไว้ แต่ก็ไม่ได้มี Noise โผล่ออกมารบกวนใจ
ทดสอบ Black Level ด้วย Content พระจันทร์คืนเดือนมืดของ Pioneer กันครับ ผลที่ได้ออกมาไม่เสียชื่อ Plasma TV ด้วยความดำที่แสดงออกมาได้อย่างดี แต่แนะนำว่าสภาพแสงในห้องนั้นควรจะคุมให้ได้ และมุมมองในการรับชมควรอยู่ตรงกลางจอภาพจะช่วยให้ความเด่นของมันเพิ่มมาก ขึ้นอีกครับ
มาถึงเรื่องของภาพกันต่อครับ ในหน้าที่แล้วเราพูดกันในเรื่องของภาพ 2D ไปแล้ว เราจะมาเจาะลึกกันในจุดเด่นของ PW450 นั่นคือ การเล่นไฟล์ 3D และการปรับภาพจาก 2D เป็น 3D นั่นเอง อย่างที่กล่าวไปตอนแรกแว่นของ PW450 คือแบบ Active Shutter Glasses นะครับ สามารถรองรับ 3D แบบ Frame Pack , Side by Side และ Top and Bottom ได้เช่นกัน
2D>3D
สำหรับการแปลงภาพ 2D เป็น 3D นั้น สามารถปรับความลึก "Depth" ได้โดยกด 3D Setting บนรีโมท หรือในเมนู 3D โดยรวมแล้วภาพยังมีการ "ลอย" ออกมาแต่ไม่"เด่นชัด"เท่ารุ่นพี่อย่าง LW6500 Cinema 3D จะเน้นไปที่การทำให้รายละเอียดตามขอบมีความคมชัดขึ้น ความสว่างของภาพโดยรวม ลดลงไปเล็กน้อยหลังจากแว่นซิงค์เข้ากับทีวี

ก่อนอื่นเริ่มจากต่อเครื่องเกมส์ PlayStation 3 เกมส์ Street Fighter IV เป็น 2D

เครื่องพร้อม แว่นพร้อม คนพร้อม กดปุ่ม 3D จากรีโมทได้เลยครับ จะมีให้เลือก 2D >3D

เมื่อปรับเป็น 3D แล้วสามารถปรับ Depth ได้
3D
เมื่อทดสอบกับไฟล์ 3D แท้ๆแบบ Framepack ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันกับการ แปลง 2D > 3D มาก โดยภาพที่ออกมานั้นมีมิติมากขึ้น ยังไม่มี Noise มารบกวนใจ แต่การลอยของภาพ ที่มากขึ้นโดยจะเห็นได้ชัดเช่นในฉากเลือกเมนูต่างๆ หรือฉากที่โฟกัสไปที่ตัว วัตถุ ส่วนเรื่องการปรับ viewpoint นั้นผมแนะนำให้ใช้ค่าเดิมที่ตั้งมาตอนแรก ถ้าปรับไปทางซ้ายหรือ ขวามากไปจะทำให้มี Cross Talk มาให้เห็นครับ สำหรับค่าความลึกนั้นถ้า เป็น 3D แท้จะปรับไม่ได้นะครับ จากการทดสอบทั้งเรื่อง Cloudy with a Chance of Meatballs ตัวละครนั้นเรียกได้ว่า "คม ชัด ลึก" ไม่มีการกระพริบของภาพให้ เห็น ในฉากที่มีตัวละครยืนกันเยอะๆ (ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง) จะเห็นได้ ชัดเจน ส่วนเรื่อง Resident Evil 3D นั้น ฉากทีต่อสู้กับตัวร้ายมีกระสุนลอย ไปมา ทำออกมาได้ดี ความสว่างดรอปลงจาก 2D เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สรุปโดยรวม แล้วน่าพอใจมากสำหรับ PW450 ครับ

ฉากนี้มีการโฟกัสไปที่ตัวละครอย่างชัดเจน

เมื่อปรับเป็น 3D ภาพจะมีมิติขึ้นมาชัดเจน

ฉากนี้เป็นฉากที่ดูความชัดลึกได้ดี เนื่องจากตำแหน่งการยืนที่เป็นลำดับหน้าหลัง

Cloudy with a Chance of Meatballs การ์ตูน 3D อีกเรื่องที่น่าลองกับ PW450

สำหรับ Dynamic Contrast นั้นถ้าปรับเป็น High ภาพจะสว่าง(จนเกินไป)
รายละเอียดในมุมมืดๆจะออกมาให้เห็น ตรงจุดนี้ผมแนะนำปรับเป็น off จะดีที่สุดครับ ให้สีที่เป็นธรรมชาติ
เพราะด้วยธรรมชาติของ Plasma TV จะสามารถเปิดปิดเม็ด Pixel ได้อย่างอิสระแล้ว
ไม่ติดดำจมจนต้องเร่ง Dynamic Contrast เหมือน LCD TV

ตัวอย่าง 3D แบบ Side by side

กดรวมกันแล้วก็แสดงผลเป็น 3D ได้ทันที

เรื่อง Clash of the Titans เป็น 3D แท้

ฉากนี้จะดูเด่นชัดสังเกตจากน้ำที่กระเด็นขึ้นมา

เสียงของ PW450 นั้นมีมาให้ทั้งหมด 5 โหมดด้วยกัน ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามการรับชม ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะสมและตามความชอบได้เลยครับ และข้อดีของ PW450 คือเราสามารถปรับค่าของเสียงได้อย่างละเอียดในโหมดเสียง Standard ไม่ว่าจะเป็นเสียง Bass เสียง Treble หรือฟังก์ชั่นที่ใช้ยกระดับเสียงพูดให้เด่นชัดชึ้นมาอย่าง Clear Voice II ที่จะเลือกเปิด/ปิด และเลือกระดับได้ตั้งแต่ -6 ถึง +6 นอกจากนั้นยังมี Infinite Surround ที่ให้เสียงที่โอบล้อมจากด้านหน้า แต่ต้องอาศัยการตั้งในห้องที่มีกำแพงสะท้อนเสียงด้านข้างเข้ามาให้เราได้ยิน ด้วย ไม่เช่นนั้นเสียงจะกระจายหายเข้ากลีบเมฆไปเลย
Sound Mode
- Standard
- Music
- Cinema
- Sport
- Game

โหมดเสียงต่างๆของ PW450

Infinite Surround เปิดให้เป็น On ไว้ช่วยเรื่องมิติของเสียงที่มีความโอบล้อมได้ดีขึ้น

ช่องต่อของ PW450 มีอะไรบ้างนั้นเรามาชมกันดีกว่าครับ เริ่มจากด้านหลังก็คือ ช่องต่อ Component และ AV รวมทั้ง HDMI จำนวน 2 ช่อง RGB , RS232 , Optical และ สายอากาศ RF ส่วนทางด้านข้างที่เหลือจะมี AV , HDMI และสุดท้ายคือ USB ครับ

แผงช่องต่อด้านหลัง PW450 ครับ

และถัดมาคือช่องต่อด้านข้างเพื่อความสะดวกในการใช้งาน

Energy Saving - Intelligent Sensor
สำหรับโหมดประหยัดไฟของ LG PW450 นั้นจะใช้ Intelligent Sensor เข้ามาช่วยในด้านการตรวจจับแสงสว่างแล้วทำการ Dim แบคไลท์ลงไป ทำให้ภาพดูมืดลง เช่นเวลาอยู่ในห้องนอน จะไม่ปวดตาและยังช่วยประหยัดพลังงานลงไปได้มากทีเดียว หรือจะเลือกระดับของ Energy Saving เองก็ได้ ตั้งแต่ Minimum Medium ไปจนถึงระดับ Maximum ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานลงไปได้ครึ่งนึง

ภาพเปรียบเทียบการใช้ Energy Saving แต่ละแบบ
USB : Media Player
LG PW450 นั้นสามารถรองรับการเล่นไฟล์หนัง รูปถ่ายหรือเพลงผ่านทาง USB ได้ด้วย โดยถ้ามีการต่อเข้าทางช่องเสียบด้านข้าง ก็จะโชว์เมนูขึ้นมาให้เลือก หลังจากนั้นก็เข้าเลือกชมได้เลย ( สามารถต่อผ่าน External Harddisk 2.5 ได้ ) สำหรับการเล่นไฟล์ Movie ไม่ว่าจะเป็น AVI หรือ DAT หรือไฟล์ MKV ก็รองรับ เราสามารถควบคุมโดยใช้ปุ่ม Play , Pause , Stop และอื่นๆ บนตัวรีโมท

หน้าเมนูเวลาต่อ USB เข้ามา

ทดสอบด้วยไฟล์ AVI สามารถเล่นได้ไม่มีอาการกระตุก

ไฟล์ MKV 1080p อย่างเรื่อง Speed Racer ก็สามารถเล่นได้อย่างราบรื่น
และเมนูบาร์ด้านล่างก็ควบคุมได้ผ่านรีโมทคอนโทรล

และถัดมาก็คือการเล่นไฟล์เพลง MP3
ไฟล์รูปนั้นเราสามารถทำ Slideshow รวมทั้งใส่ดนตรีประกอบได้ด้วย
ซึ่งรองรับไฟล์นามสกุลสำคัญๆไว้ครบ
Image Sticking Minimization (ISM) Method
เรียกกันตามภาษา"ชาวบ้าน" ก็คือโหมดป้องกันการ "เบิร์น" หรืออาการภาพค้างติดหน้าจอของ Plasma TV นั่นเอง ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 โหมดหลักๆก็คือ Orbiter,Colour Wash และ White Wash นั่นเอง โดยส่วนตัวแล้วผมแนะนำให้ปรับไว้ที่ Orbiter ตลอดนะครับ แต่ละโหมดมีหน้าที่อะไรบ้างมาชมกัน
1. Orbiter - โหมดนี้ตัวพิกเซลจะทำการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีพิกเซลตัวไหนที่ใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกิดการเบิร์นได้ ซึ่งจะทำการขยับขึ้นลงซ้ายขวา โดยที่เราแทบจะสังเกตไม่เห็น
2. Colour Wash - โหมดนี้จะเป็นทำการใช้สีสลับกันไประหว่างสี Cyan, Magenta, Yellow, White ดังเช่นในรูปด้านล่าง เพื่อเป็นการล้างอาการ "ภาพค้างติดหน้าจอ" ไปในตัว
3. White Wash - โหมดนี้จะเปิดพิกเซลให้แสดงสีขาวล้วนทั้งหน้าจอ เพื่อเป็นการล้างหน้าจอหากเกิดอาการภาพค้างติดหน้าจอ อีกทั้งยังช่วยให้เราเห็นได้ง่ายขึ้นว่ามีพิกเซลไหนแสดงผลเป็น Dead Pixel ด้วย

โหมด Colour Wash ช่วยล้างอาการภาพค้างติดหน้าจอ

สุดท้ายถ้ากล่าวโดยสรุปถึง 3D Plasma TV 42PW450 แล้วนั้นต้องถามถึงความต้องการใช้งานก่อนว่าท่านกำลังมองหาทีวี 3D มีขนาดจอ ใหญ่ ในราคาไม่แพง หรือไม่ ถ้าใช่เจ้า PW450 ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะกับคุณแล้ว เพราะการตอบสนองในด้าน 3D นั้นถือว่าน่าใช้งานคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป แต่ถ้าต้องการความละเอียดที่เป็น Full HD คุณอาจจะต้องมองเป็น 3D LED TV เช่น LW6500 แทน แต่ก็ต้องใช้งบประมาณที่มากกว่า หรือถ้ายังไม่ต้องการฟังก์ชั่น 3D ก็อาจะเป็น Plasma TV รุ่นล่างเช่น PT350 ในราคาที่ถูกกว่าพอสมควร แต่ทั้งนี้ด้วยความเป็น PW450 ผมเชื่อว่าคนที่ได้สัมผัสต้องติดใจแน่นอน
สรุปข้อดีของ LG 42PW450
1. เป็น Plasma TV ที่รองรับระบบ 3D ในราคาที่คุ้มค่า
2. มีโหมดภาพให้เลือกใช้มากมาย รวมถึงโหมด ISF (Imaging Science Foundation) จากสถาบันปรับภาพระดับโลก ให้สีของภาพที่มีความถูกต้อง
3. ดีไซน์บางหรูหรา และสีที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆที่ใช้แต่สีดำเงา ทำให้ตัวเครื่องมีความแปลกใหม่
สรุปข้อเสียของ LG 42PW450
1. ความละเอียดของจอภาพยังไม่เป็น Full HD 1920 x 1080
2. การปรับภาพ 2D ให้มาเป็น 3D ยังไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมาก
3. ขาดฟังก์ชั่น Internet ที่ถือเป็นจุดเด่นของทีวีในปี 2011 นี้
ที่มา : lcdtvthailand

LG PW450 3D Plasma TV

แรกเริ่มเดิมทีเราเริ่มกันที่ Design รูปลักษณ์ภายนอก จนถึงวันนี้เราก็ยังเริ่มต้นกันที่หัวข้อเดิมครับ !! เพราะบางท่านอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ที่จะเป็นเจ้าของเจ้า PW450 ตัวนี้หรือไม่ พอได้ชมรูปหลายๆมุมน่าจะหลงไหลเข้าไปอีก ด้วยสีของเจ้า Plasma PW450 นี้อาจจะแตกต่างกับยี่ห้อคู่แข่งที่ส่วนมากจะเห็นแต่สีดำเงา เจ้า PW450 มาพร้อมกับสีเทาควันบุหรี่ ดูแปลกตาออกไป แต่ยอมรับว่าสวยงามน่าจับต้องทีเดียว ความทนทานของวัสดุหลังจากที่ได้จับดูแล้วไม่เป็นรอยขีดข่วนง่ายๆแน่นอน ด้านความบางเทียบกับ Plasma ก็ถือว่าบางทีเดียว แต่ไม่ถึงขนาด LED TV นะครับ เรียกได้ว่า "ผอมแบบมีน้ำมีนวล" น่าค้นหามากกว่า
มาดูกันที่แผงควบคุมบนตัวเครื่องเป็นระบบ "สัมผัส" ทั้งหมด เอานิ้วแตะเบาๆก็ใช้ได้แล้ว
พื้นผิวสีเทาด้านออกไปทางสว่างเล็กน้อย ขาตั้งเป็นพลาสติกดำเงา รูปทรงสี่เหลี่ยม
แวะเวียนมาดูความบางของ PW450 กันชัดๆ
ด้านหลังแอบวับๆแวมๆ เล็กน้อย ด้วยช่องระบายความร้อนที่ดูโปร่ง ซึ่งก็ทำได้ดี
เพราะความร้อนในการใช้งานของ Plasma TV นั้นสูงอยู่แล้ว
พอร์ตเชื่อมต่อด้านหลังตัวเครื่อง ให้มาครบตรงตามสเปคที่ระบุไว้
ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในทุกๆรูปแบบ
พอร์ตด้านข้างมีทั้ง HDMI USB และ AV
แว่นสามมิติที่มากับตัวเครื่องเป็นแบบ Active Shutter Glasses รุ่น S250
หน้าตาแบบนี้ครับ สำหรับแว่น 3D ของเจ้า PW450
มาถึงรีโมทกันบ้าง มาในสีดำเงา ขนาดพอดีมือ เช่นเดียวกับรุ่นอื่นๆ
ตัวเลขบนปุ่มยางนั้นก็มีขนาดใหญ่ มองเห็นชัดเจน
สรุปเรื่องดีไซน์ของ LG 42PW450
สำหรับดีไซน์ของ PW450 ที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดคือ "สี" มองดูแล้วให้ความสว่างไม่มืดครึ้มเหมือนตัวอื่นแน่นอน แนวการวางของปุ่มกดระบบ "สัมผัส" ที่วางมามุมล่างขวาของจอนั้นใช้งานได้ง่ายดี ระดับการสะท้อนของตัวนี้เทียบแล้วก็พอๆกับ PJ350 ครับ มี Protective Skin Glass ช่วยลดการสะท้อนในระดับหนึ่ง ทดสอบในห้องที่คุมแสงได้ ตอนกลางวันกับกลางคืนไม่ต่างกัน แต่ห้องที่คุมแสงไม่ได้ เวลากลางวันอาจจะมีสะท้อนให้เห็นพอควร เรื่องความ บางของขอบก็ยังใช้นิยามของ "Razor Frame" กรอบบางได้ใจอยู่เช่นเคย การระบายความร้อนหน้าจอกับด้านหลังทำได้ดีทีเดียว เพราะช่องระบายอากาศด้านหลังมีเยอะ โดยรวมแล้ว PW450 ก็ยังเป็น ตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหา Plasma TV มาใช้งานในปี 2011 นี้ครับ

มาถึงเรื่องของภาพกัน ครับ เจ้า LG PW450 เป็น Plasma TV ที่สามารถรองรับระบบ 3D แบบ Active นะครับทำงานคู่กับแว่นแบบ Active Shutter Glasses ยังไม่ใช่ Cinema 3D แบบ FPR มีความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1024 x 768 เท่ากับ Plasma TV ขนาด 42-43 นิ้วในแบรนด์อื่นๆ และในขนาด 50 นิ้วจะมีความละเอียดเท่ากับ 1365 x 768 แต่สามารถรองรับไฟล์ Full RIP ได้อย่างสบายๆ โดยชิพประมวลผลนั้นเป็น 3D XD Engine
Picture Mode - โหมดภาพของ LG PW450 นั้นมีให้เลือกเยอะทีเดียว
Vivid - เร่งสีสันของภาพให้ออกมาจัดจ้านกว่าปกติ ส่วนมากเราจะเห็นเวลาโชว์ตามร้านขายทีวี
Standard - โหมดนี้ผมแนะนำไว้เลยครับ ค่าปกติที่มาจากโรงงานก็ทำได้ดี ไม่ผิดเพี้ยน
APS - หรือ Auto Power Save โหมดนี้จะเปลี่ยนไปใช้ Intelligent Sensor ช่วยในการประหยัดไฟ
Cinema - เหมาะสำหรับชมภาพยนต์ จะลดค่า Contrast และ Sharpness ลง ดูแล้วสบายตา
Sport - เหมาะสำหรับชมการแข่งขันกีฬาต่างๆ โดยจะเพิ่มค่า Colour มากขึ้นจากโหมด Standard
Game - เหมาะสำหรับเล่นเกมส์ต่างๆ
ISF Expert - โหมดภาพ ISF เป็นอีกหนึ่งโหมดที่ผมแนะนำให้ใช้ครับ ค่าที่ปรับมานั้น ให้สีที่ใกล้เคียงกับที่ทางทีมงานเราได้ทดสอบ โดยการปรับภาพจากแผ่น DVE ( Digital Video Essential ) สรุปได้ว่าโทนสีของภาพออกมา "ถูกต้อง" แนะนำว่าปรับ Brightness ไปประมาณ 53 และ Black Level เป็น High กำลังดีครับ ถ้าเป็น Low จะติด "ดำจม" รายละเอียดของภาพหายไปเล็กน้อย

ลองดูภาพจากโหมดต่างๆ ของ PW450 ครับว่าแตกต่างกันอย่างไร
สำหรับ PW450 นั้นใช้เทคโนโลยี "Protective Skin Glass" นั่นคือการลดช่องว่างระหว่างกระจกบานนอกและบานใน การทำแบบนี้จะช่วย ลดการสะท้อนลงได้ในระดับหนึ่งรวมทั้งลดการเกิดภาพซ้อนด้วย ซึ่งทาง G ได้ใช้เทคโนโลยีนี้มานานแล้ว
ทดสอบกับไฟล์ Full RIP 1080p อย่างเรื่อง AVARTAR ที่ถือเป็นมาตรฐานในการทดสอบ
ทดสอบการรับชมฟรีทีวี
ทีมงาน LCDTVTHAILAND ได้ทดสอบรับชมฟรีทีวีจากเครื่อง DTV ซึ่งโหมดภาพที่ใช้ในการทดสอบก็คือโหมด ISF Expert 1 สีที่ได้ออกมาค่อนข้างตรงตามมาตรฐาน ซึ่งจากการทดสอบที่ผ่านมา Plasma TV บางรุ่นจะมีการติดสีโทนแดงออกมาให้เห็น สังเกตุได้จากหน้าคน แต่สำหรับค่าที่ปรับมาจากโรงงาน LG PW450 ตัวนี้ทำออกมาได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโหมด ISF ให้สีที่มีความ "ถูกต้อง" หรือโหมด Standard ที่ให้สีที่มีความสด "ถูกใจ" ภาพที่ได้จากทีวีก็ออกนวลๆ สบายตา เหมาะกับการนั่งดูในห้องนอน ไม่ปวดตา
ภาพจากฟรีทีวี "แมนนี่ ปาเกียว" ป้องกันแชมป์ไว้ได้อีกครั้ง
ในขณะเดียวกันสีสันอย่างสีแดง น้ำเงิน เหลือง ก็แสดงผลออกมาได้สดไม่ผิดเพี้ยน
สังเกตุจากสีตัวของ ปาเกียว จะไม่ติดโทนแดงหรือโทนสีอื่นๆมาให้เห็น
ทดสอบกับหนัง Hi-Def
สำหรับหนังแบบ Hi-Def นั้นผมได้ทดสอบทั้งไฟล์ Full RIP เรื่อง G-Force ( เหตุผลที่มี แบคบาร์ ด้านบนและล่างก็เพราะ อัตราส่วนของทีวีนั้นเป็น 16:9 แต่หนังมาเป็น 2.35 :1 ครับ ) แนะนำว่าสำหรับ Plasma TV นั้นควรจะดูให้เต็มจอ ใช้ทุกพิกเซล เพื่ออายุการใช้งานของแต่ละส่วนจะได้เท่ากันครับ เข้าเรื่องกันต่อ ภาพที่ได้นั้นมีความลื่นไหลดีตามปกติของทีวี 50/60Hz ครับ รวมไปถึงฉากที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ บางฉากที่เคยใช้ทดสอบกับ LCD TV นั้นมี Ghost โผล่มาให้เห็น แต่สำหรับพลาสม่า จิบชาร้องเพลงได้อย่างชิวๆ เช่นฉากกระโดดร่มของ Transformer 2 ที่ทางทีมงานได้เคยทดสอบให้เห็นกับตาในงาน BAV เมื่อต้นปีที่ผ่านมาครับ
ภาพออกมาคมชัดสำหรับไฟล์ Full Rip
อีกหนึ่งจุดเด่นคือเรื่องของ Noise ครับ โดยขณะทดสอบไม่ได้เปิดฟังก์ชั่น Noise Reduction ไว้ แต่ก็ไม่ได้มี Noise โผล่ออกมารบกวนใจ
ทดสอบ Black Level ด้วย Content พระจันทร์คืนเดือนมืดของ Pioneer กันครับ ผลที่ได้ออกมาไม่เสียชื่อ Plasma TV ด้วยความดำที่แสดงออกมาได้อย่างดี แต่แนะนำว่าสภาพแสงในห้องนั้นควรจะคุมให้ได้ และมุมมองในการรับชมควรอยู่ตรงกลางจอภาพจะช่วยให้ความเด่นของมันเพิ่มมาก ขึ้นอีกครับ
มาถึงเรื่องของภาพกันต่อครับ ในหน้าที่แล้วเราพูดกันในเรื่องของภาพ 2D ไปแล้ว เราจะมาเจาะลึกกันในจุดเด่นของ PW450 นั่นคือ การเล่นไฟล์ 3D และการปรับภาพจาก 2D เป็น 3D นั่นเอง อย่างที่กล่าวไปตอนแรกแว่นของ PW450 คือแบบ Active Shutter Glasses นะครับ สามารถรองรับ 3D แบบ Frame Pack , Side by Side และ Top and Bottom ได้เช่นกัน
2D>3D
สำหรับการแปลงภาพ 2D เป็น 3D นั้น สามารถปรับความลึก "Depth" ได้โดยกด 3D Setting บนรีโมท หรือในเมนู 3D โดยรวมแล้วภาพยังมีการ "ลอย" ออกมาแต่ไม่"เด่นชัด"เท่ารุ่นพี่อย่าง LW6500 Cinema 3D จะเน้นไปที่การทำให้รายละเอียดตามขอบมีความคมชัดขึ้น ความสว่างของภาพโดยรวม ลดลงไปเล็กน้อยหลังจากแว่นซิงค์เข้ากับทีวี
ก่อนอื่นเริ่มจากต่อเครื่องเกมส์ PlayStation 3 เกมส์ Street Fighter IV เป็น 2D
เครื่องพร้อม แว่นพร้อม คนพร้อม กดปุ่ม 3D จากรีโมทได้เลยครับ จะมีให้เลือก 2D >3D
เมื่อปรับเป็น 3D แล้วสามารถปรับ Depth ได้
3D
เมื่อทดสอบกับไฟล์ 3D แท้ๆแบบ Framepack ให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันกับการ แปลง 2D > 3D มาก โดยภาพที่ออกมานั้นมีมิติมากขึ้น ยังไม่มี Noise มารบกวนใจ แต่การลอยของภาพ ที่มากขึ้นโดยจะเห็นได้ชัดเช่นในฉากเลือกเมนูต่างๆ หรือฉากที่โฟกัสไปที่ตัว วัตถุ ส่วนเรื่องการปรับ viewpoint นั้นผมแนะนำให้ใช้ค่าเดิมที่ตั้งมาตอนแรก ถ้าปรับไปทางซ้ายหรือ ขวามากไปจะทำให้มี Cross Talk มาให้เห็นครับ สำหรับค่าความลึกนั้นถ้า เป็น 3D แท้จะปรับไม่ได้นะครับ จากการทดสอบทั้งเรื่อง Cloudy with a Chance of Meatballs ตัวละครนั้นเรียกได้ว่า "คม ชัด ลึก" ไม่มีการกระพริบของภาพให้ เห็น ในฉากที่มีตัวละครยืนกันเยอะๆ (ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง) จะเห็นได้ ชัดเจน ส่วนเรื่อง Resident Evil 3D นั้น ฉากทีต่อสู้กับตัวร้ายมีกระสุนลอย ไปมา ทำออกมาได้ดี ความสว่างดรอปลงจาก 2D เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สรุปโดยรวม แล้วน่าพอใจมากสำหรับ PW450 ครับ
ฉากนี้มีการโฟกัสไปที่ตัวละครอย่างชัดเจน
เมื่อปรับเป็น 3D ภาพจะมีมิติขึ้นมาชัดเจน
ฉากนี้เป็นฉากที่ดูความชัดลึกได้ดี เนื่องจากตำแหน่งการยืนที่เป็นลำดับหน้าหลัง
Cloudy with a Chance of Meatballs การ์ตูน 3D อีกเรื่องที่น่าลองกับ PW450

สำหรับ Dynamic Contrast นั้นถ้าปรับเป็น High ภาพจะสว่าง(จนเกินไป)
รายละเอียดในมุมมืดๆจะออกมาให้เห็น ตรงจุดนี้ผมแนะนำปรับเป็น off จะดีที่สุดครับ ให้สีที่เป็นธรรมชาติ
เพราะด้วยธรรมชาติของ Plasma TV จะสามารถเปิดปิดเม็ด Pixel ได้อย่างอิสระแล้ว
ไม่ติดดำจมจนต้องเร่ง Dynamic Contrast เหมือน LCD TV
ตัวอย่าง 3D แบบ Side by side
กดรวมกันแล้วก็แสดงผลเป็น 3D ได้ทันที
เรื่อง Clash of the Titans เป็น 3D แท้
ฉากนี้จะดูเด่นชัดสังเกตจากน้ำที่กระเด็นขึ้นมา

เสียงของ PW450 นั้นมีมาให้ทั้งหมด 5 โหมดด้วยกัน ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามการรับชม ดังนั้นควรเลือกให้เหมาะสมและตามความชอบได้เลยครับ และข้อดีของ PW450 คือเราสามารถปรับค่าของเสียงได้อย่างละเอียดในโหมดเสียง Standard ไม่ว่าจะเป็นเสียง Bass เสียง Treble หรือฟังก์ชั่นที่ใช้ยกระดับเสียงพูดให้เด่นชัดชึ้นมาอย่าง Clear Voice II ที่จะเลือกเปิด/ปิด และเลือกระดับได้ตั้งแต่ -6 ถึง +6 นอกจากนั้นยังมี Infinite Surround ที่ให้เสียงที่โอบล้อมจากด้านหน้า แต่ต้องอาศัยการตั้งในห้องที่มีกำแพงสะท้อนเสียงด้านข้างเข้ามาให้เราได้ยิน ด้วย ไม่เช่นนั้นเสียงจะกระจายหายเข้ากลีบเมฆไปเลย
Sound Mode
- Standard
- Music
- Cinema
- Sport
- Game
โหมดเสียงต่างๆของ PW450
Infinite Surround เปิดให้เป็น On ไว้ช่วยเรื่องมิติของเสียงที่มีความโอบล้อมได้ดีขึ้น

ช่องต่อของ PW450 มีอะไรบ้างนั้นเรามาชมกันดีกว่าครับ เริ่มจากด้านหลังก็คือ ช่องต่อ Component และ AV รวมทั้ง HDMI จำนวน 2 ช่อง RGB , RS232 , Optical และ สายอากาศ RF ส่วนทางด้านข้างที่เหลือจะมี AV , HDMI และสุดท้ายคือ USB ครับ
แผงช่องต่อด้านหลัง PW450 ครับ
และถัดมาคือช่องต่อด้านข้างเพื่อความสะดวกในการใช้งาน

Energy Saving - Intelligent Sensor
สำหรับโหมดประหยัดไฟของ LG PW450 นั้นจะใช้ Intelligent Sensor เข้ามาช่วยในด้านการตรวจจับแสงสว่างแล้วทำการ Dim แบคไลท์ลงไป ทำให้ภาพดูมืดลง เช่นเวลาอยู่ในห้องนอน จะไม่ปวดตาและยังช่วยประหยัดพลังงานลงไปได้มากทีเดียว หรือจะเลือกระดับของ Energy Saving เองก็ได้ ตั้งแต่ Minimum Medium ไปจนถึงระดับ Maximum ซึ่งสามารถลดการใช้พลังงานลงไปได้ครึ่งนึง

ภาพเปรียบเทียบการใช้ Energy Saving แต่ละแบบ
USB : Media Player
LG PW450 นั้นสามารถรองรับการเล่นไฟล์หนัง รูปถ่ายหรือเพลงผ่านทาง USB ได้ด้วย โดยถ้ามีการต่อเข้าทางช่องเสียบด้านข้าง ก็จะโชว์เมนูขึ้นมาให้เลือก หลังจากนั้นก็เข้าเลือกชมได้เลย ( สามารถต่อผ่าน External Harddisk 2.5 ได้ ) สำหรับการเล่นไฟล์ Movie ไม่ว่าจะเป็น AVI หรือ DAT หรือไฟล์ MKV ก็รองรับ เราสามารถควบคุมโดยใช้ปุ่ม Play , Pause , Stop และอื่นๆ บนตัวรีโมท
หน้าเมนูเวลาต่อ USB เข้ามา
ทดสอบด้วยไฟล์ AVI สามารถเล่นได้ไม่มีอาการกระตุก
ไฟล์ MKV 1080p อย่างเรื่อง Speed Racer ก็สามารถเล่นได้อย่างราบรื่น
และเมนูบาร์ด้านล่างก็ควบคุมได้ผ่านรีโมทคอนโทรล
และถัดมาก็คือการเล่นไฟล์เพลง MP3
ซึ่งรองรับไฟล์นามสกุลสำคัญๆไว้ครบ
Image Sticking Minimization (ISM) Method
เรียกกันตามภาษา"ชาวบ้าน" ก็คือโหมดป้องกันการ "เบิร์น" หรืออาการภาพค้างติดหน้าจอของ Plasma TV นั่นเอง ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 โหมดหลักๆก็คือ Orbiter,Colour Wash และ White Wash นั่นเอง โดยส่วนตัวแล้วผมแนะนำให้ปรับไว้ที่ Orbiter ตลอดนะครับ แต่ละโหมดมีหน้าที่อะไรบ้างมาชมกัน
1. Orbiter - โหมดนี้ตัวพิกเซลจะทำการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีพิกเซลตัวไหนที่ใช้งานติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกิดการเบิร์นได้ ซึ่งจะทำการขยับขึ้นลงซ้ายขวา โดยที่เราแทบจะสังเกตไม่เห็น
2. Colour Wash - โหมดนี้จะเป็นทำการใช้สีสลับกันไประหว่างสี Cyan, Magenta, Yellow, White ดังเช่นในรูปด้านล่าง เพื่อเป็นการล้างอาการ "ภาพค้างติดหน้าจอ" ไปในตัว
3. White Wash - โหมดนี้จะเปิดพิกเซลให้แสดงสีขาวล้วนทั้งหน้าจอ เพื่อเป็นการล้างหน้าจอหากเกิดอาการภาพค้างติดหน้าจอ อีกทั้งยังช่วยให้เราเห็นได้ง่ายขึ้นว่ามีพิกเซลไหนแสดงผลเป็น Dead Pixel ด้วย
โหมด Colour Wash ช่วยล้างอาการภาพค้างติดหน้าจอ

สุดท้ายถ้ากล่าวโดยสรุปถึง 3D Plasma TV 42PW450 แล้วนั้นต้องถามถึงความต้องการใช้งานก่อนว่าท่านกำลังมองหาทีวี 3D มีขนาดจอ ใหญ่ ในราคาไม่แพง หรือไม่ ถ้าใช่เจ้า PW450 ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะกับคุณแล้ว เพราะการตอบสนองในด้าน 3D นั้นถือว่าน่าใช้งานคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป แต่ถ้าต้องการความละเอียดที่เป็น Full HD คุณอาจจะต้องมองเป็น 3D LED TV เช่น LW6500 แทน แต่ก็ต้องใช้งบประมาณที่มากกว่า หรือถ้ายังไม่ต้องการฟังก์ชั่น 3D ก็อาจะเป็น Plasma TV รุ่นล่างเช่น PT350 ในราคาที่ถูกกว่าพอสมควร แต่ทั้งนี้ด้วยความเป็น PW450 ผมเชื่อว่าคนที่ได้สัมผัสต้องติดใจแน่นอน
สรุปข้อดีของ LG 42PW450
1. เป็น Plasma TV ที่รองรับระบบ 3D ในราคาที่คุ้มค่า
2. มีโหมดภาพให้เลือกใช้มากมาย รวมถึงโหมด ISF (Imaging Science Foundation) จากสถาบันปรับภาพระดับโลก ให้สีของภาพที่มีความถูกต้อง
3. ดีไซน์บางหรูหรา และสีที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆที่ใช้แต่สีดำเงา ทำให้ตัวเครื่องมีความแปลกใหม่
สรุปข้อเสียของ LG 42PW450
1. ความละเอียดของจอภาพยังไม่เป็น Full HD 1920 x 1080
2. การปรับภาพ 2D ให้มาเป็น 3D ยังไม่ค่อยมีความแตกต่างกันมาก
3. ขาดฟังก์ชั่น Internet ที่ถือเป็นจุดเด่นของทีวีในปี 2011 นี้
ที่มา : lcdtvthailand
Comment