Tweet
เหลืองสด!!! รีวิว Sharp 52 LE820 ภาพสีสด พร้อม RGB+Y ในแต่ละพิกเซล
เหลืองสด!!! รีวิว Sharp 52 LE820 ภาพสีสด พร้อม RGB+Y ในแต่ละพิกเซล
เริ่มปีใหม่ 2011 กับ Edge LED TV จาก Sharp พร้อมเทคโนโลยีระดับโลก RGB+Y ที่เพิ่มสีเหลืองเข้ามาในแต่ละพิกเซล แค่เห็นว่ามีสีเหลืองเพิ่มเข้ามา ก็คงสงสัยว่าสีสันของภาพจะเป็นอย่างไร แล้วเวลาทำสีขาวมันจะเปิดครบทั้ง 4 สีหรือไม่ มาตามดูกันว่าสีเหลืองจะเด่นขนาดไหน
Brand Sharp
Model 52LE820
Size 52"
Type Edge LED TV
Resolution FHD 1920 x 1080
Contrast 5,000,000:1
Panel X-Gen Panel
HDMI Side (4)
Refresh rate 120/100 Hz Fine Motion Advanced
Price 94,990
สำหรับ Sharp LE820 มีให้เลือก 3 ขนาด 40", 46" และ 52" ดูจากสเป็คด้านบนแล้วถือว่าไม่ได้แตกต่างจากคู่แข่งมากนัก จะมีก็จอภาพแบบใหม่ X-Gen Panel ที่เพิ่มสีเหลืองเข้ามา คงได้บอกถึงลักษณะและสีสันของภาพหลังจากทดสอบกันอีกที...ว่าแล้วผมขอเริ่ม จาก "ดีไซน์" ก่อนละกัน
"ดีไซน์" ต้องเอ่ยปากชมก่อนเลยว่าดีไซน์ของ LE820 โดดเด่นกว่า Sharp รุ่นอื่นๆมาก โดยหน้าจอถูกดีไซน์เป็นกระจกแผ่นเดียวจนสุดขอบ ลักษณะเดียวกับ "LG INFINIA design" มีการเข้าขอบด้วยวัสดุเมทาลิค ดูแล้วทำให้ผมนึกถึง iPhone 3 ขนาดใหญ่ยักษ์ ด้านล่างตัดด้วยสีเงิน ฐานรองเป็นกระจกรับกับหน้าจอ โลโก้ SHARP ด้านล่างซ้ายออกไฟได้ ด้านล่างขวามีปุ่มกดแบบทัชสกรีน ด้านข้างให้ความบางมากกว่า Sharp ทุกรุ่นที่ผมได้สัมผัสมา โดยรวมถือว่า SHARP มีดีไซน์ที่ลงตัวทีเดียว
ด้านหน้าดีไซน์กระจกสุดขอบ เข้าขอบด้วยวัสดุเมทาลิค ตัดขอบล่างด้วยสีเงิน
ดีไซน์ Sharp LE820 VS iPhone 3 เหมือน iPhone ยักษ์
มองด้านข้างรู้สักได้ถึงความบาง และ แตกต่างจาก Sharp รุ่นอื่นๆ
ด้านหน้าล่างขวา ปุ่มกดแบบทัชสกรีน พร้อมจุดขายของเจ้า LE820
เน้น Industry's First 4 Primary Colour หรือ RGB + Y เพิ่มสีเหลืองมาอีกหนึ่งสี
Quattron :: 4 สี แดง เขียว น้ำเงิน เหลือง
ด้านหน้าล่างซ้าย มีโลโก้ SHARP ออกไฟได้ แต่ถ้ารำคาญก็สามารถเข้าไปปิดได้
ด้านหลังขวามือ เป็นส่วนของช่องต่อทั้งหมด
ด้านหลัง มีรูระบายอากาศเป็นแผงอยู่ด้านบน ถัดลงมากลมๆ เป็น Subwoofer
"รีโมท" ปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ มีปุ่มลัดมากมาย ชื่อฟังก์ชั่นส่วนใหญ่เรียกคล้าย LG
SHARP LE820 AQOUS ใช้หลอดไฟ LED แบบ Edge LED ที่เรียงหลอดแอลอีดีไว้ที่ขอบ ทำให้ตัวจอมีความบาง หน้าจอกระจกสุดขอบ X-Gen Panel ช่วยเพิ่มความคมชัด รวมกับเทคโนโลยีใหญ่ซึ่งเพิ่มสีเหลืองเข้าไปในแต่ละพิกเซล ช่วยเพิ่มสีสันให้สดขึ้น โดยเฉพาะสีเหลือง ความละเอียดหน้าจอระดับ Full HD 1920 x 1080 พร้อม Contrast สูงถึง 5,000,000:1 พร้อม 100/120 Hz Fine Motion Advanced ช่วยภาพเคลื่อนไหวให้ดีขึ้น
Industry's First 4 Primary Colour "Quattron"
โดยปกติในแต่ละพิกเซลของ LCD จะมีแม่สี 3 สี แดง เขียว น้ำเงิน ผสมกันในอัตราส่วนต่างๆให้เกิดสีสันมากมาย แต่ Sharp LE820 ได้เพิ่มสีเหลืองเข้าไปในแต่ละพิกเซลทำให้ภาพมีสีสวยสมจริง โดยเฉพาะสีเหลืองและเพิ่มความสว่างได้มากขึ้น
ในทุกพิกเซลจะมี 4 สี แดง เขียว น้ำเงิน และ "เหลือง"
Sharp LE820 เปรียบเทียบกับ Sharp รุ่นเก่า เห็นได้ชัดว่าภาพเดียวกัน
แต่ LE820 ด้านขวาให้สีเหลืองที่ "สดสว่างกว่า" อย่างเห็นได้ชัด
ซ้าย :: 3 สีผสมกันให้สีขาว ติดอมม่วงนิดหน่อย
ขวา :: 4 สีผสมกันสีขาวจะไบรท์กว่า ติดอมเหลืองนิดหน่อย
ส่วนของภาพ :: Wide Mode
เมื่อเปิดภาพจากเครื่องเล่น HD Media Player กับ Sharp LE820 สามารถเลือกส่วนของภาพได้ 2 แบบคือ Full (16:9) และ Dot by Dot (หรือ Just scan) แนะนำให้เปิด Dot by Dot ครับให้ภาพครบเต็มทุกพิกเซล แต่ถ้าเปิดจาก Free TV ผ่าน DTV ทางช่องต่อ AV จะมีส่วนของภาพให้เลือกมากกว่าตามรูปด้านล่างเลยครับ
DTV ผ่านช่องต่อ AV มีส่วนภาพให้เลือกเยอะมากกว่า
โหมดสำเร็จรูป :: AV Mode
Sharp LE820 มีโหมดสำเร็จรูป 9 โหมด User / PC / Game / Movie / Auto / Standard / Auto / Dynamic (Fixed) / Dynamic โหมดสำเร็จรูปต่างๆเหล่านี้เหมาะกับการใช้งานตามชื่อที่ระบุไว้ (ตามทฤษฏี) แต่ถ้าอยากรู้ว่าเราชอบแบบไหนก็ลองกดปุ่ม AV Mode ที่รีโมทปรับไปมา เพื่อหาโหมดที่เหมาะสมกับตัวคุณ
การกินไฟในโหมดต่างๆ
ก่อนเริ่มทดสอบผมจะปรับตั้งค่าต่างๆ ตามแผ่นทดสอบ DVE เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด ณ สภาพแวดล้อมในห้องทดสอบได้ค่าต่างๆ ดังนี้ครับ
Backlight +16
Contact +40
Brightness +30
Colour +30
Tint +30
Sharpness +10
หลังจากปรับภาพตามค่าด้านบนโทนภาพสีสันอิ่ม สีสดและมีความสว่าง แต่ความไบรท์อาจจะยังไม่ใสกิ๊ก เป็นรองแบรนด์เกาหลีอยู่นิดหน่อย การปรับภาพจะถือว่ายกระดับสีสันของภาพจากโหมด Standard ได้ดีครับ
ค่าภาพที่ได้จากหลังการปรับ
ทดสอบภาพเคลื่อนไหว
Sharp LE820 มีฟังก์ชั่นแทรกเฟรม 100Hz Fine Motion Advanced ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลขึ้น แถมตัวช่วยอีก 1 ตัว อย่าง Film Mode ช่วยเสริมทำให้ Content ทดสอบฉากแพนกล้องในห้องอาหารทำได้ดี มีกระตุกเล็กน้อยแต่เป็นไปอย่างธรรมชาติ
Fine Motion Advanced มี 3 ระดับ Off (ปิด) / Low (ต่ำ) / High (สูง)
Film Mode มี 4 ระดับ Off / Standard / Advanced (Low) / Advanced (High)
แนะนำเปิด Fine Motion Advanced ระดับ Low และ Film Mode ระดับ Standard เมื่อดูหนัง HD
ฉากแพนกล้องเปิด Fine Motion Advanced และ Film Mode สูงสุดทั้งคู่
ภาพกระตุกน้อยลง แต่วัตถุเคลื่อนไหวไม่เป็นธรรมชาติ
แนะนำเป็น Low และ Standard เวลาดูหนัง HD ก็เพียงพอ
ทดสอบกับเครื่องเล่น Blu-ray
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าตกใจครับ เมื่อผมต่อเครื่องเล่นบลูเรย์ Philips BDP7500 เข้ากับ Sharp LE820 ตัวทีวีสามารถรู้ได้ว่าเป็น "เครื่องเล่นบลูเรย์ Philips" รุ่น "BDP7500" ผมเลยลองต่อผ่าน AVR Onkyo ปรากฎว่าเจ้า Sharp LE820 ก็สามารถแสดงชื่อรุ่นได้ทุกต้องเหมือนเดิม โชว์ TX-SR608 ต้องยอมรับว่าเป็นทีวีตัวแรกและหนึ่งเดียวที่ "สามารถแสดงชื่อรุ่น" ของเครื่องเล่นต่างๆได้และถูกต้องซะด้วย
สำหรับแผ่นบลูเรย์เรื่อง "Avatar" ที่ได้ทดสอบ ภาพที่ได้ออกมาแสดงสีสันสด สว่าง ถ้าฉากใดมีสีเหลือง สีเหลืองจะสดเข้มขึ้นมา
ภาพ Avatar จากแผ่นบลูเรย์ สีสันสดอิ่ม
ภาพออกโทนสว่างคมชัด
ทดสอบ HD PLAYER ของ Dvico
ก่อนทดสอบ "ความดำ" ผมก็เกิดข้อสงสัยอีกว่า "เวลาภาพสีขาวแต่ละพิกเซลจะเปิดครบทั้ง 4 สี (แดง เขียว น้ำเงิน และ เหลือง) หรือเปล่า" พอเปิดฉาก "พระจันทร์ในความมืด" ของ Pioneer ผมจึงใช้แว่นส่องพระ ส่องดูที่ดวงจันทร์ ผลที่ได้คือ "เปิดครบทั้ง 4 สี" หลังจากหายจากข้อสงสัยแล้ว ผมก็ทดสอบ "ความดำ" ต่อ ปรากฎว่ายังมีแสงรั่วตามขอบจอ และมี Noise ในฉากนี้ให้เห็นสูงพอสมควร สามารถอธิบายตามทฤษฎีคือการเพิ่มสีเหลืองเข้าไปในแต่ละพิกเซลทำให้ความหนา แน่นของสีในแต่ละพิกเซลสูงขึ้นจึงทำให้เกิด Noise เยอะขึ้นมา
ฉากสีดำมี Noise ค่อนข้างเยอะ
Die Hard 4.0
ผม เปิดเรื่องนี้ข้ามไปฉาก “ภาพหน้าย่นๆ ของคุณพ่อบรูซ วิลลิส” ฉากเด่นเพื่อทดสอบ "Active Contrast" ผมลองเปิด On เทียบกับ Off สลับไปแล้วก็ขอแนะนำให้ "Off" ครับ เพราะให้รายละเอียดของภาพดีกว่า ในส่วนเมื่อเปิด On ภาพจะออกแนวสว่างมากเกินไป
.gif)
แนะนำ Active Contrast เป็น "Off" สามารถให้รายละเอียดของภาพดีกว่าเปิด "On"
ทดสอบกับหนัง Hidef เรื่องอื่นๆ
เรื่องแรก :: Transformers
เรื่อง นี้จะมีภาพเคลื่อนไหวให้เห็นบ่อยผมจึงถือโอกาสทดสอบ ฟังก์ชั่น Fine Motion Advanced และ Film Mode กับการใช้งานจริง ถือว่าช่วยภาพเคลื่อนไหวให้ลื่นไหลได้ดี โดยเฉพาะฉากกระโดดร่มในหนัง ถ้าไม่เปิดฟังก์ชั่นทั้งสองเข้าช่วยภาพจะไม่ลื่นไหลแต่ติดตรงที่จะเห็นภาพ ซ้อนหลอกตาอยู่บ้าง จึงแนะนำให้เปิดฟังก์ชั่น Fine Motion Advanced :: Low และ Film Mode :: Standard ครับ
ภาพสวยแนวเดียวกับแบรนด์เกาหลี เน้นสว่างๆ
ฉากต่อเนื่องจากฉากนี้ที่มีการโดดร่มจะเห็นได้ชัดว่า
ถ้าปิด ฟังก์ชั่น Fine Motion Advanced :: Off และ Film Mode :: Off จะช่วยลดภาพซ้อนได้ดีกว่าเปิด
แต่ภาพจะไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร การใช้งานจึงแนะนำให้เปิด
Fine Motion Advanced :: Low และ Film Mode :: Standard สำหรับการใช้งานจริงครับ
เรื่องสอง :: Apocalypto
เป็นอีกเรื่องที่มีฉากเคลื่อนไหวในการวิ่งไล่ล่าเยอะมากเช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Sharp LE820 ในส่วนของภาพเคลื่อนไหว อีกด้านในส่วนของสีสันของภาพมีความสดและสว่างอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
ตัวคนและฉากหลังสีสันและรายละเอียดดี
รายละเอียดสามารถขับออกมาได้ดีครับ
สุดท้ายผมเปิดหาฉากที่มีสีเหลืองเพื่อทดสอบดูสิว่าสีเหลืองจะเด่นอย่างที่ โฆษณาไว้หรือไม่ ผลที่ปรากฎออกมาถือว่าสีเหลืองดูเด่นพอสมควร ผมเคยไปเดินตามห้างดูฉากดอกทานตะวันสีเหลืองสดมากจริงๆครับ
สีสันสด สว่างให้รายละเอียดดี
สีเหลืองดูเด่นสดขึ้นมา หากมีการเปรียบเทียบกับสีอื่นๆ
ทดสอบกับเครื่องเล่น PS3
ทดสอบเจ้า Sharp LE820 กับ PS3 ทางช่องต่อ HDMI ทดสอบกับเกมส์ Street Fighter 4 เพื่อดูสีสันและการตอบสนองเมื่อบังคับไปมา สีสันสด เมื่อปรับ AV Mode :: Game สีจะยิ่งสดขึ้นอีก ภาพคมชัด สำรับการตอบสนองทำได้ดี ไม่มี Input lag ให้เห็น ส่วนวันนี้คู่มือของผมก็คือนาย KeNnEtH ผลแพ้ชนะดูตามภาพด้านล่าง
ปรับโหมดภาพเป็น GAME ให้สีสันสดขึ้น ภาพยังคงคมชัด
ตัวเอกตัวนี้ นาย Luffy จัดการบังคับอยู่
คงไม่ต้องบอกนะครับว่าใครเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ทดสอบต่อคอมพิวเตอร์
ทดสอบต่อ Sharp LE820 กับ Notebook ผ่านช่องต่อ RGB เปิดเว็บ LCDTVTHAILAND ดู IPOD 2 ตัวหนังสืออ่านง่ายมีความคมชัด สำหรับต่อผ่านช่องต่อ HDMI ก็ไม่มีปัญหารองรับสัญญาณภาพ 1080p ได้สบายๆ
ตัวอักษรคมชัด อ่านได้ง่าย
ทดสอบกับฟรีทีวี "จานเหลือง DTV"
สุดท้ายสำหรับเรื่องภาพ แต่ใช้งานกันบ่อยที่สุดก็ต้องเป็น Free TV นายโรมันพึ่งลงทุนติด DTV เพิ่มอีก วันนี้ผมเลยต่อเจ้า LE820 เข้ากับ DTV ผ่านช่องต่อ AV (เกิดการวุ่นวายเล็กน้อยเพราะหายช่องต่อ AV ไม่เจอ สุดท้ายจึงไปค้นที่กล่องปรากฎว่าต้องมีอุปกรณ์เชื่อมต่อเพิ่มครับ) ภาพที่ได้ไม่คมชัดเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะว่าตัวทีวีขนาด 52 นิ้วค่อนข้างใหญ่ก็ได้ (ดูเทียบกับ Toshiba 55XL700 ความคมชัดสู้ไม่ได้เลย)
ถึงแม้จะเป็น Free TV แต่สีเหลืองก็ยังเด่น
SHARP LE820 มีลำโพงด้านล่าง 2 ตัว ขนาด 10W+10W พร้อม Subwoofer 15W ด้านหลังเครื่อง ผมเริ่มเพิ่มความดังเสียงขึ้นเรื่อยเสียงมีอาการแตกให้เห็น (อาจเป็นเพราะเป็นสินค้าที่ถูกใช้งานมานาน) โดยรวมเสียงของ SHARP LE820 เสียงดังดี เสียงเบสจาก Subwoofer หนักดี สุดท้ายผมลองทดสอบฟังเพลง MP3 เสียงเพลงมีพลังและเบสหนัก
เมนูเสียง อีกจุดเด่นคือมีระบบเสียง SRS TruSurround HD ด้วย ซึ่งให้เสียงดีมาก
มีงบไม่พอซื้อเครื่องเสียง ฟังเพลงจาก LE820 ก็ถือว่าไม่ขี้เหล่
"ช่อง ต่อ" ของ SHARP LE820 เยอะแยะมากมากไล่ตั้งแต่ USB / ETHERNET(ใช้สำหรับต่อ DLNA เท่านั้น) / Audio (แจ๊คหูฟัง) / AV in / RGB / Audio in / HDMI 4 ชุด / Digital Audio Output / RS232 / Component / Antena พิมพ์จนเหนื่อย จุดเด่นคือช่องต่อทั้งหมดหันออกด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งถ้าแขวนสามารถดัน ให้ติดผนังได้
ช่องต่อด้านข้างภาค 1 (HDMI 4 ช่องเลยครับด้านข้าง)
ช่องต่อด้านข้างภาค 2 (มี Optical Out)
ช่องต่อด้านล่าง Antena / Component / RS232
ภาพรวมของช่องต่อทั้งหมด
โดยรวมหันออกด้านข้างและด้านล่าง
ช่องต่อ AV ต้องมีตัวต่อพ่วง (Adaptor) นะครับ เดี๋ยวจะหาไม่เจอกัน
ต่อ ด้วยช่องต่อ USB สามารถเล่นได้ ไฟล์ภาพนิ่ง, วีดีโอ, และเพลง สำหรับไฟล์วีดีโอสามารถเล่นไฟล์ MKV ได้และไม่กระตุก และต่อ External HDD ได้ แต่ข้อเสียเวลาโหลดเริ่มต้นเข้าไปเล่นไฟล์ต่างๆ จะใช้เวลาเชื่อมต่อนานไปนิด
ภาพนิ่ง สามารถเล่นได้
สามารถหมุนภาพเองได้อัตโนมัติ
ไฟล์วิดีโอ สามารถเล่นได้หลากหลายนามสกุล ไม่ว่าจะเป็น MKV, MP4, DivX เป็นต้น
ไฟล์ Speed.Racer.mkv เล่นได้ไม่มีกระตุกให้เห็น
1. Color Management System (C.M.S.) : การปรับภาพระดับสูงสามารถปรับได้ทั้ง Hue, Saturation และ Value(Brightness) นักปรับภาพระดับเทพที่อยากจะปรับสีใน Color Space ให้ถูกต้องเข้าสามเหลี่ยม D65 ก็จัดไปได้เลยครับ
2. Optical Picture Control (OPC) : เซนเซอร์ปรับความสว่างอัตโนมัติ (ปรับ Backlight อย่างเดียว) เช่นห้องมืดก็จะปรับ Backlight ลง จอภาพก็จะสว่างลดลง สามารถเลือกได้ว่าจะมีการแสดงที่หน้าจอหรือไม่มี
OPC เซนเซอร์ สามารถเปิด หรือ ปิด ก็ได้
3. Eco Save : ฟังก์ชันประหยัดพลังงาน มีให้เลือก 3 แบบ Off / Standard / Advanced ซึ่งจะช่วยลดการกินไฟ 10% - 30% แล้วแต่ฉาก ถ้าเราปรับระดับสูงเกินไปก็จะทำให้ภาพมืดลงไปบ้างและรายละเอียดหายไปบ้าง
โหมดประหยัดไฟ กินไฟน้อย ภาพมืดขึ้น
ข้อดี
1. แน่นอนว่าต้องเป็น สีสันของภาพ RGB+Y ที่ให้สีสันอิ่ม สด สว่าง โดดเด่นโดยเฉพาะสีเหลือง
2. C.M.S. ที่สามารถปรับสีสัน Calibration แบบโปรเฟสชั่นนัลได้
3. เครื่องสามารถแสดงเครื่องส่งสัญญาณได้ว่ามาจากอะไร
4. ภาพเคลื่อนไหวค่อนข้างลื่นสมูธ มีตัวช่วยทั้ง Film Mode และ Fine Motion Advanced
ข้อเสีย
1. Noise ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะในฉากมืด
2. ภาพจาก Free TV ความคมชัดค่อนข้างน้อย
3. ช่องต่อจะไม่บอกว่าเป็นต่ออะไร จะมีแสดงแค่ Input1, Input2 ....ทำให้เวลาต้องการเปลี่ยน Input ทำให้เสียเวลาและหงุดหงิด
4. หน้าจอกระจกสะท้อนมาก พอๆกลับพลาสม่าได้เลย จำเป็นต้องคุมแสงดีๆ
สรุป
LE820 นับเป็นทีวีที่มี "ดีไซน์" ที่โดดที่สุดของ Sharp รวมทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบใหม่ ที่เพิ่มสีเหลืองเข้ามาในแต่ละพิกเซลช่วยให้ภาพมีสีสันอิ่ม สีสดและสว่าง ขึ้น แต่ก็มีข้อเสียที่ทำให้เกิด Noise เยอะขึ้นและหน้าจอกระจกที่ค่อนข้างสะท้อนจึงต้องคุมแสงในห้องให้ดี ในส่วนของเสียงเป็นตัวหนึ่งที่โดดเด่นโดยเฉพาะเสียงเบสที่มี Subwoofer เพิ่มเข้ามา ส่วนฟังก์ชั่นที่ให้มาเยอะมากโดยเฉพาะ Fine Motion Advanced และ Film Mode ผมชื่นชอบมาก ช่วยทำให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหล ไม่กระตุกให้เห็นมากนัก Sharp LE820 ถือเป็นอีกตัวที่น่าที่จะต้องพิจารณาสำหรับ Edge LED TV ก่อนที่ท่านผู้อ่านจะตัดสินใจซื้อ...
คะแนน Sharp 52LE820
ดีไซน์ (Design) 8
ภาพ (Picture) 7.75
เสียง (Sound) 8
การเชื่อมต่อ (Connectivity) 8
ลูกเล่น (Extra) 7.75
ราคาและความคุ้มค่า (Value) 7.5
คะแนนตัดสิน 7.8
คะแนนสำหรับ 52LE820 :: 7.8/10
เครดิต : lcdtvthailand
เริ่มปีใหม่ 2011 กับ Edge LED TV จาก Sharp พร้อมเทคโนโลยีระดับโลก RGB+Y ที่เพิ่มสีเหลืองเข้ามาในแต่ละพิกเซล แค่เห็นว่ามีสีเหลืองเพิ่มเข้ามา ก็คงสงสัยว่าสีสันของภาพจะเป็นอย่างไร แล้วเวลาทำสีขาวมันจะเปิดครบทั้ง 4 สีหรือไม่ มาตามดูกันว่าสีเหลืองจะเด่นขนาดไหน
Brand Sharp
Model 52LE820
Size 52"
Type Edge LED TV
Resolution FHD 1920 x 1080
Contrast 5,000,000:1
Panel X-Gen Panel
HDMI Side (4)
Refresh rate 120/100 Hz Fine Motion Advanced
Price 94,990
สำหรับ Sharp LE820 มีให้เลือก 3 ขนาด 40", 46" และ 52" ดูจากสเป็คด้านบนแล้วถือว่าไม่ได้แตกต่างจากคู่แข่งมากนัก จะมีก็จอภาพแบบใหม่ X-Gen Panel ที่เพิ่มสีเหลืองเข้ามา คงได้บอกถึงลักษณะและสีสันของภาพหลังจากทดสอบกันอีกที...ว่าแล้วผมขอเริ่ม จาก "ดีไซน์" ก่อนละกัน
"ดีไซน์" ต้องเอ่ยปากชมก่อนเลยว่าดีไซน์ของ LE820 โดดเด่นกว่า Sharp รุ่นอื่นๆมาก โดยหน้าจอถูกดีไซน์เป็นกระจกแผ่นเดียวจนสุดขอบ ลักษณะเดียวกับ "LG INFINIA design" มีการเข้าขอบด้วยวัสดุเมทาลิค ดูแล้วทำให้ผมนึกถึง iPhone 3 ขนาดใหญ่ยักษ์ ด้านล่างตัดด้วยสีเงิน ฐานรองเป็นกระจกรับกับหน้าจอ โลโก้ SHARP ด้านล่างซ้ายออกไฟได้ ด้านล่างขวามีปุ่มกดแบบทัชสกรีน ด้านข้างให้ความบางมากกว่า Sharp ทุกรุ่นที่ผมได้สัมผัสมา โดยรวมถือว่า SHARP มีดีไซน์ที่ลงตัวทีเดียว
ด้านหน้าดีไซน์กระจกสุดขอบ เข้าขอบด้วยวัสดุเมทาลิค ตัดขอบล่างด้วยสีเงิน
ดีไซน์ Sharp LE820 VS iPhone 3 เหมือน iPhone ยักษ์
มองด้านข้างรู้สักได้ถึงความบาง และ แตกต่างจาก Sharp รุ่นอื่นๆ
ด้านหน้าล่างขวา ปุ่มกดแบบทัชสกรีน พร้อมจุดขายของเจ้า LE820
เน้น Industry's First 4 Primary Colour หรือ RGB + Y เพิ่มสีเหลืองมาอีกหนึ่งสี
Quattron :: 4 สี แดง เขียว น้ำเงิน เหลือง
ด้านหน้าล่างซ้าย มีโลโก้ SHARP ออกไฟได้ แต่ถ้ารำคาญก็สามารถเข้าไปปิดได้
ด้านหลังขวามือ เป็นส่วนของช่องต่อทั้งหมด
ด้านหลัง มีรูระบายอากาศเป็นแผงอยู่ด้านบน ถัดลงมากลมๆ เป็น Subwoofer
"รีโมท" ปุ่มตัวเลขขนาดใหญ่ มีปุ่มลัดมากมาย ชื่อฟังก์ชั่นส่วนใหญ่เรียกคล้าย LG
SHARP LE820 AQOUS ใช้หลอดไฟ LED แบบ Edge LED ที่เรียงหลอดแอลอีดีไว้ที่ขอบ ทำให้ตัวจอมีความบาง หน้าจอกระจกสุดขอบ X-Gen Panel ช่วยเพิ่มความคมชัด รวมกับเทคโนโลยีใหญ่ซึ่งเพิ่มสีเหลืองเข้าไปในแต่ละพิกเซล ช่วยเพิ่มสีสันให้สดขึ้น โดยเฉพาะสีเหลือง ความละเอียดหน้าจอระดับ Full HD 1920 x 1080 พร้อม Contrast สูงถึง 5,000,000:1 พร้อม 100/120 Hz Fine Motion Advanced ช่วยภาพเคลื่อนไหวให้ดีขึ้น
Industry's First 4 Primary Colour "Quattron"
โดยปกติในแต่ละพิกเซลของ LCD จะมีแม่สี 3 สี แดง เขียว น้ำเงิน ผสมกันในอัตราส่วนต่างๆให้เกิดสีสันมากมาย แต่ Sharp LE820 ได้เพิ่มสีเหลืองเข้าไปในแต่ละพิกเซลทำให้ภาพมีสีสวยสมจริง โดยเฉพาะสีเหลืองและเพิ่มความสว่างได้มากขึ้น
ในทุกพิกเซลจะมี 4 สี แดง เขียว น้ำเงิน และ "เหลือง"
Sharp LE820 เปรียบเทียบกับ Sharp รุ่นเก่า เห็นได้ชัดว่าภาพเดียวกัน
แต่ LE820 ด้านขวาให้สีเหลืองที่ "สดสว่างกว่า" อย่างเห็นได้ชัด
ซ้าย :: 3 สีผสมกันให้สีขาว ติดอมม่วงนิดหน่อย
ขวา :: 4 สีผสมกันสีขาวจะไบรท์กว่า ติดอมเหลืองนิดหน่อย
ส่วนของภาพ :: Wide Mode
เมื่อเปิดภาพจากเครื่องเล่น HD Media Player กับ Sharp LE820 สามารถเลือกส่วนของภาพได้ 2 แบบคือ Full (16:9) และ Dot by Dot (หรือ Just scan) แนะนำให้เปิด Dot by Dot ครับให้ภาพครบเต็มทุกพิกเซล แต่ถ้าเปิดจาก Free TV ผ่าน DTV ทางช่องต่อ AV จะมีส่วนของภาพให้เลือกมากกว่าตามรูปด้านล่างเลยครับ
DTV ผ่านช่องต่อ AV มีส่วนภาพให้เลือกเยอะมากกว่า
โหมดสำเร็จรูป :: AV Mode
Sharp LE820 มีโหมดสำเร็จรูป 9 โหมด User / PC / Game / Movie / Auto / Standard / Auto / Dynamic (Fixed) / Dynamic โหมดสำเร็จรูปต่างๆเหล่านี้เหมาะกับการใช้งานตามชื่อที่ระบุไว้ (ตามทฤษฏี) แต่ถ้าอยากรู้ว่าเราชอบแบบไหนก็ลองกดปุ่ม AV Mode ที่รีโมทปรับไปมา เพื่อหาโหมดที่เหมาะสมกับตัวคุณ
การกินไฟในโหมดต่างๆ
ก่อนเริ่มทดสอบผมจะปรับตั้งค่าต่างๆ ตามแผ่นทดสอบ DVE เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด ณ สภาพแวดล้อมในห้องทดสอบได้ค่าต่างๆ ดังนี้ครับ
Backlight +16
Contact +40
Brightness +30
Colour +30
Tint +30
Sharpness +10
หลังจากปรับภาพตามค่าด้านบนโทนภาพสีสันอิ่ม สีสดและมีความสว่าง แต่ความไบรท์อาจจะยังไม่ใสกิ๊ก เป็นรองแบรนด์เกาหลีอยู่นิดหน่อย การปรับภาพจะถือว่ายกระดับสีสันของภาพจากโหมด Standard ได้ดีครับ
ค่าภาพที่ได้จากหลังการปรับ
ทดสอบภาพเคลื่อนไหว
Sharp LE820 มีฟังก์ชั่นแทรกเฟรม 100Hz Fine Motion Advanced ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหลขึ้น แถมตัวช่วยอีก 1 ตัว อย่าง Film Mode ช่วยเสริมทำให้ Content ทดสอบฉากแพนกล้องในห้องอาหารทำได้ดี มีกระตุกเล็กน้อยแต่เป็นไปอย่างธรรมชาติ
Fine Motion Advanced มี 3 ระดับ Off (ปิด) / Low (ต่ำ) / High (สูง)
Film Mode มี 4 ระดับ Off / Standard / Advanced (Low) / Advanced (High)
แนะนำเปิด Fine Motion Advanced ระดับ Low และ Film Mode ระดับ Standard เมื่อดูหนัง HD
ฉากแพนกล้องเปิด Fine Motion Advanced และ Film Mode สูงสุดทั้งคู่
ภาพกระตุกน้อยลง แต่วัตถุเคลื่อนไหวไม่เป็นธรรมชาติ
แนะนำเป็น Low และ Standard เวลาดูหนัง HD ก็เพียงพอ
ทดสอบกับเครื่องเล่น Blu-ray
ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าตกใจครับ เมื่อผมต่อเครื่องเล่นบลูเรย์ Philips BDP7500 เข้ากับ Sharp LE820 ตัวทีวีสามารถรู้ได้ว่าเป็น "เครื่องเล่นบลูเรย์ Philips" รุ่น "BDP7500" ผมเลยลองต่อผ่าน AVR Onkyo ปรากฎว่าเจ้า Sharp LE820 ก็สามารถแสดงชื่อรุ่นได้ทุกต้องเหมือนเดิม โชว์ TX-SR608 ต้องยอมรับว่าเป็นทีวีตัวแรกและหนึ่งเดียวที่ "สามารถแสดงชื่อรุ่น" ของเครื่องเล่นต่างๆได้และถูกต้องซะด้วย
สำหรับแผ่นบลูเรย์เรื่อง "Avatar" ที่ได้ทดสอบ ภาพที่ได้ออกมาแสดงสีสันสด สว่าง ถ้าฉากใดมีสีเหลือง สีเหลืองจะสดเข้มขึ้นมา
ภาพ Avatar จากแผ่นบลูเรย์ สีสันสดอิ่ม
ภาพออกโทนสว่างคมชัด
ทดสอบ HD PLAYER ของ Dvico
ก่อนทดสอบ "ความดำ" ผมก็เกิดข้อสงสัยอีกว่า "เวลาภาพสีขาวแต่ละพิกเซลจะเปิดครบทั้ง 4 สี (แดง เขียว น้ำเงิน และ เหลือง) หรือเปล่า" พอเปิดฉาก "พระจันทร์ในความมืด" ของ Pioneer ผมจึงใช้แว่นส่องพระ ส่องดูที่ดวงจันทร์ ผลที่ได้คือ "เปิดครบทั้ง 4 สี" หลังจากหายจากข้อสงสัยแล้ว ผมก็ทดสอบ "ความดำ" ต่อ ปรากฎว่ายังมีแสงรั่วตามขอบจอ และมี Noise ในฉากนี้ให้เห็นสูงพอสมควร สามารถอธิบายตามทฤษฎีคือการเพิ่มสีเหลืองเข้าไปในแต่ละพิกเซลทำให้ความหนา แน่นของสีในแต่ละพิกเซลสูงขึ้นจึงทำให้เกิด Noise เยอะขึ้นมา
ฉากสีดำมี Noise ค่อนข้างเยอะ
Die Hard 4.0
ผม เปิดเรื่องนี้ข้ามไปฉาก “ภาพหน้าย่นๆ ของคุณพ่อบรูซ วิลลิส” ฉากเด่นเพื่อทดสอบ "Active Contrast" ผมลองเปิด On เทียบกับ Off สลับไปแล้วก็ขอแนะนำให้ "Off" ครับ เพราะให้รายละเอียดของภาพดีกว่า ในส่วนเมื่อเปิด On ภาพจะออกแนวสว่างมากเกินไป
แนะนำ Active Contrast เป็น "Off" สามารถให้รายละเอียดของภาพดีกว่าเปิด "On"
ทดสอบกับหนัง Hidef เรื่องอื่นๆ
เรื่องแรก :: Transformers
เรื่อง นี้จะมีภาพเคลื่อนไหวให้เห็นบ่อยผมจึงถือโอกาสทดสอบ ฟังก์ชั่น Fine Motion Advanced และ Film Mode กับการใช้งานจริง ถือว่าช่วยภาพเคลื่อนไหวให้ลื่นไหลได้ดี โดยเฉพาะฉากกระโดดร่มในหนัง ถ้าไม่เปิดฟังก์ชั่นทั้งสองเข้าช่วยภาพจะไม่ลื่นไหลแต่ติดตรงที่จะเห็นภาพ ซ้อนหลอกตาอยู่บ้าง จึงแนะนำให้เปิดฟังก์ชั่น Fine Motion Advanced :: Low และ Film Mode :: Standard ครับ
ภาพสวยแนวเดียวกับแบรนด์เกาหลี เน้นสว่างๆ
ฉากต่อเนื่องจากฉากนี้ที่มีการโดดร่มจะเห็นได้ชัดว่า
ถ้าปิด ฟังก์ชั่น Fine Motion Advanced :: Off และ Film Mode :: Off จะช่วยลดภาพซ้อนได้ดีกว่าเปิด
แต่ภาพจะไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร การใช้งานจึงแนะนำให้เปิด
Fine Motion Advanced :: Low และ Film Mode :: Standard สำหรับการใช้งานจริงครับ
เรื่องสอง :: Apocalypto
เป็นอีกเรื่องที่มีฉากเคลื่อนไหวในการวิ่งไล่ล่าเยอะมากเช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับ Sharp LE820 ในส่วนของภาพเคลื่อนไหว อีกด้านในส่วนของสีสันของภาพมีความสดและสว่างอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
ตัวคนและฉากหลังสีสันและรายละเอียดดี
รายละเอียดสามารถขับออกมาได้ดีครับ
สุดท้ายผมเปิดหาฉากที่มีสีเหลืองเพื่อทดสอบดูสิว่าสีเหลืองจะเด่นอย่างที่ โฆษณาไว้หรือไม่ ผลที่ปรากฎออกมาถือว่าสีเหลืองดูเด่นพอสมควร ผมเคยไปเดินตามห้างดูฉากดอกทานตะวันสีเหลืองสดมากจริงๆครับ
สีสันสด สว่างให้รายละเอียดดี
สีเหลืองดูเด่นสดขึ้นมา หากมีการเปรียบเทียบกับสีอื่นๆ
ทดสอบกับเครื่องเล่น PS3
ทดสอบเจ้า Sharp LE820 กับ PS3 ทางช่องต่อ HDMI ทดสอบกับเกมส์ Street Fighter 4 เพื่อดูสีสันและการตอบสนองเมื่อบังคับไปมา สีสันสด เมื่อปรับ AV Mode :: Game สีจะยิ่งสดขึ้นอีก ภาพคมชัด สำรับการตอบสนองทำได้ดี ไม่มี Input lag ให้เห็น ส่วนวันนี้คู่มือของผมก็คือนาย KeNnEtH ผลแพ้ชนะดูตามภาพด้านล่าง
ปรับโหมดภาพเป็น GAME ให้สีสันสดขึ้น ภาพยังคงคมชัด
ตัวเอกตัวนี้ นาย Luffy จัดการบังคับอยู่
คงไม่ต้องบอกนะครับว่าใครเป็นฝ่ายพ่ายแพ้
ทดสอบต่อคอมพิวเตอร์
ทดสอบต่อ Sharp LE820 กับ Notebook ผ่านช่องต่อ RGB เปิดเว็บ LCDTVTHAILAND ดู IPOD 2 ตัวหนังสืออ่านง่ายมีความคมชัด สำหรับต่อผ่านช่องต่อ HDMI ก็ไม่มีปัญหารองรับสัญญาณภาพ 1080p ได้สบายๆ
ตัวอักษรคมชัด อ่านได้ง่าย
สุดท้ายสำหรับเรื่องภาพ แต่ใช้งานกันบ่อยที่สุดก็ต้องเป็น Free TV นายโรมันพึ่งลงทุนติด DTV เพิ่มอีก วันนี้ผมเลยต่อเจ้า LE820 เข้ากับ DTV ผ่านช่องต่อ AV (เกิดการวุ่นวายเล็กน้อยเพราะหายช่องต่อ AV ไม่เจอ สุดท้ายจึงไปค้นที่กล่องปรากฎว่าต้องมีอุปกรณ์เชื่อมต่อเพิ่มครับ) ภาพที่ได้ไม่คมชัดเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะว่าตัวทีวีขนาด 52 นิ้วค่อนข้างใหญ่ก็ได้ (ดูเทียบกับ Toshiba 55XL700 ความคมชัดสู้ไม่ได้เลย)
ถึงแม้จะเป็น Free TV แต่สีเหลืองก็ยังเด่น
SHARP LE820 มีลำโพงด้านล่าง 2 ตัว ขนาด 10W+10W พร้อม Subwoofer 15W ด้านหลังเครื่อง ผมเริ่มเพิ่มความดังเสียงขึ้นเรื่อยเสียงมีอาการแตกให้เห็น (อาจเป็นเพราะเป็นสินค้าที่ถูกใช้งานมานาน) โดยรวมเสียงของ SHARP LE820 เสียงดังดี เสียงเบสจาก Subwoofer หนักดี สุดท้ายผมลองทดสอบฟังเพลง MP3 เสียงเพลงมีพลังและเบสหนัก
เมนูเสียง อีกจุดเด่นคือมีระบบเสียง SRS TruSurround HD ด้วย ซึ่งให้เสียงดีมาก
มีงบไม่พอซื้อเครื่องเสียง ฟังเพลงจาก LE820 ก็ถือว่าไม่ขี้เหล่
"ช่อง ต่อ" ของ SHARP LE820 เยอะแยะมากมากไล่ตั้งแต่ USB / ETHERNET(ใช้สำหรับต่อ DLNA เท่านั้น) / Audio (แจ๊คหูฟัง) / AV in / RGB / Audio in / HDMI 4 ชุด / Digital Audio Output / RS232 / Component / Antena พิมพ์จนเหนื่อย จุดเด่นคือช่องต่อทั้งหมดหันออกด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งถ้าแขวนสามารถดัน ให้ติดผนังได้
ช่องต่อด้านข้างภาค 1 (HDMI 4 ช่องเลยครับด้านข้าง)
ช่องต่อด้านข้างภาค 2 (มี Optical Out)
ช่องต่อด้านล่าง Antena / Component / RS232
ภาพรวมของช่องต่อทั้งหมด
โดยรวมหันออกด้านข้างและด้านล่าง
ช่องต่อ AV ต้องมีตัวต่อพ่วง (Adaptor) นะครับ เดี๋ยวจะหาไม่เจอกัน
ต่อ ด้วยช่องต่อ USB สามารถเล่นได้ ไฟล์ภาพนิ่ง, วีดีโอ, และเพลง สำหรับไฟล์วีดีโอสามารถเล่นไฟล์ MKV ได้และไม่กระตุก และต่อ External HDD ได้ แต่ข้อเสียเวลาโหลดเริ่มต้นเข้าไปเล่นไฟล์ต่างๆ จะใช้เวลาเชื่อมต่อนานไปนิด
ภาพนิ่ง สามารถเล่นได้
สามารถหมุนภาพเองได้อัตโนมัติ
ไฟล์วิดีโอ สามารถเล่นได้หลากหลายนามสกุล ไม่ว่าจะเป็น MKV, MP4, DivX เป็นต้น
ไฟล์ Speed.Racer.mkv เล่นได้ไม่มีกระตุกให้เห็น
1. Color Management System (C.M.S.) : การปรับภาพระดับสูงสามารถปรับได้ทั้ง Hue, Saturation และ Value(Brightness) นักปรับภาพระดับเทพที่อยากจะปรับสีใน Color Space ให้ถูกต้องเข้าสามเหลี่ยม D65 ก็จัดไปได้เลยครับ
2. Optical Picture Control (OPC) : เซนเซอร์ปรับความสว่างอัตโนมัติ (ปรับ Backlight อย่างเดียว) เช่นห้องมืดก็จะปรับ Backlight ลง จอภาพก็จะสว่างลดลง สามารถเลือกได้ว่าจะมีการแสดงที่หน้าจอหรือไม่มี
OPC เซนเซอร์ สามารถเปิด หรือ ปิด ก็ได้
3. Eco Save : ฟังก์ชันประหยัดพลังงาน มีให้เลือก 3 แบบ Off / Standard / Advanced ซึ่งจะช่วยลดการกินไฟ 10% - 30% แล้วแต่ฉาก ถ้าเราปรับระดับสูงเกินไปก็จะทำให้ภาพมืดลงไปบ้างและรายละเอียดหายไปบ้าง
โหมดประหยัดไฟ กินไฟน้อย ภาพมืดขึ้น
ข้อดี
1. แน่นอนว่าต้องเป็น สีสันของภาพ RGB+Y ที่ให้สีสันอิ่ม สด สว่าง โดดเด่นโดยเฉพาะสีเหลือง
2. C.M.S. ที่สามารถปรับสีสัน Calibration แบบโปรเฟสชั่นนัลได้
3. เครื่องสามารถแสดงเครื่องส่งสัญญาณได้ว่ามาจากอะไร
4. ภาพเคลื่อนไหวค่อนข้างลื่นสมูธ มีตัวช่วยทั้ง Film Mode และ Fine Motion Advanced
ข้อเสีย
1. Noise ค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะในฉากมืด
2. ภาพจาก Free TV ความคมชัดค่อนข้างน้อย
3. ช่องต่อจะไม่บอกว่าเป็นต่ออะไร จะมีแสดงแค่ Input1, Input2 ....ทำให้เวลาต้องการเปลี่ยน Input ทำให้เสียเวลาและหงุดหงิด
4. หน้าจอกระจกสะท้อนมาก พอๆกลับพลาสม่าได้เลย จำเป็นต้องคุมแสงดีๆ
สรุป
LE820 นับเป็นทีวีที่มี "ดีไซน์" ที่โดดที่สุดของ Sharp รวมทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีแบบใหม่ ที่เพิ่มสีเหลืองเข้ามาในแต่ละพิกเซลช่วยให้ภาพมีสีสันอิ่ม สีสดและสว่าง ขึ้น แต่ก็มีข้อเสียที่ทำให้เกิด Noise เยอะขึ้นและหน้าจอกระจกที่ค่อนข้างสะท้อนจึงต้องคุมแสงในห้องให้ดี ในส่วนของเสียงเป็นตัวหนึ่งที่โดดเด่นโดยเฉพาะเสียงเบสที่มี Subwoofer เพิ่มเข้ามา ส่วนฟังก์ชั่นที่ให้มาเยอะมากโดยเฉพาะ Fine Motion Advanced และ Film Mode ผมชื่นชอบมาก ช่วยทำให้ภาพเคลื่อนไหวลื่นไหล ไม่กระตุกให้เห็นมากนัก Sharp LE820 ถือเป็นอีกตัวที่น่าที่จะต้องพิจารณาสำหรับ Edge LED TV ก่อนที่ท่านผู้อ่านจะตัดสินใจซื้อ...
คะแนน Sharp 52LE820
ดีไซน์ (Design) 8
ภาพ (Picture) 7.75
เสียง (Sound) 8
การเชื่อมต่อ (Connectivity) 8
ลูกเล่น (Extra) 7.75
ราคาและความคุ้มค่า (Value) 7.5
คะแนนตัดสิน 7.8
คะแนนสำหรับ 52LE820 :: 7.8/10
เครดิต : lcdtvthailand
Comment