เป็นที่สงสัยกันมาระยะหนึ่ีงว่า ชิพ Maxwell ที่ใช้ในการ์ดตระกูล 900 ของ nVidia นั้นมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า Kepler gpu รุ่นก่อนหน้านั้นอย่างชัดเจน ทั้งความแรงและการกินไฟ ทั้งๆที่ใช้กระบวนการผลิตแบบเดียวกันคือ 28 nm
นาย David Kanter กูรูเรื่อง gpu ได้ทำการทดลองแล้วก็ค้นพบความลับหนึ่งของชิพ Maxwell เข้า นั่นคือ "เทคนิคการเรนเดอร์แบบ Tile-based Rasterization"
Rasterization คืออะไร ? ตอบง่ายๆคือ เป็นกระบวนการเปลี่ยนภาพจาก 3D ที่คำนวณใน GPU ให้เป็น pixel 2D ปรากฎในจอภาพของเรา
GPU ทั่วไปและของ nVidia ก่อน Maxwell จะใช้ Rasterization แบบ Immediate Rasterization ซึ่งก็คือจะเติม pixel ทีละลำดับต่อไปเรื่อยๆจากซ้ายไปขวา
นาย David ได้ทำการทดสอบด้วยโปรแกรมเฉพาะของตัวเอง โดยมีหลักการทำงานคือ จะเรนเดอร์แถบสีทับซ้อนกันไปเรื่อยๆตามที่ผู้ใช้ตั้งค่า ทดลองครั้งแรกกับการ์ด HD6670 ของ AMD ได้ผลเป็นแบบนี้ครับ

สังเกตนะครับ GPU จะเติมสีเขียว-แดง ทีละแถวเป็นลำดับไปเรื่อยๆ
แต่พอมาทดลองกับ GTX970 ซึ่งเป็นการ์ดจอจากสถาปัตยกรรม Maxwell ผลที่ได้กลับน่าประหลาดใจ...

970 ไม่ได้เติมสีทีละแถวเหมือน 6670 แต่กลับเลือกเติมเป็นแผ่นๆเรียงกันเหมือนปูกระเบื้อง (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Tile-based)
สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ของ 2 วิธีการนี้ไม่ต่างกัน ได้ภาพเหมือนกันในท้ายสุด แต่วิธี Tiled-base Rasterization นั้นจะช่วยทำให้ลดปริมาณ bandwidth ที่การ์ดต้องใช้ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ทำให้การ์ดจอกินไฟน้อยลง
เมื่อกินไฟน้อยลง ผู้ผลิตจึงสามารถเร่ง clock ให้สูงมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นที่มาของความแรงนั่นเอง...
เทคนิค Tile-based นี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นสิ่งที่ใช้กันมานานแล้วในชิพกราฟิกสำหรับอุปกรณ์พกพา โดยมีต้นตำรับคือ Imagination Technology หรือเป็นที่รู้จักกันสำหรับผลิตภัณฑ์ Power VR ชิพกราฟิกสำหรับอุปกรณ์จาก Apple ทั้ง iPhone และ iPad นั่นเอง...
ในอดีตนั้น Power VR ก็เคยลงตลาด PC มาแล้วกับการ์ดจอ Kyro ประมาณปี 2001-2002 ซึ่งเป็นที่ฮือฮาเล็กๆในสมัยนั้น

ใครสาย old-school จำได้มั่งครับ
ชิพ Maxwell/Pascal นั้นจึงเป็นความก้าวหน้าของ nVidia ที่สามารถผสมผสานเทคนิคแบบเก่าที่ปัจจุบันนำไปใช้กับอุปกรณ์พกพา เอามาใช้ร่วมกับ PC ได้อย่างลงตัว...
กระทู้นี้เป็นสรุปสั้นๆ ใครอยากรู้ลึกกว่านี้สามารถตามไปดูได้ที่ channel ของนาย David เลย
บทความ http://www.realworldtech.com/tile-ba...n-nvidia-gpus/
ใครอยากเล่นโปรแกรมโหลดได้ที่นี่ https://github.com/nlguillemot/trianglebin ต้องลง Visual Studio ก่อน และใช้สำหรับ Win 10 เท่านั้นนะครับ
นาย David Kanter กูรูเรื่อง gpu ได้ทำการทดลองแล้วก็ค้นพบความลับหนึ่งของชิพ Maxwell เข้า นั่นคือ "เทคนิคการเรนเดอร์แบบ Tile-based Rasterization"
Rasterization คืออะไร ? ตอบง่ายๆคือ เป็นกระบวนการเปลี่ยนภาพจาก 3D ที่คำนวณใน GPU ให้เป็น pixel 2D ปรากฎในจอภาพของเรา
GPU ทั่วไปและของ nVidia ก่อน Maxwell จะใช้ Rasterization แบบ Immediate Rasterization ซึ่งก็คือจะเติม pixel ทีละลำดับต่อไปเรื่อยๆจากซ้ายไปขวา
นาย David ได้ทำการทดสอบด้วยโปรแกรมเฉพาะของตัวเอง โดยมีหลักการทำงานคือ จะเรนเดอร์แถบสีทับซ้อนกันไปเรื่อยๆตามที่ผู้ใช้ตั้งค่า ทดลองครั้งแรกกับการ์ด HD6670 ของ AMD ได้ผลเป็นแบบนี้ครับ

สังเกตนะครับ GPU จะเติมสีเขียว-แดง ทีละแถวเป็นลำดับไปเรื่อยๆ
แต่พอมาทดลองกับ GTX970 ซึ่งเป็นการ์ดจอจากสถาปัตยกรรม Maxwell ผลที่ได้กลับน่าประหลาดใจ...

970 ไม่ได้เติมสีทีละแถวเหมือน 6670 แต่กลับเลือกเติมเป็นแผ่นๆเรียงกันเหมือนปูกระเบื้อง (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Tile-based)
สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ของ 2 วิธีการนี้ไม่ต่างกัน ได้ภาพเหมือนกันในท้ายสุด แต่วิธี Tiled-base Rasterization นั้นจะช่วยทำให้ลดปริมาณ bandwidth ที่การ์ดต้องใช้ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ทำให้การ์ดจอกินไฟน้อยลง
เมื่อกินไฟน้อยลง ผู้ผลิตจึงสามารถเร่ง clock ให้สูงมากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นที่มาของความแรงนั่นเอง...
เทคนิค Tile-based นี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นสิ่งที่ใช้กันมานานแล้วในชิพกราฟิกสำหรับอุปกรณ์พกพา โดยมีต้นตำรับคือ Imagination Technology หรือเป็นที่รู้จักกันสำหรับผลิตภัณฑ์ Power VR ชิพกราฟิกสำหรับอุปกรณ์จาก Apple ทั้ง iPhone และ iPad นั่นเอง...
ในอดีตนั้น Power VR ก็เคยลงตลาด PC มาแล้วกับการ์ดจอ Kyro ประมาณปี 2001-2002 ซึ่งเป็นที่ฮือฮาเล็กๆในสมัยนั้น

ใครสาย old-school จำได้มั่งครับ

ชิพ Maxwell/Pascal นั้นจึงเป็นความก้าวหน้าของ nVidia ที่สามารถผสมผสานเทคนิคแบบเก่าที่ปัจจุบันนำไปใช้กับอุปกรณ์พกพา เอามาใช้ร่วมกับ PC ได้อย่างลงตัว...
กระทู้นี้เป็นสรุปสั้นๆ ใครอยากรู้ลึกกว่านี้สามารถตามไปดูได้ที่ channel ของนาย David เลย
บทความ http://www.realworldtech.com/tile-ba...n-nvidia-gpus/
ใครอยากเล่นโปรแกรมโหลดได้ที่นี่ https://github.com/nlguillemot/trianglebin ต้องลง Visual Studio ก่อน และใช้สำหรับ Win 10 เท่านั้นนะครับ
Comment