กระทู้นี้ผมจัดทำขึ้นมาเพื่อเป็นความรู้เล็กๆน้อย สำหรับท่านที่ไม่ทราบ
และข้อมูลบางขอ้มูลที่มันผิด รึ ไม่ถูกยังไง รบกวน ติเตียน และถ้าเป็นไปได้ขอข้อมูลที่ถูกต้องด้วยนะครับ เพื่อน้ำมาแก้ไข
จริงๆงานนี้เป็น รายงาน ของโรงเรียนครับ ทำไปทำมา จะส่งเฉยๆ ก็เสียดาย ขอนำมาแบ่งเพื่อนๆ

นี่เป็น ตราสัญลักษณ์ ของโปรแกรม

ส่วนนี่คือเจ้าของที่ทำขึ้นมาครับ
โปรแกรมนี้มันโปรแกรมอะไร?
มันคือโปรแกรมที่ค่อนข้างมีประโยชน์หลายด้าน และ เหล่า OC จะรู้จักกัน เพราะมันเป็นโปรแกรมตรวจสอบค่าต่างๆ ที่เกี่ยว กับ CPU , RAM ,main board , VGA ในเชิง ลึกๆ เกี่ยวกับค่าต่างๆ ที่ ของฮาร์ดแวร์ตัวนั้นๆ ซึ่งมักมีประโยชน์ ส่วนใหญ่ ไว้ใช้เช็ค แรกๆเลยก็คือ สเปค ของเครื่องเราครับ. เช่น เช็ครุ่น CPU ram ..
และถ้ามาระดับ แอ๊ดว๊านซ์หน่อย ก็จะมาดูตรง ความเร็ว คอร์ บัส ค่าตัวคูณ ระดับไฟ
และส่วนของอื่นๆ ขอให้ติดตามอ่านจากเนื้อหานะครับ.
ขอบคุณครับ.
เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูโปรแกรมกัน.

1.ไอคอนมันนะครับ.

2.เมื่อเปิดมันขึ้นมา แรกๆ เลย มันจะตรวจสอบ โปรแกรม(ตัวมันเอง) และตัวสอบฮาร์ดแวร์ของเราครับ.

3.จะขึ้นหน้าต่างแบบนี้ (แท็บแรกคือหน้าของ CPU )
**โดยที่แรกๆ ผมขอ ไปที่ส่วนของ แท็บ about (เกี่ยวกับโปรแกรม) ก่อนนะครับ

แท็บ about จะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ...
-เวอร์ชั่น ของโปรกแรม
-เกียวกับผู้ผลิตโปรแกรม(น่าจะ)
-เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการที่เราช้ปัจจุบัน
จากนั้น ผมจะย้อนมาที่แท็บ แรกๆ ต่อนะครับ คือแท็บของ CPU

โดยรายละเอียดของมัน ผมจะอธิบายแบบพอสังเขปนะครับ
1.ส่วนของ processor
-name เป็นส่วนที่แสดงชื่อ ยี่ห้อ,รุ่น ของซีพียู ที่เราใช้นะครับ ตามภาพก็จะเป็นรุ่น phenom ll X6 1090T
-code name เป็นชื่อของ สถาปัตยกรรม การผลิตของ ซีพียู ตัวนั้นๆ ซึ่งในรุปจะเป็น THUBAN (ชาวออนไลน์เรียกว่า ถูบ้าน)
-MAX TDP คือส่วนที่แสดงค่า ไฟ ที่มันใช้สูงสุดเต็มกำลัง ตามภาพ คือ 126 w
***MAX TDP จริงๆตัวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการกินไฟไปซะทีเดียว เพราะจริงๆแล้วมันคือ การกระจายความร้อนสูงสุดที่ออกแบบไว้ (ความร้อนก็มีหน่วยเป็นวัตต์ได้นะครับ)
คำนวนหาได้จาก ความถึ่ของสัญญาณนาฬิกา ความต่างศักย์ที่ใช้ และค่าคงที่ค่าหนึ่ง (ลองหาข้อมูลดูครับ)
แต่บังเอิญถ้าใช้แบบเดิมๆ มันมักจะมีปริมาณใกล้เคียงกันกับการกินไฟเฉลี่ย แต่มันก็แค่ ช่วงเล็กๆเท่านั้น (ถ้าลองดูกราฟกันจริงๆ) โดยท่าน. tawat_kun
-package แสดงถึง ซ็อกเก็ตของ ซีพียูนั้นๆ ตามภาพ ตัว x6 จะใช้ ซ็อกเก็ตแบบ am3 938
-technology คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ตามภาพจะเป็นแบบ 45nm ( nm = นาโนมิลลิเมตร ,ล้านส่วนของมิลลิเมตร)
?
-core voltage เป็นที่แสดงค่า ไฟ ที่ซีพียู กำลังใช้ ตามภาพ คือ ใช้ไป 1.386 V (หากเยอะไปจะอันตราย และถ้ามันโอเวอร์เมื่อไหร่ระบบจะตัด และปิดคอมลง เพราะระบบตัดไฟของเมนบอร์ด แต่ถ้าหากเราปิดระบบตัดไฟที่ว่า ผลที่ตามมาคือ ไหม้ )
- Specification ส่วนนี้ แสดงถึงชื่อซีพียู
และในส่วนของ Family , model , stepping , Ext.family ,Ext.model ส่วนนี้ผมไม่ทราบจริงๆ
-Revision คือส่วนที่แสดงของ ล็อตการผลิต
- Instructions ชุดคำสั่งภายในซีพียูที่ติดมา
2.มาถึงส่วนของ Clock (สัญญาณนาฬิกา)
-core speed ส่วนนี้แสดงถึง สัญญาณรอบนาฬิกา(หรือความเร็ว)ทั้งหมดนะครับ ตามรูป เป็น 3800 MHz หรือ 3.8GHz (หาร 1000)
-multiplier หรือตัวคูณ ขออธิบายแบบพอคร่าวๆนะครับ เป็นเสมือนช่องทางการส่งความเร็วซีพียู ตามรูปคือ X19 ก็คือ มี19 ช่องทาง
-bus speed หรือ บัสซีพียู .ส่วนนี้ผมก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจ แต่ขออธิบายเท่าที่เข้าใจนะครับ ก็คือ บัสซีพียูเป็นความเร็วสุทธิ และมันจะมารวมจากหลายๆ บัส (ตามตัวคูณ) จะเท่ากับ core speed ตามภาพก็คือ 200MHz (บัส) มาคูณกับ 19 (ตัวคูณ) จะเท่ากับ 3800MHz. ตามที่แสดงในส่วนของ core speed
-HT Link เป็นส่วนที่แสดงถึงความเร็วในการส่งข้อมูลระหว่าง CPU กับ ชิพเซ็ต NB , SB
3.ส่วนของ Cache CPU นะครับ
-L1 Data , L1 inst. แสดงขนาดพื้นที่ของ L cache 1 สังเกตได้ว่าน้อยมากๆ แต่มันก็ใกล้กับ คอร์สุดแล้ว.
-Level 2 แสดงขนาดพื้นที่ของ L cache 2
-Level 3 แสดงขนาดพื้นที่ของ L cache 3
4.ส่วนของ CPU ที่เราใช้
-core บอกถึงจำนวน คอร์ ของซีพียูที่เรามี
-thread บอกถึงจำนวน ทรีด ของซีพียูที่เรามีนะครับ

มาถึงแท็บของ Cache กันนะครับ.
ส่วนนี้ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ ข้อมูลที่ให้ไปไม่ฟันธงว่าถูกไหม เพราะหาข้อมูลไม่ได้เลย ต้องทำเอง
L cache
-Size บ่งบอกถึงขนาดพื้นที่ของ แคช ส่วนที่เป็น X6 นั้น เป็นจำนวน แคชตัวนั้นๆ ที่มี
-Descriptor
-way set associative แสดงถึงช่องทาง ของการส่งข้อมูล ระหว่าง แคช กับ คอร์
-line size ก็น่าจะตามชื่อ คือ ขนาดความจุของ ช่องทาง ในการส่ง

Main Board
เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับ Main board นะครับ
1.Mother board
-Manufacturer เป็นส่วนของ ยี่ห้อ บอร์ดที่เราใช้ ตามภาพคือ Asrock นะครับ
-Model เป็นส่วนของ ซีรี่ย์ / รุ่น ของบอร์ดที่เราใช้
-Chipset คือ รุ่น ชิปเซ็ต North bridge
-South bridge คือ รุ่น ชิปเซ็ต ของ SB
***Rev. คือเวอร์ชั่น
-LPCIO ไม่ทราบครับ.
***LPCIO คือชิพ superIO ที่เอาไว้ส่งค่า status ต่างๆ เช่นพวก ไฟต่าง ความร้อน ฯลฯ เช่นพวกโปรแกรม อ่านค่าความร้อนก็อ่านค่ามาจากชิพตัวนี้ ซึ่งชิพตัวนี้อ่านมาจากเซ็นเซอร์อีกทีแล้วเปลี่ยนเป็นสัญญาณดิจิตอล ทำหน้าที่เหมือน A2D Converter เลย โดยท่าน. tawat_kun
2.BIOS
-Brand คือ ยี่ห้อของไบออสที่ใช้
-Version ก็คือรุ่นที่ใช้
-Date คือวันที่ ไบออส ถูกทำขึ้น
3.Graphic Interface
-Version คือการเชื่อมต่อ ที่ใช่เชื่อมต่อระหว่าง การ์ดจอกับ เมนบอร์ด
-Link width คือ แบนวิท ที่ใช้
-max supported คือ แบนสูงสุดๆ ที่ใช้ได้

Memory (หรือ แรม)
แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ แรม ที่เราใช้นะครับ.
1.general
-Type แสดงถึง แพลตฟอร์มของแรมที่เราใช้ ตามภาพคือ DDR3 (double data rate )
-Size แสดงถึง ขนาดความจุ ของแรมที่เราใช้(ทั้งหมด) ตามภาพคือ 8192 MB หรือ 8Gb
-Channels # การเชื่อมต่อระหว่างแรมกับ บอร์ดเป็นแบไหน? ที่มีตอนนี้ก็ Single Dual triple
-DC mode หมายถึง ความสมมาตรกันของแรม ถ้าหากใส่แรมแค่ช่องเดียว ช่อง DC Mode นี้จะไม่แสดงค่าอะไรเลย ( credit :notebookspec)
***DC Mode ผมเข้าใจว่าเป็น Dual Channel Mode นั่นคือ Mode การทำงานของแรมแบบ Dual Channel
เพราะที่ทราบมาแล้วว่าเมื่อแรมทำงานแบบ Dual Channel ถ้าแรมแถวละ 64 บิต การทำงานสูงสุดจะทำได้ 128 บิต
แต่การทำงานแบบนี้สามารถปรับ Mode ให้เป็นแบบ
- Ganged คือ Mode การทำงานแบบแรม 64 บิต สองแถวทำงานเหมือนมีแถวเดียว แต่วิ่งที่ 128 บิต
หรือ
- Unganged คือ Mode การทำงานแบบแรม 64 บิต สองแถวทำงานเหมือนมีแถวเดียว แต่วิ่งด้วยบัส 64 บิตสองช่อง แบบนี้เป็นแบบที่เราๆใช้กันเพราะเหมาะสมกับซีพียูหลายๆ core หรือ thread โดยท่าน.tawat_kun
-NB frequency ความเร็วในการส่งข้อมูล ระหว่าง แรม กับ NB
2.timing ส่วนนี้ขอยืม ข้อมูลของท่านอื่นมานะครับ
?
ค่า CL ของRam
เป็น Timings ครับ กล่าวคือ เป็นการจับเวลาว่า Chip หน่วยความจำใช้เวลาในการทำงานบางอย่างมากน้อยแค่ไหน เรียกกันว่า "ค่าหน่วงเวลา" ครับ ซึ่งหลายๆ คน คงเคยเห็นกันมาบ้าง แต่ก็แค่ ได้เห็น แล้วก็ผ่านๆ ไป ในค่าหน่วงเวลานี้ ตัวสำคัญที่สุด น่าจะ เป็นค่า CAS Latency (CL > Access Time) > ค่านี้ใช้บอกว่า RAM ต้องใช้ สัญญาณนาฬิกา กี่รอบกว่าจะอ่านข้อมูลเสร็จแล้ว "ส่งต่อ" ให้ CPU ได้ หาก RAM แสดงค่า CL4 ก็จะหมายถึงว่า ต้องใช้ 4 สัญญาณนาฬิกา (รอบ) เพราะฉะนั้น จะกี่รอบก็แล้วแต่ ถ้าท่านอยากทราบ ก็ให้ดูตัวเลข ที่ต่อท้าย นั่นแหละครับ จำนวนรอบ (ยิ่งรอบน้อย ยิ่งเร็ว) ครับ พวกนี้เป็นค่า "Latency" นั่นเอง ครับ ส่วนอื่นๆ ก็ลองอ่านตามด้านล่างนี้ครับ (ค่าอื่นๆ)
- CL > CAS Latency ค่าหน่วงเวลาที่ CPU "ต้องรอ" RAM อ่านข้อมูล ที่ CPU ได้ร้องขอไป
- tRCD > RAS to CAS Delay เป็นค่าหน่วงเวลาระหว่างการส่งสัญญาณบอกตำแหน่งแถว (RAS) และบอกตำแหน่ง คอลัมน์
(CAS) เพื่อไปเอาข้อมูลซึ่งถูกเก็บในแบบ เมตทริกซ์
- tRP > RAS Recharge เป็นค่าหน่วงเวลาเพื่อรอการ Refresh หน่วยความจำ ก่อนจะเริ่มทำงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง
- tRAS > RAS Active Time ค่าหน่วงเวลาที่ RAM ใช้ในการหาตำแหน่งของแถว ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อต้องเข้าถึง "ข้อมูลใหม่"
โดย ปกติ แล้ว ใน Bios จะกำหนดค่า Latency เริ่มต้นมาเป็น Auto ซึ่งมันจะหาค่าที่ ต่ำที่สุด แล้วเครื่องยังสามารถ ทำงาน
ได้เป็นปกติ ส่วนจะปรับเปลี่ยนเองก็ได้ เพียงเลือกไปที่ หมวด Manual แต่ที่สำคัญที่สุดคือ Motherboard ที่ท่านใช้อยู่
ยอมให้เปลี่ยนหรือไม่ ก็ต้องเป็นรุ่นๆ ไป ครับ
จากคุณ : river no return (Smithfield) - [ 1 มี.ค. 52 04
12 ] พันทิป

SPD ส่วนนี้แสดงรายละเอียดย่อยของ แรมเช่นกันครับ.
1.Memory Slot selection
-Slot # คือสล็อตแรมที่เราใช้
-Module size คือขนาดความจุของแรมตัวนั้น (ตัวเดียวนะครับไม่ใช่ทั้งหมด)
-Max bandwidth แบนวิท(BUS) สูงสุดที่ แรมสามารถใช้ได้
***ตรงส่วนนี้แหละครับเป็นส่วนที่วัดบัสของแรมเรา วิธีคือง่ายๆ เอาเลขในวงเล็บมา ตามภาพคือ 667 ให้นำมา คูณ 2
จะเท่ากับ 1334 แต่ตามหลักของแรมจริงๆ มันทำได้แค่ 1333 (คือ บวกลบไม่เกิน 1)
-manufacturer ยี่ห้อของแรม
-Part number แสดงรายละเอียดชื่อรหัสรุ่น
?
2.timing table
ส่วนนี้ขอไม่อธิบายเกี่ยวกับค่า CL ทั้งปวงนะครับ เพราะมันเนื้อหาเดียวกันกับที่อธิบายในส่วนของแท็บ memory
-JEDEC #1 #2 #3 แสดงคือค่าต่างๆตามการใช้งาน คือ อธิบายง่ายๆได้ว่า ถ้าเราใช้ไม่หนัก ก็จะใช้ ค่าที่ #1 แทน และเรียงลำดับ ไปจน #3 ส่วน XMP คือค่าที่แรมมันสามารถทำได้สูงสุด (สูงสุดในที่นี้คือตาม สเปคโรงงาน ไม่รวม กับ การ OC )
***JEDEC เป็นมาตรฐานการทำงานที่แรมปรับตั้งไว้ เราสามารถตั้งค่าตามนี้แล้วใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ อาจจะได้หรือไม่ได้ก็ได้
ตรงที่ผมทำสีแดงคือไม่น่าจะถูกต้อง เพราะแรมมันปรับค่า CL ในขณะที่ทำงานอยู่ไม่ได้ ไม่เหมือน CPU ที่สามารถปรับลดความถี่ในขณะทำงานมากหรือน้อยได้ครับ
โดยท่าน. tawat_kun
-Voltage คือค่าไฟที่แรมใช้หล่อเลี้ยงในการทำงาน

Graphics เป็นส่วนที่แสดงถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ อุปกรณ์ประมวลผล/แสดงผล ในรูปแบบ ภาพ นะครับ
(ก็ การ์ดจอ นั่นแหละ)
1.Display Device selection เป็นส่วนที่ให้เราเลือกดูค่าการ์ดจอแต่ละตัว (ปกติใส่ตัวเดียวจะเลือกไม่ได้ ยกเว้นใส่ 2ตัวขึ้นไป)
2.GPU
-name ก็คือชื่อรุ่นชิปประมวลผล ของการ์ดตัวนั้น
-code name น่าจะหมายถึง สถาปัตยกรรม การผลิต ของ GPU ตัวนั้นๆ (อันนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่นะครับ.)
-technology ก็คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ตามภาพคือ 40nm
3.Clock เป็นส่วน ที่เกี่ยวกับ สัญญาณนาฬิกา (ความเร็ว)
-core เป็นความเร็วของแกนประมวลผล
?
-Shader มันเป็น ระบบ คำนวน โทนของสี โทนของแสง ระดับของสี
ซึ่งความหมาย โดยรวมนะครับ
ในส่วนของ Shader จะรวมไปด้วย Texture(พื้นผิว) Specular(มีอีกชื่อ ว่า ไฮไลท์หรือจุด ตกกระทบของแสง ที่ กระทำต่อวัตถุ)
Alpha(การทำให้ใส ด้วย การเจาะทะลุ คิดจากค่า 0 กับ 1)
Opacity(การทำให้ใส คิดจากค่า 0 กับ 1) (Credit : excomics . overclockzone)
-memory คือความเร็วในการส่งข้อมูลของแรม การ์ดจอ
4.memory แรมการ์ดจอ
-size แสดงถึงขนาดความจุของแรมการ์ดจอที่ใช้. ตามภาพคือ 1024mb หรือ 1gb
-Type ก็ประเภทของแรมที่การ์ดจอใช้ (มันไม่แสดง)
เอาละครับ ตอนนี้ก็หมด(เกือบ)ทุกเรื่องแล้วนะครับ
ผมหวังว่ามันคงเป็นความรู้ไม่มากก็น้อยแก่ผู้อ่านนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณท่าน tawat_kun
ที่ช่วยแก้ไขให้นะครับ ขอบคุณมากครับ.
และข้อมูลบางขอ้มูลที่มันผิด รึ ไม่ถูกยังไง รบกวน ติเตียน และถ้าเป็นไปได้ขอข้อมูลที่ถูกต้องด้วยนะครับ เพื่อน้ำมาแก้ไข
จริงๆงานนี้เป็น รายงาน ของโรงเรียนครับ ทำไปทำมา จะส่งเฉยๆ ก็เสียดาย ขอนำมาแบ่งเพื่อนๆ

นี่เป็น ตราสัญลักษณ์ ของโปรแกรม

ส่วนนี่คือเจ้าของที่ทำขึ้นมาครับ
โปรแกรมนี้มันโปรแกรมอะไร?
มันคือโปรแกรมที่ค่อนข้างมีประโยชน์หลายด้าน และ เหล่า OC จะรู้จักกัน เพราะมันเป็นโปรแกรมตรวจสอบค่าต่างๆ ที่เกี่ยว กับ CPU , RAM ,main board , VGA ในเชิง ลึกๆ เกี่ยวกับค่าต่างๆ ที่ ของฮาร์ดแวร์ตัวนั้นๆ ซึ่งมักมีประโยชน์ ส่วนใหญ่ ไว้ใช้เช็ค แรกๆเลยก็คือ สเปค ของเครื่องเราครับ. เช่น เช็ครุ่น CPU ram ..
และถ้ามาระดับ แอ๊ดว๊านซ์หน่อย ก็จะมาดูตรง ความเร็ว คอร์ บัส ค่าตัวคูณ ระดับไฟ
และส่วนของอื่นๆ ขอให้ติดตามอ่านจากเนื้อหานะครับ.
ขอบคุณครับ.
เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูโปรแกรมกัน.

1.ไอคอนมันนะครับ.

2.เมื่อเปิดมันขึ้นมา แรกๆ เลย มันจะตรวจสอบ โปรแกรม(ตัวมันเอง) และตัวสอบฮาร์ดแวร์ของเราครับ.

3.จะขึ้นหน้าต่างแบบนี้ (แท็บแรกคือหน้าของ CPU )
**โดยที่แรกๆ ผมขอ ไปที่ส่วนของ แท็บ about (เกี่ยวกับโปรแกรม) ก่อนนะครับ

แท็บ about จะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ...
-เวอร์ชั่น ของโปรกแรม
-เกียวกับผู้ผลิตโปรแกรม(น่าจะ)
-เกี่ยวกับระบบปฏิบัติการที่เราช้ปัจจุบัน
จากนั้น ผมจะย้อนมาที่แท็บ แรกๆ ต่อนะครับ คือแท็บของ CPU

โดยรายละเอียดของมัน ผมจะอธิบายแบบพอสังเขปนะครับ
1.ส่วนของ processor
-name เป็นส่วนที่แสดงชื่อ ยี่ห้อ,รุ่น ของซีพียู ที่เราใช้นะครับ ตามภาพก็จะเป็นรุ่น phenom ll X6 1090T
-code name เป็นชื่อของ สถาปัตยกรรม การผลิตของ ซีพียู ตัวนั้นๆ ซึ่งในรุปจะเป็น THUBAN (ชาวออนไลน์เรียกว่า ถูบ้าน)
-MAX TDP คือส่วนที่แสดงค่า ไฟ ที่มันใช้สูงสุดเต็มกำลัง ตามภาพ คือ 126 w
***MAX TDP จริงๆตัวนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการกินไฟไปซะทีเดียว เพราะจริงๆแล้วมันคือ การกระจายความร้อนสูงสุดที่ออกแบบไว้ (ความร้อนก็มีหน่วยเป็นวัตต์ได้นะครับ)
คำนวนหาได้จาก ความถึ่ของสัญญาณนาฬิกา ความต่างศักย์ที่ใช้ และค่าคงที่ค่าหนึ่ง (ลองหาข้อมูลดูครับ)
แต่บังเอิญถ้าใช้แบบเดิมๆ มันมักจะมีปริมาณใกล้เคียงกันกับการกินไฟเฉลี่ย แต่มันก็แค่ ช่วงเล็กๆเท่านั้น (ถ้าลองดูกราฟกันจริงๆ) โดยท่าน. tawat_kun
-package แสดงถึง ซ็อกเก็ตของ ซีพียูนั้นๆ ตามภาพ ตัว x6 จะใช้ ซ็อกเก็ตแบบ am3 938
-technology คือเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ตามภาพจะเป็นแบบ 45nm ( nm = นาโนมิลลิเมตร ,ล้านส่วนของมิลลิเมตร)
?
-core voltage เป็นที่แสดงค่า ไฟ ที่ซีพียู กำลังใช้ ตามภาพ คือ ใช้ไป 1.386 V (หากเยอะไปจะอันตราย และถ้ามันโอเวอร์เมื่อไหร่ระบบจะตัด และปิดคอมลง เพราะระบบตัดไฟของเมนบอร์ด แต่ถ้าหากเราปิดระบบตัดไฟที่ว่า ผลที่ตามมาคือ ไหม้ )
- Specification ส่วนนี้ แสดงถึงชื่อซีพียู
และในส่วนของ Family , model , stepping , Ext.family ,Ext.model ส่วนนี้ผมไม่ทราบจริงๆ
-Revision คือส่วนที่แสดงของ ล็อตการผลิต
- Instructions ชุดคำสั่งภายในซีพียูที่ติดมา
2.มาถึงส่วนของ Clock (สัญญาณนาฬิกา)
-core speed ส่วนนี้แสดงถึง สัญญาณรอบนาฬิกา(หรือความเร็ว)ทั้งหมดนะครับ ตามรูป เป็น 3800 MHz หรือ 3.8GHz (หาร 1000)
-multiplier หรือตัวคูณ ขออธิบายแบบพอคร่าวๆนะครับ เป็นเสมือนช่องทางการส่งความเร็วซีพียู ตามรูปคือ X19 ก็คือ มี19 ช่องทาง
-bus speed หรือ บัสซีพียู .ส่วนนี้ผมก็ยังไม่ค่อยจะแน่ใจ แต่ขออธิบายเท่าที่เข้าใจนะครับ ก็คือ บัสซีพียูเป็นความเร็วสุทธิ และมันจะมารวมจากหลายๆ บัส (ตามตัวคูณ) จะเท่ากับ core speed ตามภาพก็คือ 200MHz (บัส) มาคูณกับ 19 (ตัวคูณ) จะเท่ากับ 3800MHz. ตามที่แสดงในส่วนของ core speed
-HT Link เป็นส่วนที่แสดงถึงความเร็วในการส่งข้อมูลระหว่าง CPU กับ ชิพเซ็ต NB , SB
3.ส่วนของ Cache CPU นะครับ
-L1 Data , L1 inst. แสดงขนาดพื้นที่ของ L cache 1 สังเกตได้ว่าน้อยมากๆ แต่มันก็ใกล้กับ คอร์สุดแล้ว.
-Level 2 แสดงขนาดพื้นที่ของ L cache 2
-Level 3 แสดงขนาดพื้นที่ของ L cache 3
4.ส่วนของ CPU ที่เราใช้
-core บอกถึงจำนวน คอร์ ของซีพียูที่เรามี
-thread บอกถึงจำนวน ทรีด ของซีพียูที่เรามีนะครับ

มาถึงแท็บของ Cache กันนะครับ.
ส่วนนี้ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ ข้อมูลที่ให้ไปไม่ฟันธงว่าถูกไหม เพราะหาข้อมูลไม่ได้เลย ต้องทำเอง
L cache
-Size บ่งบอกถึงขนาดพื้นที่ของ แคช ส่วนที่เป็น X6 นั้น เป็นจำนวน แคชตัวนั้นๆ ที่มี
-Descriptor
-way set associative แสดงถึงช่องทาง ของการส่งข้อมูล ระหว่าง แคช กับ คอร์
-line size ก็น่าจะตามชื่อ คือ ขนาดความจุของ ช่องทาง ในการส่ง

Main Board
เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับ Main board นะครับ
1.Mother board
-Manufacturer เป็นส่วนของ ยี่ห้อ บอร์ดที่เราใช้ ตามภาพคือ Asrock นะครับ
-Model เป็นส่วนของ ซีรี่ย์ / รุ่น ของบอร์ดที่เราใช้
-Chipset คือ รุ่น ชิปเซ็ต North bridge
-South bridge คือ รุ่น ชิปเซ็ต ของ SB
***Rev. คือเวอร์ชั่น
-LPCIO ไม่ทราบครับ.
***LPCIO คือชิพ superIO ที่เอาไว้ส่งค่า status ต่างๆ เช่นพวก ไฟต่าง ความร้อน ฯลฯ เช่นพวกโปรแกรม อ่านค่าความร้อนก็อ่านค่ามาจากชิพตัวนี้ ซึ่งชิพตัวนี้อ่านมาจากเซ็นเซอร์อีกทีแล้วเปลี่ยนเป็นสัญญาณดิจิตอล ทำหน้าที่เหมือน A2D Converter เลย โดยท่าน. tawat_kun
2.BIOS
-Brand คือ ยี่ห้อของไบออสที่ใช้
-Version ก็คือรุ่นที่ใช้
-Date คือวันที่ ไบออส ถูกทำขึ้น
3.Graphic Interface
-Version คือการเชื่อมต่อ ที่ใช่เชื่อมต่อระหว่าง การ์ดจอกับ เมนบอร์ด
-Link width คือ แบนวิท ที่ใช้
-max supported คือ แบนสูงสุดๆ ที่ใช้ได้

Memory (หรือ แรม)
แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับ แรม ที่เราใช้นะครับ.
1.general
-Type แสดงถึง แพลตฟอร์มของแรมที่เราใช้ ตามภาพคือ DDR3 (double data rate )
-Size แสดงถึง ขนาดความจุ ของแรมที่เราใช้(ทั้งหมด) ตามภาพคือ 8192 MB หรือ 8Gb
-Channels # การเชื่อมต่อระหว่างแรมกับ บอร์ดเป็นแบไหน? ที่มีตอนนี้ก็ Single Dual triple
-DC mode หมายถึง ความสมมาตรกันของแรม ถ้าหากใส่แรมแค่ช่องเดียว ช่อง DC Mode นี้จะไม่แสดงค่าอะไรเลย ( credit :notebookspec)
***DC Mode ผมเข้าใจว่าเป็น Dual Channel Mode นั่นคือ Mode การทำงานของแรมแบบ Dual Channel
เพราะที่ทราบมาแล้วว่าเมื่อแรมทำงานแบบ Dual Channel ถ้าแรมแถวละ 64 บิต การทำงานสูงสุดจะทำได้ 128 บิต
แต่การทำงานแบบนี้สามารถปรับ Mode ให้เป็นแบบ
- Ganged คือ Mode การทำงานแบบแรม 64 บิต สองแถวทำงานเหมือนมีแถวเดียว แต่วิ่งที่ 128 บิต
หรือ
- Unganged คือ Mode การทำงานแบบแรม 64 บิต สองแถวทำงานเหมือนมีแถวเดียว แต่วิ่งด้วยบัส 64 บิตสองช่อง แบบนี้เป็นแบบที่เราๆใช้กันเพราะเหมาะสมกับซีพียูหลายๆ core หรือ thread โดยท่าน.tawat_kun
-NB frequency ความเร็วในการส่งข้อมูล ระหว่าง แรม กับ NB
2.timing ส่วนนี้ขอยืม ข้อมูลของท่านอื่นมานะครับ
?
ค่า CL ของRam
เป็น Timings ครับ กล่าวคือ เป็นการจับเวลาว่า Chip หน่วยความจำใช้เวลาในการทำงานบางอย่างมากน้อยแค่ไหน เรียกกันว่า "ค่าหน่วงเวลา" ครับ ซึ่งหลายๆ คน คงเคยเห็นกันมาบ้าง แต่ก็แค่ ได้เห็น แล้วก็ผ่านๆ ไป ในค่าหน่วงเวลานี้ ตัวสำคัญที่สุด น่าจะ เป็นค่า CAS Latency (CL > Access Time) > ค่านี้ใช้บอกว่า RAM ต้องใช้ สัญญาณนาฬิกา กี่รอบกว่าจะอ่านข้อมูลเสร็จแล้ว "ส่งต่อ" ให้ CPU ได้ หาก RAM แสดงค่า CL4 ก็จะหมายถึงว่า ต้องใช้ 4 สัญญาณนาฬิกา (รอบ) เพราะฉะนั้น จะกี่รอบก็แล้วแต่ ถ้าท่านอยากทราบ ก็ให้ดูตัวเลข ที่ต่อท้าย นั่นแหละครับ จำนวนรอบ (ยิ่งรอบน้อย ยิ่งเร็ว) ครับ พวกนี้เป็นค่า "Latency" นั่นเอง ครับ ส่วนอื่นๆ ก็ลองอ่านตามด้านล่างนี้ครับ (ค่าอื่นๆ)
- CL > CAS Latency ค่าหน่วงเวลาที่ CPU "ต้องรอ" RAM อ่านข้อมูล ที่ CPU ได้ร้องขอไป
- tRCD > RAS to CAS Delay เป็นค่าหน่วงเวลาระหว่างการส่งสัญญาณบอกตำแหน่งแถว (RAS) และบอกตำแหน่ง คอลัมน์
(CAS) เพื่อไปเอาข้อมูลซึ่งถูกเก็บในแบบ เมตทริกซ์
- tRP > RAS Recharge เป็นค่าหน่วงเวลาเพื่อรอการ Refresh หน่วยความจำ ก่อนจะเริ่มทำงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง
- tRAS > RAS Active Time ค่าหน่วงเวลาที่ RAM ใช้ในการหาตำแหน่งของแถว ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อต้องเข้าถึง "ข้อมูลใหม่"
โดย ปกติ แล้ว ใน Bios จะกำหนดค่า Latency เริ่มต้นมาเป็น Auto ซึ่งมันจะหาค่าที่ ต่ำที่สุด แล้วเครื่องยังสามารถ ทำงาน
ได้เป็นปกติ ส่วนจะปรับเปลี่ยนเองก็ได้ เพียงเลือกไปที่ หมวด Manual แต่ที่สำคัญที่สุดคือ Motherboard ที่ท่านใช้อยู่
ยอมให้เปลี่ยนหรือไม่ ก็ต้องเป็นรุ่นๆ ไป ครับ
จากคุณ : river no return (Smithfield) - [ 1 มี.ค. 52 04


SPD ส่วนนี้แสดงรายละเอียดย่อยของ แรมเช่นกันครับ.
1.Memory Slot selection
-Slot # คือสล็อตแรมที่เราใช้
-Module size คือขนาดความจุของแรมตัวนั้น (ตัวเดียวนะครับไม่ใช่ทั้งหมด)
-Max bandwidth แบนวิท(BUS) สูงสุดที่ แรมสามารถใช้ได้
***ตรงส่วนนี้แหละครับเป็นส่วนที่วัดบัสของแรมเรา วิธีคือง่ายๆ เอาเลขในวงเล็บมา ตามภาพคือ 667 ให้นำมา คูณ 2
จะเท่ากับ 1334 แต่ตามหลักของแรมจริงๆ มันทำได้แค่ 1333 (คือ บวกลบไม่เกิน 1)
-manufacturer ยี่ห้อของแรม
-Part number แสดงรายละเอียดชื่อรหัสรุ่น
?
2.timing table
ส่วนนี้ขอไม่อธิบายเกี่ยวกับค่า CL ทั้งปวงนะครับ เพราะมันเนื้อหาเดียวกันกับที่อธิบายในส่วนของแท็บ memory
-JEDEC #1 #2 #3 แสดงคือค่าต่างๆตามการใช้งาน คือ อธิบายง่ายๆได้ว่า ถ้าเราใช้ไม่หนัก ก็จะใช้ ค่าที่ #1 แทน และเรียงลำดับ ไปจน #3 ส่วน XMP คือค่าที่แรมมันสามารถทำได้สูงสุด (สูงสุดในที่นี้คือตาม สเปคโรงงาน ไม่รวม กับ การ OC )
***JEDEC เป็นมาตรฐานการทำงานที่แรมปรับตั้งไว้ เราสามารถตั้งค่าตามนี้แล้วใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ อาจจะได้หรือไม่ได้ก็ได้
ตรงที่ผมทำสีแดงคือไม่น่าจะถูกต้อง เพราะแรมมันปรับค่า CL ในขณะที่ทำงานอยู่ไม่ได้ ไม่เหมือน CPU ที่สามารถปรับลดความถี่ในขณะทำงานมากหรือน้อยได้ครับ
โดยท่าน. tawat_kun
-Voltage คือค่าไฟที่แรมใช้หล่อเลี้ยงในการทำงาน

Graphics เป็นส่วนที่แสดงถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ อุปกรณ์ประมวลผล/แสดงผล ในรูปแบบ ภาพ นะครับ
(ก็ การ์ดจอ นั่นแหละ)
1.Display Device selection เป็นส่วนที่ให้เราเลือกดูค่าการ์ดจอแต่ละตัว (ปกติใส่ตัวเดียวจะเลือกไม่ได้ ยกเว้นใส่ 2ตัวขึ้นไป)
2.GPU
-name ก็คือชื่อรุ่นชิปประมวลผล ของการ์ดตัวนั้น
-code name น่าจะหมายถึง สถาปัตยกรรม การผลิต ของ GPU ตัวนั้นๆ (อันนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่นะครับ.)
-technology ก็คือ เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ตามภาพคือ 40nm
3.Clock เป็นส่วน ที่เกี่ยวกับ สัญญาณนาฬิกา (ความเร็ว)
-core เป็นความเร็วของแกนประมวลผล
?
-Shader มันเป็น ระบบ คำนวน โทนของสี โทนของแสง ระดับของสี
ซึ่งความหมาย โดยรวมนะครับ
ในส่วนของ Shader จะรวมไปด้วย Texture(พื้นผิว) Specular(มีอีกชื่อ ว่า ไฮไลท์หรือจุด ตกกระทบของแสง ที่ กระทำต่อวัตถุ)
Alpha(การทำให้ใส ด้วย การเจาะทะลุ คิดจากค่า 0 กับ 1)
Opacity(การทำให้ใส คิดจากค่า 0 กับ 1) (Credit : excomics . overclockzone)
-memory คือความเร็วในการส่งข้อมูลของแรม การ์ดจอ
4.memory แรมการ์ดจอ
-size แสดงถึงขนาดความจุของแรมการ์ดจอที่ใช้. ตามภาพคือ 1024mb หรือ 1gb
-Type ก็ประเภทของแรมที่การ์ดจอใช้ (มันไม่แสดง)
เอาละครับ ตอนนี้ก็หมด(เกือบ)ทุกเรื่องแล้วนะครับ
ผมหวังว่ามันคงเป็นความรู้ไม่มากก็น้อยแก่ผู้อ่านนะครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณท่าน tawat_kun
ที่ช่วยแก้ไขให้นะครับ ขอบคุณมากครับ.
Comment