ผ่า Time Capsule เพิ่มความจุ

[haraku]

พอดี Time Capsule ที่ผมใช้อยู่มันความจุแค่ 500GB ไม่เพียงพอสำหรับ backup ข้อมูล ทำให้หลังๆ Time Machine ใช้เวลามากกว่าเดิมในการ backup เพราะต้องคอยลบของเดิมออกก่อนจะ backup ของใหม่ ก็เลยตัดสันใจผ่าตัดเปลี่ยน Harddisk เองหลังจาก google หาข้อมูลจนมั่นใจแล้ว

เลยสรุปวิธีการ DIY มาให้ดูครับ เผื่อเป็น idea สำหรับคนอยากทำบ้าง

Time Capsule เป็นทั้ง Airport Base station และเป็นแล้วก็ 3 port LAN hub และยังทำหน้าที่เป็น Time Machine Storage ด้วย
กรณีผมมี Wireless Router เป็นตัวหลักอยู่แล้ว เลยไม่ได้ใช้ Time Capsule เป็น Airport ใช้แค่เป็น Time Machine เพื่อ backup ข้อมูลเป็นหลัก แต่บางครั้ง AppleTV ก็หา access point จากตัว Wireless router ไม่เจอไม่รู้เพราะอะไร (น่าจะ channel ไม่ตรง ซึ่งต้องปิดเปิด router หลายๆรอบกว่าจะมองเห็น) แต่พอใช้ Time Capsule เป็น Airport Base station ก็เชื่อมต่อได้ทุกครั้ง ก็เลยใช้เวลาจะทำ Airplay เท่านั้น

Time Capsule ตัวนี้ผมทำเป็น Time Machine ให้ backup ข้อมูลกับเครื่องทุกเครื่องที่บ้าน ซึ่งจะ backup เองอัตโนมัติผ่าน Wireless (ผมเปิดอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง หรือเวลาต้องการ restore ข้อมูล) แต่จะเลือก backup เฉพาะตัว OS และงานที่สำคัญบางส่วนเท่านั้น


ว่ามาซะยาว... เตรียมผ่าตัดเลยครับ

หน้าตาก่อนผ่านมีดหมอ...

1.jpg

ด้านหลังมี 3 LAN port และมี USB สำหรับต่อตรง แต่ผมใช้สาย LAN ต่อเชื่อกับ router หลักเพื่อให้ตัวมันเป็น Airport Base Station ได้ด้วย

2.jpg

[haraku]

หงายท้องมาจะเห็นแผ่นยางนุ่มๆ ไม่เห็นช่องหมุนน๊อต!!
Apple ใช้วิธีติดกาวแผ่นยางไว้กับแผ่นรองอีกทีครับ วิธีการคือค่อยๆเลาะมุมทั้ง 4 มุม(ที่ลูกศรแดงชี้)ออกอย่างใจเย็นๆ ทีละน้อยๆ... ต้องเน้นว่าใจเย็นๆครับ เพราะเห็น DIY ใน Youtube เจ้านึงดึงแรงไปยางขาดกระจุยไม่มีชิ้นดี เพราะกาวก็เหนียวพอสมควรถึงจะลอกได้ก็เถอะ

3.jpg

หลังจากค่อยๆลอกทุกมุมช้าๆ จะได้เป็นแผ่นแบบนี้ออกมา

4.jpg

[haraku]

ต้องใช้ ทอร์ก เบอร์เล็กๆค่อยหมุนน๊อตออกเพื่อเปิดฝาหลังออก

5.jpg

พอหมุนน๊อตออกจนหมดแล้ว ค่อยแง้มฝา เพราะจะมีสายไฟพัดลมระบายอากาศอยู่... ถอดสายออกก่อน

6.jpg

จะเห็นข้างในแบบนี้ จะมี Temp Sensor (เซนเซอร์ อุณหภูมิของ Hardisk ถ้าร้อนถึงระดับนึงพัดลมจะทำงาน)
แล้วก็ตรงลูกศรแดงๆ คือน๊อตที่ยึด harddisk กับกล่องไว้ เราต้องใช้น๊อตชุดนี้ยึดกับ harddisk ตัวใหม่ที่เราจะใช้ด้วย

7.jpg

[planin04]

[haraku]

ใจเย็นๆค่อยๆลอก temp sensor ออกจาก harddisk จำตำแหน่งคร่าวๆไว้ เพราะเราต้องติด temp sensor กลับตำแหน่งใกล้ๆที่เดิม
จากนั้นค่อยๆถอดสาย SATA/power ของ harddisk ออก

8.jpg

ผมเปลี่ยนตัวเก่า 500GB ออก (อันเดิมที่ติดมาเป็น WD สีฟ้า) ผมเปลี่ยนใช้ low power สีเขียวแทน

9.jpg

ถอดน๊อต 4 ตัวที่ยึดตัวเดิมมาใส่ตัวใหม่แล้วประกอบกับที่เดิม อย่าลืมแปะ Temp sensor ไว้ตำแหน่งใกล้ๆเคียงกับของเดิม

11.jpg

[haraku]

ปวดจิตกับเน็ตทุยมาก... ติดๆดับๆตลอด... -__-"


เสียบสายพัดลม ปิดฝา หมุนน๊อตกลับที่เดิม ส่วนตัวแผ่นยางผมใช้กระดาษกาว 2 หน้ายึดเป็นจุดๆประมาณนี้

14.jpg

ประกอบเรียบร้อยเหมือนเดิม พร้อมใช้

15.jpg

ลองเปิด แล้วเสียบสาย LAN จาก router ดู สักพักจะเห็น icon Time Machine Backups โผล่มา

16.jpg

[haraku]

ลองเปิด Airport Utility ดู (ใน Application / Utilities)
จะเห็น Icon ของ Airport Base Station ของ Time Capsule โผล่มา

19.jpg

click ที่ icon จะมี properties ขึ้นมา

20.jpg

มาดูที่ Disks จะมี Harddisk ความจุใหม่ที่พึ่งเปลี่ยนไปมาแทน 500GB ของเดิม
(จริงๆจะประมาณเกือบ 1TB แต่ในรูปผมใช้ backup ไปหลายเดือนแล้วเลยเหลือ 7 ร้อยกว่า GB)

22.jpg

[haraku]

ถ้าเราจะ set ให้ Time Capsule เป็น Airport Base Station ก็ที่หน้านี้เลย
ตั้งชื่อ Base Station ของเรา แล้วก็เลือก รหัสผ่านสำหรับเชื่อมต่อเท่านี้ก็เสร็จละ พวกเครื่องที่จะเชื่อม WiFi เข้ามาก็จะมองเห็นชื่อ Base Station ตามที่เราตั้งและจะต้องใส่ password ตามที่เรากำหนดไว้ถึงจะใช้งาน internet ได้

21.jpg

ลองเรียก Time Machine ดู

17.jpg

ลอง backup ดู... ok ใช้งานได้ปกติ... หลับสบาย
ปกติตัว Time Capsule จะกันพื้นที่บางส่วนไว้ จะเหลือไม่เต็มจากความจุทั้งหมด

18.jpg


พอเป็น idea นะครับเผื่อใครมีใช้แล้วอยากจะเพิ่มความจุ
ตกหล่นตรงไหนขออภัยครับ

[netsurfz]

เพิ่มได้สูงสุดเท่าไหร่เอย

[umsterdam]

เจ้าตัวนี้ใช้ทำอะไรหรอครับ มีความจำเป็นไหมครับ

[TongKran_@]

แล้วประกันหล่ะคับ

อยากทำบ้าง ใช้ 500GB ไม่พอเหมือนกันคับ

[momoari]

ประกัน ถ้าแกะดีๆผมว่าไม่น่าหลุดนะ แต่เตือนนิดนึงตรงใช้ Green มาทำหน้าที่ Backup และเปิดใช้มันบ่อยๆนี่แหละอันตรายมากครับ ข้อเสียรุ่นนี้มีหลายอย่างลองหาอ่านดู ที่แน่ๆคือช้าและไม่ทนเอาซะเลย

[haraku]

เพิ่มได้สูงสุดเท่าไหร่เอย

ไม่แน่ใจครับ แต่เห็นใน google มีคนเอา 3TB ลงก็ใช้ได้ครับ

[haraku]

เจ้าตัวนี้ใช้ทำอะไรหรอครับ มีความจำเป็นไหมครับ

ผมใช้ backup storage ของ Time Machine เป็นหลักครับ แล้วก็ใช้เป็น Airport base station บ้างเวลาทำ airplay กับ AppleTv

แล้วประกันหล่ะคับ
อยากทำบ้าง ใช้ 500GB ไม่พอเหมือนกันคับ

พอดีตัวนี้หมดประกันแล้วครับ ก็เลยไม่ serious ครับ

ประกัน ถ้าแกะดีๆผมว่าไม่น่าหลุดนะ แต่เตือนนิดนึงตรงใช้ Green มาทำหน้าที่ Backup และเปิดใช้มันบ่อยๆนี่แหละอันตรายมากครับ ข้อเสียรุ่นนี้มีหลายอย่างลองหาอ่านดู ที่แน่ๆคือช้าและไม่ทนเอาซะเลย

ขอบคุณครับ - เรื่องประกันไม่แน่ใจครับ

ส่วน HD ผมใช้แต่ Green เพราะราคาน่าคบสุด แล้วก็ประหยัดไฟ ;D
ปกติใช้ backup เป็นหลักครับ ตัวนี้เปิดใช้อาทิตย์ละครั้ง 2-3 ครั้ง

อันนี้ความเห็นส่วนตัวเผื่อเป็น idea สำหรับคนใช้งานลักษณะแบบผม
จริงๆในเตรื่องผมมีแต่ Green (6 ตัว ทั้ง 1TB และ 2TB) ตัวที่อายุเยอะสุดที่ยังใช้อยู่น่าจะประมาณ 3 ปีน่าจะได้ ใช้เก็บข้อมูล backup เป็นหลัก ผมใช้งานค่อนข้างหนักบางทีเปิดข้ามวันข้ามคืน รุ่น green มันดีตรงที่ (คนอื่นอาจจะมองว่าอันนี้เป็นข้อเสีย) พอถึงเวลาหนึ่งมันจะ sleep เพื่อประหยัดพลังงาน และหลับลึกด้วย ;D เวลาจะใช้งานทีมันจะงัวเงียตื่นขึ้นมาโดยใช้เวลาประมาณ 2-3 วินาที (แล้วแต่ว่าหลับลึกแค่ไหน) เพื่อตื่นพร้อมใช้งาน แต่ผมโอเค รับได้ ส่วน speed เวลาทำงานถ้ามันอยู่ใน mode พร้อมใช้ ความเร็วใช้งานก็ปกติไม่ติดใจครับ เวลาทำงานจริงๆก็จะย้ายข้อมูลจาก green ไปที่ SSD ที่ต่อเป็น RAID 0 ทำเสร็จก็ย้ายกลับมาทับตัวเดิมใน green จะประมาณนี้ครับ นอกนั้นก็ใช้งานจิปาถะทั่วไป แต่บางครั้งก็ทำงานบนตัว green บ้างถ้าไม่ได้เยอะมาก ไม่ต้องเสียเวลาย้ายข้อมูลเข้าออกที่ตัว RAID 0

ส่วนตัวแล้วผมว่า SSD เสี่ยงกว่าเยอะ เพราะซื้อ SSD มาใช้ (ไม่กี่เดือน) แล้วส่ง claim ไป 2 ครั้ง (จากจำนวน 5 ตัว เทียบ % แล้วเกือบครึ่ง) แต่ก็ยอมแลกกับความเร็วที่ได้

แต่ตัว green ยังไม่เคยส่ง claim ยังใช้งานปกติทุกตัว (จากจำนวน 13 ตัว, 6 ตัวในเครื่อง 7 ตัวใช้ผ่าน docking ตั้งแต่ 500GB-2TB)
ถือว่าผมโชคดีที่ยังไม่เคยมีปัญหากับ green

[clusio]

ประกัน ถ้าแกะดีๆผมว่าไม่น่าหลุดนะ แต่เตือนนิดนึงตรงใช้ Green มาทำหน้าที่ Backup และเปิดใช้มันบ่อยๆนี่แหละอันตรายมากครับ ข้อเสียรุ่นนี้มีหลายอย่างลองหาอ่านดู ที่แน่ๆคือช้าและไม่ทนเอาซะเลย

Green ผมใช้เข้าๆออกๆบ่อย มาจะปีนึงละ ยังสบายดีอยู่เลย