Announcement

Collapse
No announcement yet.

ทำไงไม่ให้ Cycle Count ของ MacbookPro เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกทีที่ชาร์ตเเบต

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • ทำไงไม่ให้ Cycle Count ของ MacbookPro เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกทีที่ชาร์ตเเบต

    คือได้เครื่องใหม่มาเครืองนึงครับ ไม่อยากให้ Cycle Count มันขึ้นเรื่อย
    เพราะเห็นบางคนใช้มาปีสองปียังขึ้นไม่ถึงร้อยเลย (จิตตก)

    ผมใช้ปกติถ้าเเบตลดลง 75% ก็เสียบที่ชาร์ต สังเกตุมันก็ขึ้นนะ
    ใครมีทิปดีดีเเนะนำหน่อยครับ

  • #2
    ถ้ามองแค่ว่าไม่ให้จำนวน cycle ขึ้น มันก็ง่ายๆ ก็แค่เสียบสายไฟไว้ตลอด

    Comment


    • #3
      แกะแบตออกมาเลยครับ

      ความเห็นส่วนตัวนะ ซื้อมาก็ใช้ให้คุ้ม อย่าไปคิดมากเรื่อง cycle เลย

      Comment


      • #4
        เสียบชาร์ตตลอด Cycle ก็ขึ้นครับ แต่ขึ้นช้า ให้ลองสังเกตดูว่าบางครั้งเราเสียบแบตแต่ทำไมแบตชาร์ตไม่เต็ม 100% เพราะมันมีการคลายประจุออกเพื่อรักษาแบต อย่างน้อยจะคลายประจุประมาณ 6% แล้วทำการชาร์ตเพิ่ม ส่วนถอดแบตออกก็ไม่ใช่ความคิดที่ดี หนังสือบางเล่มบอกไว้ชัดเจนว่าจะไปลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องและอันตรายเอามากๆเมื่อเกิดไฟกระชากหรือไฟดับ สรุปอย่างที่ท่านข้างบนพูดครับ ใช้ให้คุ้มดีกว่า Cycle มันไม่ได้เพิ่มเร็วฮวบฮาบหรอกครับ ขนาดของผมใช้งานทุกวันยังไม่ถึง 80 เลย มีโอกาสให้เสียบชาร์ตก็เสียบ ถ้าไม่มีหรือพกพาไปข้างนอกก็ไม่ต้องเสียบ

        Comment


        • #5
          ไม่ต้องซีเรียสมาหรอกครับ Cycle ขึ้นไม่ขึ้น แบตมันก็เืสื่อมเหมือนกัน เสียบไฟตลอดเวลา แบตเสื่อมเพราะเซลส์แบตมันตายเนื่องจากไม่มีการใช้งานเลย ในเวบ apple วิธีการใช้แบตเค้าก็ไม่ได้แนะนำให้เสียบสายชาร์ทตลอดเวลาครับ ใช้ตามสภาพตอนนั้นดีกว่าครับ อุปกรณ์พวกนี้ยังไงมันก็เสื่อมตามสภาพ แค่เราใช้ให้มันถูกประเภทมันก็พอครับ

          Comment


          • #6
            อย่ากังวลเรื่อง Cycle ครับ เครื่องบางคน Cycle น้อย แบทบวม เสื่อมแล้ว บางคน Cycle เยอะ แต่คุณภาพแบทยังดีมาก

            Comment


            • #7
              Originally posted by ap_inlove View Post
              ไม่ต้องซีเรียสมาหรอกครับ Cycle ขึ้นไม่ขึ้น แบตมันก็เืสื่อมเหมือนกัน เสียบไฟตลอดเวลา แบตเสื่อมเพราะเซลส์แบตมันตายเนื่องจากไม่มีการใช้งานเลย ในเวบ apple วิธีการใช้แบตเค้าก็ไม่ได้แนะนำให้เสียบสายชาร์ทตลอดเวลาครับ ใช้ตามสภาพตอนนั้นดีกว่าครับ อุปกรณ์พวกนี้ยังไงมันก็เสื่อมตามสภาพ แค่เราใช้ให้มันถูกประเภทมันก็พอครับ
              ตามนี้ครับ ผมไม่เคยเสียบค้างไว้ พอชาร์จเต็มก็ถอดออก ใช้ให้ Cycle มันรันไปอย่างที่ควรจะเป็นดีกว่า

              Comment


              • #8
                ขอบคุณทุกความเห็นครับ พอจิตตก ^ ^

                Comment


                • #9
                  เต็ม 100% ดึงออก เหลือ 5%-10% เสียบใหม่ จบข่าวครับ

                  Comment


                  • #10
                    ยิ่งใช้น้อยมันยิ่งเสื่อมไม่ใช่หรอครับ เพราะมันไม่ได้คายประจุ

                    หรือผมเข้าใจผิดครับ ของผมใช้จนแดง 20% แล้วค่อยเสียบชาร์ต ถ้าอยุ่บ้านก้เสียบตลอด ไม่ก้อาทิต-2อาทิตปล่อยแดงล่ะชาร์ตทีนึง

                    Comment


                    • #11
                      Originally posted by Toss? View Post
                      ยิ่งใช้น้อยมันยิ่งเสื่อมไม่ใช่หรอครับ เพราะมันไม่ได้คายประจุ

                      หรือผมเข้าใจผิดครับ ของผมใช้จนแดง 20% แล้วค่อยเสียบชาร์ต ถ้าอยุ่บ้านก้เสียบตลอด ไม่ก้อาทิต-2อาทิตปล่อยแดงล่ะชาร์ตทีนึง
                      ตามที่เคยอ่าน มันไม่ได้บอกใช้น้อยใช้มากครับ บอกแค่ว่า มันมีอายุตามรอบการชาร์ต แต่วิธีของท่านก็ถูกต้องเหมือนกันนะ ปล่อยให้ลดต่ำกว่า 20% แล้วค่อยชาร์ตก็ถือเป็นวิธีที่ดีเหมือนกัน เหมือนเคยอ่านเจอว่ามีคนกังวลถึงขั้นนำไปทดสอบว่าควรชาร์ตที่กี่เปอร์เซ็น จำได้คร่าวๆว่าไม่ได้แตกต่างกันเลยที่จะชาร์ตตรงกี่เปอเซ็น

                      Comment


                      • #12
                        แบตไม่ได้อยู่เป็นอมตะ ยังไงมันก็ต้องกลับบ้านเก่าครับ แต่จะทำอย่างไรให้มันกลับไปแบบช้าที่สุดนี่สิ
                        ลองทำความเข้าใจดูนะครับ

                        1. ชาร์จแบตจนเต็ม 100% แล้วใช้จนแบตหมด 0% ---> Battery cycle count 1
                        2. ชาร์จแบตจนเต็ม 100% แล้วใช้จนแบตเหลือ 80% แสดงว่าใช้แบตไป 20% ทำอย่างนี้ห้าครั้ง 20% X 5 = 100% หรือจะใช้ จะชาร์จยังไง กี่ครั้ง แล้วมันรวม% แล้วได้ 100% ---> Battery cycle count 1

                        เนื่องจากแบตเตอรี่ ลิเธี่ยม ไม่มี "Memory effect" จึงไม่จำเป็นต้องใช้ให้แบตหมด ในทางตรงข้ามการใช้ให้แบตหมดแล้วชาร์จกลับเข้าไปใหม่ ทำอย่างงี้ซ้ำๆ กันทำให้ Battery Cycle นับขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทางบริษัทส่วนใหญ่เครมไว้ว่าแบตสามมารถมี Battery Cycle ได้ถึง 1000 cycle อย่าลืมว่า Battery Cycle เป็นตัวชี้วัดอายุของแบต ยิ่งมีมาก อายุแบตจะสั้นลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นสมมุติว่าบางบริษัท เครมว่าแบตเตอรี่สามารถมี Battery Cycle ได้ถึง 1000 cycle ประกันในตัวแบตเตอรี่ถึงหนึ่งปี ดังนั้นเราสามารถมี Battery cycle ได้ประมาณ 2.74 Cycle ต่อวัน ลองนึกดูสิครับจะมีวันไหนไหมที่เรา ใช้แบตจนหมด และชาร์จกลับไปจนเต็ม ทำอย่างนี้สามครั้งต่อวัน ถ้าคุณทำอย่างงั้น แล้วแบตมันเสื่อมในเวลาผ่านไปปีหนึ่งล่ะก็ ผมว่าคุณใช้มันจนคุ้มล่ะ

                        การที่แบตเตอรี่เสื่อมสภาพสาเหตุหลักมาจากความร้อน ความร้อนดังกล่าวมาจากการใช้งาน คือ เมื่อเราใช้งานมัน กระแสไฟฟ้า (current) จากภายในตัวแบตเตอรี่จะไหลออกมาเพื่อป้อนพลังงานให้กับ macbook ในทางกลับกันเมื่อเราชาร์จไฟเข้าแบต กระแสไฟฟ้าก็ถูกอัดเข้าไปในแบตเตอรี่ เมื่อมีการไหลเข้า-ออก ตัวแบตเตอรี่ ซึ่งแบตเตอรี่มีความต้านทานภายในตัวของมันอยู่ค่าหนึ่ง ถ้ามีกระแสไฟฟ้าไหลเข้า ไหลออก ทำให้เกิดพลังงานสูญเสีย (Power loss) ภายในตัวแบตเตอรี่ ค่าดังกล่าวเขียนเป็นสมการได้เป็น พลังงานสูญเสีย (P) = กระแสไฟฟ้ายกกำลังสอง (I^2) X ความต้านภายในของแบตเตอรี่ (R) ซึ่งพลังงานสูญเสียดังกล่าวก็คือพลังงานความร้อนนั่นเอง สรุปง่ายๆ เราใช้แบต-->แบตร้อน และ เมื่อเราชาร์จแบต-->แบตร้อน งั้นทางที่ดีที่สุดก็คือถ้าเป็นไปได้ก็ให้เสียบอะแด็ปเตอร์ไว้ อย่าไปจิตตก บริษัทเขาให้เราใช้แบตตั้ง 2.7 cycle ต่อวัน มันเกินพออยู่แล้ว

                        หลายคนสงสัยว่าเวลาเสียบสายชาร์จไว้มันจะชาร์จตลอดเวลาไหม คำตอบก็คือ ไม่ครับ
                        แบตเตอรี่ ลิเธี่ยม ไอออน จะมีระบบจัดการแบตเตอรี่ (Battery management) กล่าวคือมันมีเฟริ์มแวร์ที่ฉลาดควบคุมการชาร์จ และการใช้งานอยู่ครับ เพราะถ้าไม่มีการจะการที่ฉลาด ชาร์จแบตเกิน 100%-->ระเบิด หรือปล่อยให้ใช้แบตจนเหลือ ต่ำกว่า 0%-->กัดกร่อนย่างรุงแรงทำให้แบตเสื่อม แล้วมันจะชาร์จ วนๆๆๆ จนทำให้ Battery cycle ขึ้นไหม คำตอบก็คือไม่ครับ การชาร์จแบตนั้นถ้าแบตไม่ถึงเปอร์เซ็นต์ที่ผู้ผลิตกำหนดมันก็จะไม่ชาร์จ เช่น ถ้าผู้ผลิตกำหนดให้มันชาร์จ ก็ต่อเมื่อพลังงานเหลือ 95% นั้นคือถ้าแบตเหลือ 98% มันก็จะไม่ชาร์จ ไม่เชื่อลองถอดสายชาร์จ macbook แล้วปล่อยให้แบตเหลือ 98% แล้วเสียบสายชาร์จแล้วไปใหม่ มันก็จะไม่ชาร์จ (ไฟที่ macsafe เป็นสีเขียว) ดังนั้นรับลองได้เลยว่ามันจะไม่ชาร์จแบบวนซ้ำแน่นอน

                        ถ้าใครที่อยากรู้เรื่องแบตในเชิงลึก ลองค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ DOD (Depth of Discharge) กับ SOC (State of Charge) ซึ่งเป็นพื้นฐานในการนับ Battery Cycle ของแบเตอรี่แบบลิเธียม ในอากู๋ดูครับ

                        5555 ลืมตอบคำถามของเจ้าของกระทู้ไปเลย วิธีที่จะทำให้ Battery cycle มันไม่ขึ้นก็คือ เวลาใช้งานก็เสียบอะแด็ปเตอร์ไว้ตลอดเวลาครับ แต่ยังไง มันก็ขึ้นครับ เช่น เมื่อคุณ sleep เครื่องไว้โดยไม่เสียบอะแด็ปเตอร์ หรือ ไม่ได้ใช้เครื่องเป็นระยะเวลานานๆ เป็นเดือนๆ ก็เป็นสาเหตุให้ Battery Cycle ขึ้นได้ครับ เนื่องจากไอ้ความต้านทานภายในตัวแบตล่ะครับ มันกินไฟของตัวมันเอง ซึ่งมันกินไฟน้อยมาก แต่มากพอให้ไฟในแบตลดลงได้ ถ้าทิ้งเครื่องไว้เป็นเดือนๆ ส่วน sleep เครื่องโดยไม่ได้เสียบอะแด็ปเตอร์ไว้ นั้นแรมของ macbook มันจะกินไฟไปเรื่อยๆครับ ^_^
                        Last edited by กระเป๋าเป้; 22 Jul 2012, 17:41:03.

                        Comment


                        • #13
                          ^
                          ^
                          ^
                          ^
                          สุดยอด

                          Comment


                          • #14
                            สังเกตุจากเครื่องตัวเองมาเเล้วครับ เมื่อชาร์ตเต็ม 100%
                            Cycle นับ 1 ทันทีเลย

                            เเม้จะเสียบไว้ตลอดเวลาก็ขึ้นเมื่อชาร์ตครบ 100% เป็นนับครับ

                            Comment


                            • #15
                              Cycle = 221
                              อายุ = 1ปี 8เดือน

                              Comment

                              Working...
                              X