Announcement

Collapse
No announcement yet.

4 เทคนิคง่ายๆ เปลี่ยนการเล่านิทานธรรมดาให้เป็น "ชั่วโมงมหัศจรรย์" สำหรับลูกน้อย

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • 4 เทคนิคง่ายๆ เปลี่ยนการเล่านิทานธรรมดาให้เป็น "ชั่วโมงมหัศจรรย์" สำหรับลูกน้อย


    สวัสดีคุณพ่อคุณแม่ และผู้ปกครองทุกท่านครับ/ค่ะ

    เชื่อว่าหลายๆ บ้านมีกิจกรรม "การเล่านิทานก่อนนอน" เป็นกิจวัตรประจำวันที่อบอุ่น แต่บางครั้งการเล่านิทานก็อาจจะกลายเป็นเพียงการอ่านตัวหนังสือในหน้าที่ซ้ำไปซ้ำมา จนอาจทำให้ทั้งคนเล่าและคนฟังรู้สึกเบื่อได้

    วันนี้ผม/ดิฉันเลยอยากจะมาแบ่งปัน 4 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนชั่วโมงการเล่านิทานแบบเดิมๆ ให้กลายเป็น "ชั่วโมงมหัศจรรย์" ที่เต็มไปด้วยจินตนาการ, เสียงหัวเราะ และช่วยสานสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นครับ

    1. ใช้น้ำเสียงที่แตกต่าง (The Power of Voice) เทคนิคที่ง่ายและทรงพลังที่สุดคือการ "พากย์เสียง" ตัวละครครับ ไม่จำเป็นต้องเสียงเหมือนนักพากย์มืออาชีพ แค่ลองเปลี่ยนโทนเสียงเล็กน้อยก็สร้างความแตกต่างได้มหาศาลแล้วครับ
    • หมาป่า: ใช้เสียงทุ้มต่ำ น่าเกรงขาม
    • ลูกหมู / หนูตัวเล็กๆ: ใช้เสียงแหลมเล็กดูน่ารัก
    • ราชสีห์: ใช้เสียงใหญ่ ก้องกังวาน การเปลี่ยนเสียงไปมาจะช่วยให้เด็กๆ ตื่นเต้นและแยกแยะตัวละครได้ง่ายขึ้น ทำให้เรื่องเล่ามีชีวิตชีวาขึ้นทันที

    2. ชวนคุย - ชวนทาย (Interactive Storytelling) อย่าปล่อยให้ลูกเป็นแค่ผู้ฟังฝ่ายเดียวครับ ลองหยุดเล่าเป็นระยะๆ แล้วชวนคุยด้วยคำถามง่ายๆ เพื่อดึงให้เขามีส่วนร่วมกับเรื่องราว
    • "เอ...แล้วลูกคิดว่ากระต่ายจะทำยังไงต่อดี?"
    • "ถ้าลูกเป็นเต่า ลูกจะรู้สึกเหนื่อยไหม?"
    • "เจ้าหมาป่าตัวนี้ดุจริงๆ เลยเนอะ!" การทำเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้เขาจดจ่อกับนิทานมากขึ้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นกระบวนการคิดและจินตนาการของเขาไปในตัวด้วย

    3. ใช้ท่าทางและอุปกรณ์ประกอบ (Action & Props) ลองเพิ่มท่าทางประกอบการเล่าเรื่องดูสิครับ ไม่ต้องเป็นท่าทางที่ยิ่งใหญ่ แค่การแสดงออกเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยได้มาก
    • กางแขนออกกว้างๆ เมื่อพูดถึงของที่ "ใหญ่โต"
    • ทำมือเป็นอุโมงค์เมื่อเล่าถึง "โพรงไม้"
    • อาจจะหยิบหมอนข้างๆ มาสมมติให้เป็น "ก้อนหิน" การมีส่วนร่วมทางกายภาพจะช่วยให้เด็กๆ โดยเฉพาะเด็กเล็ก จดจำเรื่องราวได้ดีขึ้นและสนุกสนานยิ่งขึ้น

    4. เชื่อมโยงเรื่องราวกับชีวิตจริง (Real-life Connection) หลังจากเล่านิทานจบแล้ว ลองใช้เวลาสักครู่เพื่อเชื่อมโยงคติสอนใจในเรื่องกับประสบการณ์จริงของลูก
    • หลังเล่านิทานเรื่องความซื่อสัตย์: "เห็นไหมลูก การเป็นเหมือนเด็กเลี้ยงแกะทำให้ไม่มีใครเชื่อถือเลย เหมือนตอนที่หนูยอมรับกับแม่ตรงๆ ว่าทำแก้วแตกนั่นแหละจ้ะ เป็นสิ่งที่ดีมากเลยนะ"
    • หลังเล่านิทานเรื่องความพยายาม: "เต่าเก่งจังเลยเนอะ ค่อยๆ เดินจนชนะ เหมือนที่ลูกพยายามต่อเลโก้จนสำเร็จเลย" การเชื่อมโยงแบบนี้จะทำให้คติสอนใจจากนิทานกลายเป็นบทเรียนชีวิตที่จับต้องได้จริงสำหรับเขา

    ลองเริ่มจากนิทานที่เด็กๆ คุ้นเคยและมีตัวละครหลากหลาย เช่น เรื่อง ลูกหมูสามตัว ที่มีทั้งลูกหมูและหมาป่าให้เราได้ลองเล่นเสียงที่แตกต่างกันดูนะครับ หวังว่าเทคนิคเหล่านี้จะช่วยสร้างช่วงเวลาดีๆ ให้กับทุกครอบครัวครับ

    หากกำลังมองหาเรื่องเล่าสนุกๆ เพิ่มเติม สามารถเข้าไปเลือกจาก คลังนิทานดีๆ พร้อมภาพประกอบได้เลยครับ/ค่ะ

    ด้วยความปรารถนาดี
Working...
X