Tweet
รีวิวซะหน่อย 555+
เล่นบน PS3 มา
PC ออกก็เอาอีกรอบนึง รอแท้มาเมื่อไหร่ มีโดน
ประเภท Action Openworld
เครื่อง Xbox360/PS3/PC
วันวางจำหน่าย 11/2010(Console) 03/2011(PC)
หลังจากที่ Ubisoft เปิดแฟรนไชส์ AC ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามเรื่อยมา
จนกระทั่งภาค 2 ที่แก้ไขข้อเสียต่างๆในภาคแรกจนดังเป็นพลุแตก ต่อมาเพียงแค่ไม่ถึงปีก็ประกาศภาค 2.5
หรือ Brotherhood โดยเนื้อหายังครอบคลุมอยู่ในยุคศตวรรษที่ 15-16 ตามเดิม
ตัวเกมนั้นออกวางขายในเดือนพฤษจิกายน 2553 บนเครื่อง PS3, Xbox360 และทำยอดชิพได้สูงถึง 6.5 ล้านชุดทั่วโลก
ในขณะที่ Window version กลับทิ้งนานชนิดไม่มีกำหนด และได้เล่นกันถ้วนหน้าในกลางเดือนมีนาคม 54
Story (spoiler)
เรื่องราวยังคงโฟกัสไปที่ Ezio ซึ่งเปิด The vault และได้พบกับมิเนอร์ว่า ผู้มาเยือนโลกกลุ่มแรกเริ่ม
แม้ภารกิจเสร็จสิ้น เขากลับไม่คิดจะฆ่าสันตะปาปาที่4 อเล็กซานเดอร์
เพื่อล้างแค้นให้ครอบครัวแต่อย่างใด
เลยเป็นผลให้ Cesare Borgia ลูกชายซึ่งกุมอำนาจทางทหารในกรุงโรม
ยกทัพมาถล่มเมืองของพระเอก จนพ่ายแพ้ไป ทำให้ Ezio ต้องเดินทางไปยังโรมอีกครั้งเพื่อสะสางเรื่องนี้
ระบบลูกเล่น & เกมเพลย์
ยังคนเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปจากภาค 2 อาวุธเหมือนเดิมทุกประการ
มีการเข้าอีเว้นท์เพื่อดำเนินเรื่องไปตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่กรุงโรม (ในภาคนี้ไม่มีไปเมืองอื่น)
สิ่งที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ค่อนข้างเยอะมาก เพิ่มทหารไปอีก 2-3ประเภทและเป็นยูนิทใช้ปืนทำให้ยากแก่การต่อสู้
A.I. ค่อนข้างฉลาด เดินขึ้นหลังคาหน่อยไม่ได้แมร่งหันมาจะยิงท่าเดียว แต่ก็ระบบ Kill Streak ช่วยให้สู้ง่ายขึ้น
จังหวะโต้กลับ สามารถเปลี่ยนเป้าแล้วกดปุ่มฟัน เพื่อเล่นงานอีกตัวได้เลย เสมือนทำ Chain Combo
และยังมีสารพัดท่าทางลีลาสังหารที่โหดได้ใจ แถมเท่อีกตังหาก
ภาระกิจตามท้องเรื่อง สามารถย้อนกลับมาทำได้ทุกเมื่อหลังจากผ่านไปแล้ว และเพิ่มระบบ 100% Sync
โดยต้องทำตามเงื่อนไขรอง เช่น ห้ามถูกตรวจพบ, ใช้ H.Blade ฆ่าศัตรู, จัดการเป้าหมายใน 1 นาที, ห้ามเสียพลังชีวิต เป็นต้น
นอกจากภาระกิจหลักแล้วยังภาระกิจย่อยอีกเป็นจำนวนมากให้เล่น ทำให้ไม่เบื่อง่ายๆ
ด้าน Economic System คล้ายๆกับที่อัพเกรดเมืองในภาค 2 แต่คราวนี้เป็นบูรณะร้านรวงต่างๆในพื้นที่ เพื่อให้มีส่วนแบ่ง
มาเข้ากระเป๋าเรา โดยการฟื้นฟูเมืองแต่ละครั้งต้องกำจัด Borgia Tower ที่คุมพื้นที่ในบริเวณนั้นๆก่อน จากนั้นผู้คนจะเริ่มสนับสนุนเรา
บางคนก็จะต่อต้านทหาร(จะปรากฏช่วงกลางๆเรื่อง) โดยเราสามารถเข้าช่วยและเลือกมาเป็นสมาชิกของภาคีได้
สามารถฝึกฝนลูกน้องเราได้ด้วยการส่งไปทำภาระกิจต่างเมืองเพื่อรับ EXP ยิ่ง LV สูง ก็ยิ่งเก่ง ไปๆมาๆ เก่งกว่าเราอีก
ภายในกรุงโรมนั้นกว้างมาก การจะเดินเท้านี่ เดินกันแทบขาลาก แต่ยังดีที่มีม้า
กับอุโมงค์เพิ่มเข้ามาทำให้การ Access จุดต่างๆในเมืองทำได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ก็ยังฝึกฝนทักษะตนเองเพิ่มในโหมด VR Training และออกจาก Animus ได้ทุกเมื่อ
ถ้าออกจาก Animus ตอนที่มีสัญลักษณ์ ! ขึ้นมา เราสามารถพูดคุยหรือมีอีเว้นท์เสริมภายในกลุ่มของ Desmond
และมุกตลกต่างๆของชอร์น
อื่นๆ
กราฟฟิค การโหลด
การ Pause เข้า Menu ทำได้เร็วมาก โหลดเกมเร็ว ไม่อืดอาดแบบภาค 2 และเวอร์ชั่นคอนโซล
อาการเฟรมตกฮวบ เงาระยะไกลแตกในภาค2 ก็หายไปในภาคนี้ ตัวเกมลื่นขึ้น
ด้านภาพเมื่อเทียบกับคอนโซล ทำออกมาได้ดีกว่า และอัตราการไหลลื่นของเฟรมดีกว่า ในขณะที่ คอนโซลจำกัดไว้ที่ 30เฟรมต่อวิ
และแสดงผลได้แค่เพียง 720P (อัพสเกลได้ถึง 1080)
เสียอย่างเดียวคือ หายไปตั้งหลายเดือน แต่การแสดงผลของภาพมีแค่ DX9 ไม่ทำ DX10,11 ตามเทคโนโลยีการ์ดจอ ณ ตอนนี้
การควบคุม
มีให้หลายทางไม่ว่าจะ เม้าส์+คีย์บอร์ด จอยXbox
หรือแม้แต่จอยบ้านๆราคา 150 ก็ต่อเล่นได้ และตั้งค่าปุ่มได้ตามใจชอบ
ในบขณะที่เกม PC อื่นๆ พยายามบีบให้ใช้แต่จอย Xinput ซึ่งมีราคาแพง
อิทธิพลเกมจากญี่ปุ่น
เกมนี้ต่างจากที่ผมเคยเจอในเกมฝรั่งหลายอย่าง มีอทธิพลญี่ปุ่นเข้าไปเยอะ และเกมฝรั่งเดี๋ยวนี้ก็เป็นกันเยอะ ตัวละครผู้หญิงดูน่ารักขึ้นและสวยมาก ไม่ว่าจะลูซี่หรือคลาวเดีย ผิดจากอดีตที่ตัวละครชายต้องบึกบึนกล้ามมัดๆ ผู้หญิงปากเบะๆ
ฉากในเมืองอลังการราวกับเล่นเกม RPG ดีๆเกมนึง สุดท้ายบทพูด ความสัมพันธ์ระหว่างเอซิโอ้กับดาวินชี่ บางทีก็ยังแอบมีกลิ่นม่วงตุๆ อีกตังหาก 5555+
ออนไลน์
ในการเล่น MP จะจุดประสงค์เหมือนๆกัน โดยเราต้องสังหารผู้เล่นอีกฝ่าย ยิ่งสังหารโดยไม่ให้รู้ตัวยิ่งได้คะแนนเยอะ
และเราเองก็ต้องระวังผู้เล่นคนอื่นมาเล่นงานเรา
มีหลายโหมดเกมให้เลือก และเมื่อ LV ขึ้น จะมีไอเทมมาช่วยเหลือเราในการทำภาระกิจอีกด้วย
ต้องใช้สมาธิในการเล่นสูง แต่รับประกันว่าสนุกแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร
สรุป เป็นเกมที่น่าซื้อมาเล่นเกมหนึ่ง ใครที่เคยติดตามมา 2 ภาคก่อนก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
และเกมนี้ไม่เรียกสเปคสูงเวอร์นัก แค่ CPU 2 คอร์แรงๆ ซักตัว กับการ์ดจอ Gaming ขนาดกลางๆ 4-5พัน ก็เหลือเฟือแล้ว
ข้อดี
-เล่นไม่มีเบื่อ มีอะไรในเกมให้ทำเยอะ
-ภาพสวยสะดุดตา อลังการงานสร้าง
-เนื้อหาชวนติดตาม
-ไม่กินสเปคเครื่องคอม จอยกากๆก็เล่นได้
ข้อเสีย
-ทิ้งระยะนานเกินกว่าเหตุ ปล่อยให้คอนโซลเล่นกันอย่างหนุกหนาน
แถมยังแค่ DX9 (เหตุที่ต้องตั้งหัวเรื่องไปว่าลูกเมียน้อย)
-เสียงดังเบาไม่เท่ากัน
-เกมมันง่ายเกินไป อาจเป็นเพราะต้องการทำตลาด Casual ด้วยล่ะมั้ง
แม้มีข้อเสียบ้าง แต่ก็ทำใจหักไม่ลง เอา 10/10 ไปเลย
Comment