Announcement

Collapse
No announcement yet.

แนะนำแทคติก XCOM Enemy Unknown หน่อยครับ

Collapse
X
 
  • Filter
  • Time
  • Show
Clear All
new posts

  • แนะนำแทคติก XCOM Enemy Unknown หน่อยครับ

    แนะนำแทคติกหน่อยครับ ผมเล่นจบแบบ Normal ไปรอบนึงแล้ว ทหารตายเป็นเบือ พอเจอ Classic เข้าไปก็ไม่รอด ส่งทหารไปตายหมู่ตลอดเลยครับ

  • #2
    กำลังอยากให้คนมาเขียนไกด์เกมนี้อยู่พอดีเลย...

    ข้อแนะนำของเราคือ อย่าใจร้อน

    ค่อยๆรีเสิร์จค่อยๆสร้างบ้านและเน้นหลักๆที่ปั้มดาวเทียมให้พร้อมๆก่อนค่อยลุยภารกิจหลัก

    เพราะศัตรูจะโหดขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งหลังๆนี่ยิงไม่ค่อยอยากจะเข้า(หรือโดน)เลย

    Comment


    • #3
      ที่อยากได้สุดๆ คือแนวทางการอัพสกิลตัวละครแต่ละคลาสครับ

      Comment


      • #4
        ได้เลย เดี๋ยวค่อยๆลงให้ทีละคลาสนะ (แอบอู้งานอยู่ >w<)

        1. Assault Class : หน่วยจู่โจม
        หน่วยจู่โจมเ้รียกได้ว่าเป็น[พระเอก]ของทีม ความสามารถจะเน้นหลักที่การบุกจู่โจมและตีโอบศัตรูในที่กำบัง
        อาวุธ : ปืนลูกซอง(เหมาะสำหรับขาบู้ วิ่ง ยิง ลุย) , ปืนไรเฟิ้ลจู่โจม(สำหรับเน้นบาลานส์และป้องกัน) , ปืนพก(ไม่ค่อยได้ใช้หรอก)

        Skill ของคลาส Assault

        Squaddie
        Run & Gun (วิ่งสู้ฟัด) :ทำให้โจมตี หรือ Overwatch ได้หลังจากวิ่งโผ (Dashing) ซึ่งเป็นจุดเด่นของคลาสนี้
        คอมเมนท์ : คลาสนี้จะตายบ่อยที่สุดก็ตอนหลังจากกดท่านี้แหละเชื่อมั้ย?

        Corporal
        Tactical Sense: เพิ่มอัตราการป้องกัน +5 ต่อศัตรูในระยะที่มองเห็น(ที่ขึ้นรูปหัวเอเลี่ยน) สูงสุดได้ไม่เกิน+20
        Aggression(บู้เดือด) : +10% โอกาสโจมตี Critical ต่อศัตรูในระยะที่มองเห็น(ที่ขึ้นรูปหัวเอเลี่ยน) สูงสุดได้ไม่เกิน+30%
        คอมเมนท์ : Tactical Sense จะเพิ่มความเหนีัยวให้โดนยิงได้ยากขึ้นเยอะมาก โดยเฉพาะในกรณีฝ่ายตรงข้ามมีเยอะ(3ตัวขึ้นไป) แต่การ+คริก็โหดเหมือนกันหากใช้กับปืนลูกซองในระยะใกล้ๆ

        Sergeant
        Lightning Reflexes : หลบการโจมตีถูกฝ่ายศัตรูยิงโต้ตอบ(ในจังหวะ overwatch)เทิร์นล่ะ 1 ครั้ง (วืดไปเลย 1 ครั้ง)
        Close and Personal (รู้มั้ยแถวนี้ใครใหญ่) : เพิ่มโอกาส Critical +30% หากยืนยิงชิดกับศัตรูและ และ+โอกาส Critical ขึ้นอยู่กับระยะของศัตรู (ยิ่งใกล้ยิ่งบวกเยอะ)
        คอมเมนท์ : Close and Personal เหมาะกับลูกซองมาก แต่ Lightning Reflexes ส่วนตัวแล้วจะได้ใช้เยอะกว่าเวลายิงปะทะ

        Lieutenant
        Flush : ยิงกดดันให้ศัตรูหลบออกจากที่กำบัง โอกาสยิงถูกเยอะแต่ไม่แรง
        Rapid Fire : ยิงโจมตีเป้าหมายเดิม 2 ครั้งแต่ความแม่นยำของปืนลดลง -15
        ึคอมเมนท์ : Flush เป็นสกิลที่ค่อนข้างดีในระยะไกล บีบให้ศัตรูถอยหลังหรือบังคับให้หาที่กำบังใหม่ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วเสี่ยงดวง Rapid Fire ไปเลยจะไม่ค่อยผิดหวังเท่าไหร่โดยเฉพาะในระยะใกล้ๆ ซึ่งตอนหลังๆจำเป็นมาก

        Captain
        Close Combat Specialist : ยิงตอบโต้ศัตรูที่เดินเข้ามาในระยะ 4 ช่องรอบตัวทันที โดยไม่ต้องใช้ Overwatch
        Bring 'Em On (ลุยแมร่_เลย) : เพิ่มความเสียหาย +1 จากการโจมตีแบบ Critical ตามจำนวนศัตรูที่ทั้งทีมมองเห็น (สูงสุด +5)
        คอมเมนท์ : เป็นสกิลที่โหดทั้งคู่และเลือกยากมาก Close Combat Specialist จะยืดหยุ่นในด้านการป้องกันและตีโต้มากกว่า แต่หากใช้ลูกซองแล้วอัพสายคริมาก็ Bring 'Em On ไปเลยจะได้ one shot kill บ่อยมาก

        Major
        Extra Conditioning (คนอึดตายยาก) : ได้รับโบนัสเลือดตามชนิดของเกราะที่ใส่ ยิ่งเกราะหนักและหนาเท่าไหร่ยิ่ง+เลือดเยอะ
        คอมเมนท์ : ตอนแรกๆแอทซอลจะเป็นคลาสที่ตายง่ายมาก แต่ถ้ารอดมาถึงจุดนี้ได้รับรองว่าอึดอย่างกะลุงโล้นบลูซ วิลลิช

        Colonel
        Resilience : ไม่มีทางโดนโจมตีติด Critical
        Killer Instinct : หากกดใช้สกิล Run & Gun จะเพิ่มโอกาส Critical 50% จนจบเทิร์น
        คอมเมนท์ : มาถึงจุดนี้ได้สกิลสองอันนี้ก็นรกทั้งคู่ Resilience จะยิ่งทำให้ตายยากขึ้นไปอีกเหมาะสำหรับยืนรับกระสุน(และส้งตีง) ส่วน Killer Instinct มีไว้จังหวะเก็บคิลดีๆ เมื่อใช้คู่กับ Rapid Fire หรือ Close Combat Specialist ก็คือพระเอกหนังบู้ดีๆนี่เอง


        ข้อแนะนำ :
        -หน่วยจู่โจมเป็นคลาสที่"พริ้ว"และ"บู้เดือด"แบบพระเอกหนังฝรั่ง ต้องใช้ในการวิ่งนำและรับกระสุนเป็นคนแรกของทีมตลอด และควรจะเป็นแบบนั้นไปตลอดเพราะเป็นคลาสที่อึดที่สุด โดยให้ Sniper เก็บคิลง่ายๆไป
        -จำเป็นมากเวลาบู้กับ Chryssalids หรือ Berserkers โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลามี Close Combat Specialist ซึ่งถ้าเทียบกะคลาสอื่นหากไอ้นรกสองตัวนี้เข้ามาใกล้เมื่อไหร่ก็จบเห่ได้เลย
        -เป็นคลาสที่เดิมพันสูงเวลาจู่โจมสูงมาก หากฆ่ามันไม่ได้ก็เตรียมตัวเป็นปุ๋ยแทน
        -ไม่ควร(ย้ำว่าไม่ควร)ใช้เป็นตัวสุดท้ายก่อนจบเทิร์น ควรจะใช้เป็นตัวแรกๆโดยเฉพาะเวลา Run & Gun เข้าไปในดงteen เพราะระบบเทิร์นของเกมนี้หากใช้เป็นตัวสุดท้ายแล้วไปอยู่กลางดงเมื่อไหร่ก็จองศาลาเตรียมสวดเพราะไม่รอดชัวร์



        ข้อมูลแปลจาก http://xcom.wikia.com/wiki/XCOM:_Enemy_Unknown

        หลักๆของแอทซอล ก็ใช่จ้า แต่แนะนำให้เน้นบาลานส์และตามความถนัดมากกว่า สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่งเลยบางโอกาสมันก็ไม่เหมาะ
        V
        V
        V
        Last edited by Minnasama; 30 Oct 2012, 17:50:59.

        Comment


        • #5
          แสดงว่าสามารถอัพได้เป็นสายดาเมจ กับสายแทงค์ ใช่ป่ะครับ

          Comment


          • #6
            2.Heavy Class หน่วยอาวุธหนัก
            รู้จักแรมโบ้มั้ย? กระสุนปลิวว่อน ระเบิดตูมตาม เครื่องยิงจรวด อาวุธหนักพลังทำลายล้างสูงและวงกว้าง เหมาะสำหรับอาละวาดทุกสถานการณ์
            อาวุธ : ปืนกลหนัก , จรวดต่อต้านรถถัง

            Squaddie
            Fire Rocket : บาซูก้า,อาร์พีจี,อีโบ๊ะไซด์ จะเรียกอะไรก็เชิญ แต่มันคือเครื่องยิงจรวด สร้างความเสียหายรุนแรงและวงกว้าง แต่จะเดินและใช้งานในเทิร์นเดียวกันไม่ได้


            Corporal
            Bullet Swarm : เวลาโจมตีด้วยปืนกลจะนับเป็น 1 Action แทนการจบเทิร์น ทำให้ยิงได้สูงสุดถึง 2 ครั้ง หรือจะยิงแล้วเดิน หรือจะยิงแล้วรีโหลดในเทิร์นเดียวกันก็ได้
            Holo-Targeting : เมื่อโจมตีหรือยิงกดดัน(Suppression) เป้าหมายจะถูกเล็งด้วยระบบล็อกเป้า และ+10ความแม่นยำหากในทีมโจมตีเป้าหมายนั้น
            คอมเมนท์ : ถ้าให้เทียบกันจริงๆ Bullet Swarm มีประโยชน์กว่ามากทั้งรุกและรับ Holo ก็ดีแต่ต้นเกมนี่แทบไม่มีผลเลย

            Sergeant
            Shredder Rocket : พกจรวดเพิ่มไปอีก 1 ลูก สร้างความเสียหายวงแคบกว่าจรวดธรรมดา เป้าหมายที่โดนจะได้รับความเสียหายเพิ่ม +33% ไปอีก 4 เทิร์น
            Suppression : ยิงกดดันเป้าหมาย 1 ตัว ไม่สร้างความเสียหาย ใช้กระสุนเท่ากับการยิง 2ครั้ง ทำให้เป้าหมายที่โดนยิงกดจะมีความแม่นลดลง -30% และหากเดินในเทิร์นที่ถูกยิงกดจะโดนยิงฟรี 1 ครั้ง
            คอมเมนท์ : ถึง Suppression จะมีประโยชน์ด้านซับแต่ยังไงจรวดก็โหดกว่า สองเต้าย่อมดีกว่าเต้าเดียวอยู่แล้ว!

            Lieutenant
            HEAT Ammo : กระสุนหัวระเบิดเจาะเกราะ สร้างความเสียหายให้พวกหุ่นยนตร์ +100%
            Rapid Reaction : หาก Overwatch ครั้งแรกเรายิงถูกเป้าหมาย จะยิงได้ฟรีอีก 1 ครั้ง
            คอมเมนท์ : โหดทั้งคู่ เลือกยากมาก โดยเฉพาะปลายเกมพวกตัวหุ่นยนตร์ฝ่ายศัตรูนี่โหดได้ใจ แต่ถ้าอัพ Bullet Swarm แล้วยิงโดนทั้งสองครั้งก็มีโอกาส kill ได้สูงมาก ในขณะที่ Rapid Reaction จะเน้นการป้องกัน ซึ่ง Heavy เป็นคลาสที่ต้องนั่ง Overwatch บ่อยมากเพราะเดินได้น้อยกว่าคลาสอื่น ตัดสินใจเอาตามสไตร์การเล่นก็แล้วกัน

            Captain
            Grenadier : จะใช้ระเบิดมือได้ 2 ลูกจากเดิมลูกเดียว (ใช้กับเอเลี่ยนเกรเน็ทได้!)
            Danger Zone : เพิ่มประสิทธิภาพของสกิล Suppression และจรวดอีก 2 ช่อง (ระเบิดกว้างขึ้นอีก 2 ช่อง และ Suppression ศัตรูรอบเป้าหมาย 2 ช่องที่โดน)
            คอมเมนท์ : ส่วนตัวแล้วคิดว่า Danger Zone จะดีกว่าเพราะระเบิดมือมันระยะค่อนข้างสั้น แถมเป็นคลาสเดินช้าจึงไม่ค่อยได้ใช้ ที่สำคัญในช่วงท้ายเกมระเบิดมือไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ เอาจรวดกว้างเิ่พิ่มอีก 2 ช่องไปเลยดีกว่า สะใจ!

            Major
            Will to Survive (แรมโบ้ 4 นักรบพันธุ์เดือด) : ลดความเสียหายจากไม่ว่าจะอะไรก็ตาม 2 หากยังอยู่้ในที่กำบัง(ครึ่งตัวหรือเต็มตัวก็ได้)และไม่โดนตีโอบ(เป้าเหลือง)

            Colonel
            Rocketeer : แบกอีโบ๊ะไซด์เพิ่มได้อีก 1 ลูก! ถ้ารวมกับ Shredder Rocket จะเท่ากับว่ามีัจรวด 3 ลูกเลยทีัเดียว
            Mayhem : เพิ่มความเสียหายให้ท่า Suppression และอื่นๆที่สร้างความเสียหายได้วงกว้าง ขึ้นอยู่กับ Tech ของอาวุธที่ใช้
            คอมเมนท์ : ส่้วนตัวแล้วเลือกจรวดอีกลูกดีกว่า ยกเว้นแต่ว่าจะอัพ Shredder Rocket+Grenadier พร้อมกัน ซึ่งยิง Shredder ก่อนแล้วขว้างระเบิดตามในเทิร์นถัดไป ยิ่งถ้าใช้ Heavy Plasma ด้วยล่ะก็โครตแรง! (12 Damage เหนาะๆ)

            ข้อแนะนำ :
            -เป็นคลาสที่เดินช้าและอยู่กับที่บ่อย การปักหลักยิง ป้องกัน และถล่้มที่กำบังศัตรูจึงมีความสำคัญมาก
            -ในความยากระดับ Classic ขึ้นไปจะแนะนำให้เล่น Bullet Swarm, Shredder Rocket, Rapid Reaction, Danger Zone, Rocketeer เพื่อความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพที่เร้าใจที่สุด
            -ควรเก็บไว้เดินเป็นตัวสุดท้ายของเทิร์น เพื่อปรับต่อสถานการณ์ที่เจอ ไม่ว่าจะรุกหรือรับก็ตาม
            -เวลาไปบุกยานเอเลี่ยน ถ้ามั่นใจว่ามันหลบอยู่ในห้องสุดท้าย ยัดจรวดหรือระเบิดมือเข้าไปเลย หรือจะยิงกำแพงให้เป็นรูแล้วเอาเพื่อนๆยิงถล่้มก็ย่อมได้

            Comment


            • #7
              3.Support Class : หน่วยสนับสนุน
              พระเอกจะบู้เดือดไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนที่ดี ซัพพอร์ทเป็นคลาสอเนกประสงค์ที่จำเป็นที่สุดในการต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นแพทย์สนามหรือหน่วยยิงสนับสนุนก็นับว่าเป็นคลาสที่ขาดไม่ได้
              อาวุธ : ปืนไรเฟิ้ลจู่โจม , ปืนพก

              Squaddie
              Smoke Grenade (ระเบิดควัน) : ขว้างระเบิดควันเพิ่มอัตราการป้องกัน +20 ในระยะของควัน 2 เทิร์น

              Corporal
              Sprinter (วิ่งตามควายหาย) : เพิ่มระยะวิ่งให้อีก 3 ช่อง
              Covering Fire : ยิงคุ้มกันให้เพื่อน ส่งผลคล้าย Overwatch แต่จะยิงสวนกลับใส่ศัตรูที่โผล่มาโจมตีด้วย
              คอมเมนท์ : เป็นสกิลที่จำเป็นมากๆทั้งสองอัน เพิ่มระยะวิ่งจะช่วยให้ใช้ Arc Thrower จับเป็นเอเลี่ยนได้ง่ายขึ้นมาก ถ้าเล่นสายแพทย์สนามก็สามารถวิ่งไปหาคนเจ็บที่กำลังจะตายได้ง่าย ในขณะที่ Covering Fire ก็มีประโยชน์มากในการจัดแนวป้องกัน เลือกเอาตามที่ชอบได้เลย

              Sergeant
              Field Medic (อยากเป็นหม๋อออออ) : ใช้งาน Medkits ได้ 3 ครั้ง (จาก 1 ครั้ง)
              Smoke and Mirrors : พกระเบิดควันมา 2 ลูก
              คอมเมนท์ : ส่วนตัวแล้วอัพสายกระเป๋าหมอตลอด แต่ระเบิดควันสองลูกก็ช่วยอะไรในปลายๆเกมได้เยอะมากเช่นกัน.....เอาเป็นว่าอัพหมอเหอะ แลกกะความเป็นความตายแล้วมันไม่คุ้มกันหรอกเราว่า

              Lieutenant
              Revive(ชุบ) : ใช้ Medkits ชุบเพื่อนฝ่ายเราที่กำลังจะนอนตายให้ฟื้นขึ้นมาพร้อมรบด้วยเลือด 33% (จากเดิมแค่ฉีัดกันตาย)
              Rifle Suppression : ยิงกดดันเป้าหมาย 1 ตัว ไม่สร้างความเสียหาย ใช้กระสุนเท่ากับการยิง 2ครั้ง ทำให้เป้าหมายที่โดนยิงกดจะมีความแม่นลดลง -30% แต่ต่างจาก Suppression ของ Heavy คือจะยิงโต้ตอบเป้าหมายที่ยิงกดด้วย (คอมโบกับ Covering Fire)
              คอมเมนท์ : ขึ้นอยู่กับสายที่เลือก ถ้าอัพ Covering Fire มา Rifle Suppression จะมีประโยชน์สูงสุด

              Captain
              Dense Smoke : ควันหนาพิเศษ เพิ่มป้องกันอีก +20 และเพิ่มระยะของระเบิดควัน
              Combat Drugs : ระเบิดควันใส่ยาโด๊บด้วย ฝ่ายเราที่อยู่ในควันจะ +Will20 และ เพิ่มโอกาส Critical +10
              คอมเมนท์ : ควันยาโด๊บโหดกว่า แต่ควันหนา +20%(รวม40) นี่เวลาเราอยู่หลัง Full Cover นี่แทบจะไม่มีโอกาสโดนยิงเลย

              Major
              Deep Pockets : กระเป๋าใหญ่ พกไอเทม Inventory ไปได้ 2 ชิ้น
              คอมเมนท์ : แนะนำให้แบกกระเป๋าหมอกับ Arc Thrower ไปพร้อมกันจะเป็นคลาสที่มีประโยชน์มาก

              Colonel
              Savior : เพิ่มประสิทธิภาพกระเป๋าหมอ(Medkits) อีก 4 (หากอัพ Improve Medkits แล้วจะฮีลได้ถึง 10HP!)
              Sentinel : ยิง Overwatch ได้เทิร์นละ 2 ครั้ง

              ข้อแนะนำ :
              -Sprinter + Field Medic จะเป็นสายหมอเต็มตัว วิ่งช่วยเพื่อนได้เกือบทั้งแมพ ถ้าอัพ Revive แล้วได้อัพ Don't die on me ใน Officer School ด้วยจะพบว่าในทีมเราไม่ค่อยมีใครตายเลย (ยกเว้นหมอจะซวยโดนยิงลงไปนอนดิ้นซะเอง ชุบตัวเองไม่ได้นะจ๊ะ)
              -Covering Fire แรกๆไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่แต่พอได้ Sentinel ตอนเลเวลสุดท้ายนี่จะเป็นคลาสตั้งรับที่เก่งมาก
              -Smoke and Mirrors + Dense Smoke จะช่วยชีวิตทีมฝ่ายเราได้บ่อยมาก โดยเฉพาะกรณี Assault หรือ Heavy อยู่กลางดงteen ขว้างระเบิดควันหนุนไปเรื่อยๆเกมพลิกได้ง่ายๆเลยทีเดียว
              -หากเล่นความยากระดับ Classic ขึ้นไปหรือเล่นโหมด Ironman ไม่แนะนำให้อัพ Covering Fire เพราะไปยิงแลกกะเอเลี่ยนน่ะมันโครตไม่คุ้มเลย เล่นแบบเซฟๆไปดีกว่า
              -เหมาะจะพกไปทีมละ 2 คน คนแรกใช้ตอนต้นๆเทิร์นและอีกคนใช้ตอนจะจบเทิร์น

              Comment


              • #8
                4.Sniper Class พลซุ่มยิง
                โหด เฉียบขาด อันตราย พลซุ่มยิงสามารถสร้างความเสียหายได้สูงที่สุดและสามารถโจมตีได้จากที่ไกลๆ หากใช้งานถูกที่ถูกเวลาจะเป็นหนึ่งในคลาสที่โหดมาก
                อาวุธ : ปืนไรเฟิ้ลซุ่มยิง , ปืนพก (เป็นคลาสที่ได้ใช้ปืนพกบ่อยที่สุด)
                ึึึความพิเศษของคลาสนี้คือใช้ปืนไรเฟิ้ลซุ่มยิง ซึ่งแรงและแม่นยำมากได้ แต่ข้อเสียคือจะแม่นเมื่อศัตรูอยู่ไกลๆและไม่สามารถเดิน+ยิงในเทิร์นเดียวกันได้ จึงจำเป็นต้องสลับหยิบเอาปืนพกมาใช้แทนอยู่บ่อยครั้ง ควรอัพเกรตปืนพกดีๆไว้ให้คลาสนี้ใช้โดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นคลาสที่ค่อนข้างเล่นยากและมีผลต่้อทีมสูง เราจึงขอใส่รายละเอียดเยอะหน่อยนะ

                Squaddie
                Headshot (ส่องหัว) : เล็งศัตรูที่หัว 1 เป้าหมายและยิงออกไป มีโอกาสเพิ่มอัตรา Critical 30% และเพิ่มความเสียหายตาม Tech อาวุธที่ใช้ , ใช้ได้ 2 เทิร์นต่อ 1 ครั้ง

                Corporal
                Snap Shot : ทำให้สามารถเ้ดินและยิงปืนไรเฟิ้ลซุ่มยิงในเทิร์นเดียวกันได้ แต่ลดความแม่นยำลง -20
                Squadsight : เพิ่มระยะยิงให้สามารถยิงเป้าหมายที่เพื่อนในทีัมมองเห็นได้ (ไกลมากๆ เกือบสุดฉาก แต่มีข้อแม้คือห้ามมีอะไรมาขวางระหว่างพลซุ่มยิงกับเป้าหมาย)
                คอมเมนท์ : สไนเปอร์แยกเป็นสองสายหลักๆตอนนี้ คือสายเดินยิงกับสายนั่งซุ่มยิง โดยส่วนตัวแล้วคิดว่า Snapshot นี่หักความแม่นยำไปเยอะมากเพื่อแลกกับความคล่องตัวที่คลาสนี้ไม่มี ส่วน Squadsight หากใช้ดีๆคือเป็นสไนเปอร์สายซุ่มยิง อยู่แนวหลังคนเดียวในที่ๆมองเห็นฉากได้กว้างๆและเก็บคิลให้เพื่อนซึ่งจะปลอดภัยกว่าและสร้างความเสียหายได้แรงกว่าจะเอาตัวเองไปเสี่ยง

                Sergeant
                Gunslinger : เพิ่มความเสียหายเวลาโจมตีด้วยปืนพก +2
                Damn Good Ground : เพิ่มความแม่น +10 และป้องกัน +10 เมื่อโจมตีหรือโดนโจมตีจากเป้าหมายที่อยู่พื้นต่ำกว่าเรา ยิ่งสูงกว่ามากสกิลนี้ยิ่งส่งผลเยอะ
                คอมเมนท์ : ต้องยอมรับว่ายอดเยี่ยมทั้งสองสกิล ลำบากใจมากเมื่อต้องเลือกอันใดอันหนึ่ง หากชอบวิ่งยิงด้วยปืนพก Gunslinger จะดีกว่า เพราะปืนพกตอนท้ายๆเกมเมื่ออัพสุดแล้วจะพบว่ามัน"ใช้ได้"เลย ส่วน Damn Good Ground แรกๆจะใช้ยากซักหน่อยแต่พอมีชุดเกราะที่ใช้ปืนตะขอปีนขึ้นที่สูงๆได้หรือได้เกราะบินปุ๊บจะพบว่าเป็นสกิลที่สุดยอดมาก!

                Lieutenant
                Disabling Shot : ยิงกระสุนช็อตทำให้ปืนและระบบอาวุธของศัครูเสียหาย ศัตรูต้องทำการรีโหลดปืนถึงจะยิงได้(เสียเทิร์น) ความแรงของกระสุนนั้นเบามากและไม่มีโอกาสติด Critical
                Battle Scanner : ขว้าง Scanner ไปในพื้นที่เป้าหมาย แสกนเนอร์จะทำให้มองเห็นพื้นที่นั้น 2 เทิร์นในวงกว้าง ใช้ได้ 2 ลูก
                คอมเมนท์ : แสกนเนอร์มีประโยชน์มากถึงมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในที่อับ ขว้างเข้าไปเพื่อระบตำแหน่งศัตรูก่อนบุกจริง ถึงจะเป็นสกิลที่ดีมากแต่ Disabling Shot มีประโยชน์ในการช่วยจับเป็นเอเลี่ยนมาก และในท้ายๆเกมศัตรูที่ใช้อาวุธแรงๆ(เช่น Elite Muton และ Sectopod) ท่านี้มีไว้ป่วนศัตรูระัดับสูงๆได้ชะงัดอย่างแท้จริง

                Captain
                Executioner (เพชรฆาต) : เพิ่มความแม่นยำ +10 เมื่อโจมตีเป้าหมายที่เลือดต่ำกว่าครึ่ง (หาร2ปัดเศษลง)
                Opportunist : เมื่อใช้ Overwatch จะไม่เสียความแม่นยำอีกต่อไป แถมยังเพิ่มโอกาสยิงติด Critical ด้วย
                คอมเมนท์ : Executioner เหมาะสำหรับเก็บคิลมากคิดซะว่าเป็นสายโจมตี ส่วน Opportunist เป็นสกิลป้องกันแต่อย่าลืมว่า Overwatch ด้วยไรเฟิ้ลซุ่มยิง คอมโบกับ Squadsight + Damn Good Ground ปีนขึ้นที่สูงๆแล้วกดส่องเอาไว้สามารถพลิกเกมในการป้องกันของเราได้เรียกว่ามีประสิทธิภาพมาก

                Major
                Low Profile : ที่กำบังครึ่งตัวจะนับโบนัสให้เป็นแบบเดียวกับที่กำบังเต็มตัว

                Colonel
                In The Zone : หากพลซุ่มยิงฆ่าศัตรูที่กำลังถูกตีโอบหรือไม่เข้าที่กำบัง จะถือว่า Action นั้นฟรี (ไม่เสีย Action)
                Double Tap : หากไม่เดินจะสามารถใช้ Action ในการยิงจู่โจมแบบธรรมดา , Headshot หรือ Disabling Shot ได้(จากปกติเวลายิงจะเสียเทิร์นเลย อันนี้จะกินแค่ 1 Action แปลว่าหากไม่เดินจะสามารถยิงได้เทิร์นล่ะ2ครั้ง)
                คอมเมนท์ : เป็นสกิลที่โหดมากทั้งคู่ แต่หากใครเล่นสไนเปอร์สายเดินยิงล่ะก็ลืมท่า Double Tap ไปได้เลย เพราะจุดเด่นของมันคือต้องไม่เดิน เหมาะสำหรับยิงไกลๆและสร้างความเสียหายครั้งล่ะมากๆ (คิดดูว่ายิงได้เทิีร์นละ2นัดจะโหดแค่ไหน สามารถฆ่าพวกตัวท้ายๆเกมได้ภายในเทิร์นเดียวเลย) ในขณะที่ In The Zone มีประโยชน์มากหากใช้ถูกที่ถูกเวลา เพราะมันสามารถใช้คู่กับ Overwatch ได้ หากฆ่าศัตรูที่กำลังรุกคืบหรือออกจากทีกำบังได้ก็ถือว่าช็อตนั้นฟรีไปเลย ซึ่งมีประโยชน์มากเมื่อคอมโบกับ Flush ของ Assault Class โดยให้สไนเปอร์กด Overwatch และ Assault กด Flush บังคับให้ศัตรูเดิน(ซึ่งอาจจะคอมโบกับ Suppression ของเฮฟวี่อีกทีก็ได้ตามใจ) อีกเรื่องคือ หาก In The Zone ในเทิร์นโจมตีเราให้สไนเปอร์เป็นคนเก็บคิล จะทำให้โจมตีต่อเนื่องได้เรื่อยๆจนกว่าจะฆ่าหมดหรือหมดเป้าหมายจะยิง (หรือยิงฆ่าไปแล้วกดรีโหลดก็ยังได้) นับว่าเป็นสกิลที่โหดมากทั้งคู่หากใช้เป็น

                แนวทาง :
                -สายเดินลุยมีข้อดีคือสามารถวิ่งไป Disabling Shot หรือตีโอบศัตรูได้ง่ายๆ โดยเฉพาะปืนพกท้ายๆเกมนั้นนับว่าแรงมาก แต่ข้อเสียคือสไนเปอร์นั้นบอบบางมากเมื่อเทียบกับคลาสอื่น หากเดินไม่ระวังก้าวเดียวก็จบเห่
                -สายนั่งซุ่มยิงจะโหดมากในกรณีสร้างความเสียหาย แต่หากโดนตัวที่ Melee โหดๆเข้าใกล้หรืออยู่***งจากทีมมากเกินไปแล้วโดนซุ่มโจมตีล่ะก็ไม่รอดชัวร์ แถมเวลาบุกยานเอเลี่ยนหรือฐานเอเลี่ยนที่มีฉากบังเยอะๆจะรู้สึกว่าสายนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์เลย
                -ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรให้สไนเปอร์โดนโจมตี พยายามหาเกราะ Ghost หรือเกราะบินใส่ให้จะดีที่สุด



                _________________


                คลาสสุดท้ายแล้ว อยากได้อะไรอีกบอกนะ ว่างๆจะมาพิมพ์ให้

                Comment


                • #9
                  จัดตัวยังไงอ่ะครับ ผมเอาลูกซองไป 3 แต่อัพสายป้องกันทั้งหมด สไน 1 เฮฟวี่ 1 ซัพพอร์ต 1 อัพมั่วๆ อ่ะครับ รอดกลับมา 3-4 ตัวถือว่าบุญโขแล้วครับ (Classic นะครับ)

                  Comment


                  • #10
                    เรายังไม่เึคยเล่น Ironman นะแต่ทีมที่จัดปกติก็

                    -Assault x1 -สายป้องกันเต็มตัว ใช้ Assault Rifle , Inventory : เกราะ Titan, เืสื้อนาโน หรือ เกราะเปลือกคาตาลิส เน้นเหนียว ล่อกระสุนเต็มที่
                    -Support x2 - สายหมอ วิ่งเต็มตัว , Inventory :เกราะ Ghost , Medkit + Arc Thrower(อัพเกรตซ่อม SHIV)
                    -Sniper x1 -สายซุ่มยิง+In The Zone , Inventory : เกราะ Ghost หรือ ArcAngel , SCOPE (เน้นเก็บคิล)
                    -Heavy x1 -สายถล่ม(จรวด 3 ลูก) , Inventory : เกราะ Titan หรือ Ghost , SCOPE (หรือ Alien Grenade)
                    -SHIV x1 (ธรรมดา ,อัลลอยด์ , บิน ตามแต่งบประมาณและเทคโนโลยีที่จะสร้าง)

                    เวลาบุกยานเอเลี่ยนจะเอาสไนเปอร์ออกแล้วยัด SHIV ไป 2 ลำแทน เพราะพวก Sectroid Commander กับ Ethereal มันจะกลัวหุ่นมากๆ

                    Comment


                    • #11
                      ตัว Sniper ถ้าอยากอัพสกิลสุดท้ายเป็น In The Zone ควรอัพสกิลยังไงดีครับ

                      เห็นคลิปนี้แล้วดูโหดมาก

                      http://www.youtube.com/watch?v=q-pg_L-T74k&hd=1&fs=1" width="644" height="390">http://www.youtube.com/watch?v=q-pg_L-T74k&hd=1&fs=1" />BORKED

                      http://www.youtube.com/watch?v=q-pg_L-T74k&hd=1
                      Last edited by Eriochrom; 1 Nov 2012, 20:13:40.

                      Comment


                      • #12
                        อยากทราบว่าพวกอัพเกรดที่อัพจาก foundary อ่ะครับมันส่งผลยังไงผมอัพไปเกือบหมดแล้วไม่ค่อยเห็นการเปลี่ยนแปลงเลย เช่น scope อ่ะมันเพิ่มอะไรหว่าไปดูที่ scope มันก็ไม่บอกว่า+ไรเพิ่ม มันน่าจะทำบอกนะ

                        ยกเว้นอัพเกรดพวก SHIV นี่เห็นเลยเปลี่ยนปืน หรืออะไรต่างๆ

                        Comment


                        • #13
                          โทษทีจ้าทั้งคู่เลย >w<" ไม่ได้กลับมาดู'ทู้ นี้เลย

                          Sniper สาย In The Zone อัพสายสไนนั่งเบสเต็มตัวไปเลยคือ Squadsight+Damn Good Ground+Disabling Shot แต่! อัพ Executioner มาด้วย เอาไว้เก็บคิลเนียนๆ ให้คนอื่นยิงให้น่วมเจ็บเกินครึ่งหลอดก่อนแล้วเอาสไนเป็นคนคิลทีหลัง แต่ถ้าไม่อยู่ในข้อแม้ว่านอก cover หรือโดนตีโอบมันก็ไม่ยิงต่อนะ

                          Foundary บางทีมันจะอัพเพิ่มประสิทธิภาพของ(ซึ่งมันไม่บอกหรอกว่าเท่าไหร่) อย่างเช่นกล่องพยาบาลจากเดิมพ่นทีละ4 จะกลายเป็น 6 แทน และ Arc Thrower จากเดิมโอกาศจับ 95% ที่เลือด 1 จะกลายเป็น 95% ที่เลือด 3 แทน (และ80% ที่เลือด6) ซึ่งจำเป็นมากนะ
                          แต่ไอ้ของไม่แน่นอนก็มีเช่นอัพเกรตปืนพก อันนี้ไม่รู้จริงๆว่านอกจากแม่นขึ้นกับแรงขึ้นมันเพิ่มอะไรรึเปล่า แถมรู้สึกว่าจะส่งผลแยกกันตาม tech ของปืนพกที่ใช้ด้วย
                          ที่เหลือก็มี...อัพเกรตระเบิดมือให้กลายเป็นระเบิดมือเอเลี่ยน(ระยะเพิ่ม+แรงขึ้น?) อัพให้หุ่น SHIV ซ่อมเร็วขึ้น กับอัพเกรตให้สามารถเร่งสร้างได้(Rush Production โดยใช้ทรัพยากรเพิ่มอีกเท่าตัวนึง จะเสร็จเร็วขึ้นเท่าตัวเหมือนกัน)

                          Comment


                          • #14
                            ค่า alloys นี่หาได้จากไหนบ้างครับ หมดเกลี้ยงตลอดด

                            Comment


                            • #15
                              Originally posted by Minnasama View Post
                              โทษทีจ้าทั้งคู่เลย >w<" ไม่ได้กลับมาดู'ทู้ นี้เลย

                              Sniper สาย In The Zone อัพสายสไนนั่งเบสเต็มตัวไปเลยคือ Squadsight+Damn Good Ground+Disabling Shot แต่! อัพ Executioner มาด้วย เอาไว้เก็บคิลเนียนๆ ให้คนอื่นยิงให้น่วมเจ็บเกินครึ่งหลอดก่อนแล้วเอาสไนเป็นคนคิลทีหลัง แต่ถ้าไม่อยู่ในข้อแม้ว่านอก cover หรือโดนตีโอบมันก็ไม่ยิงต่อนะ

                              Foundary บางทีมันจะอัพเพิ่มประสิทธิภาพของ(ซึ่งมันไม่บอกหรอกว่าเท่าไหร่) อย่างเช่นกล่องพยาบาลจากเดิมพ่นทีละ4 จะกลายเป็น 6 แทน และ Arc Thrower จากเดิมโอกาศจับ 95% ที่เลือด 1 จะกลายเป็น 95% ที่เลือด 3 แทน (และ80% ที่เลือด6) ซึ่งจำเป็นมากนะ
                              แต่ไอ้ของไม่แน่นอนก็มีเช่นอัพเกรตปืนพก อันนี้ไม่รู้จริงๆว่านอกจากแม่นขึ้นกับแรงขึ้นมันเพิ่มอะไรรึเปล่า แถมรู้สึกว่าจะส่งผลแยกกันตาม tech ของปืนพกที่ใช้ด้วย
                              ที่เหลือก็มี...อัพเกรตระเบิดมือให้กลายเป็นระเบิดมือเอเลี่ยน(ระยะเพิ่ม+แรงขึ้น?) อัพให้หุ่น SHIV ซ่อมเร็วขึ้น กับอัพเกรตให้สามารถเร่งสร้างได้(Rush Production โดยใช้ทรัพยากรเพิ่มอีกเท่าตัวนึง จะเสร็จเร็วขึ้นเท่าตัวเหมือนกัน)
                              รู้เยอะจัง เล่นจบแบบ impsoosible แล้วเหรอครับ อิอิ

                              Comment

                              Working...
                              X